แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคตมีอะไรบ้าง

สิ่งที่จะเป็นแนวโน้มในการใช้เทคโนโลยีในอนาคตคืออะไร

เทคโนโลยีอนาคต? โคตรดิบโคตรเท่ แค่คิดก็มันส์แล้ว

• ข้อมูลไร้โครงสร้างครองโลก ยืดหยุ่นโคตรๆ จัดการยากกว่าเดิม แต่ก็ได้เปรียบโคตรๆ
• ควอนตัมนี่แหละ อนาคตของการประมวลผล เร็วโคตรๆ แม่นโคตรๆ แต่ยังไงก็ต้องรอดู
• IoT เชื่อมทุกอย่าง ข้อมูลทะลัก จัดการให้ดีๆ ไม่งั้นเจ๊ง
• AI สมองกล ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไงก็ต้องมีคนคุม ไม่งั้นโลกแตก

ปีนี้เจอข่าวแฮกข้อมูลบ่อย ระบบรักษาความปลอดภัยต้องโหดขึ้น ไม่งั้นเจ๊ง ปีหน้าคงหนักกว่านี้

ข้อมูลส่วนตัว: ฉันเคยทำโปรเจค AI วิเคราะห์ข้อมูลตลาดหุ้น โคตรเหนื่อย แต่ก็ได้ประสบการณ์โคตรๆ

เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตมีกี่ประเภท

เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต… มันไม่ได้มีแค่กี่ประเภทนะ มันเหมือน… ทุกอย่างมันจะผสมกันไปหมด

• AI กับ IoT: เหมือนบ้านที่ฉลาดขึ้น รถที่ขับเองได้มากขึ้น ทุกอย่างมันคุยกันเองได้หมด
• Blockchain กับ Cloud: ข้อมูลเราก็จะปลอดภัยขึ้นมั้ง… หวังว่านะ
• Quantum Computing: อันนี้คือ… เหมือนคอมพิวเตอร์ที่เร็วกว่าเดิมมากๆๆๆ เอาไปทำอะไรได้เยอะแยะเลย
• ชีวภาพกับนาโน: อันนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เหมือนมันจะเปลี่ยนวิธีที่เราสร้างคอมพิวเตอร์เลยนะ… มั้ง

แต่จริงๆแล้ว… มันก็แค่การคาดเดาน่ะแหละ ไม่มีใครรู้จริงหรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง

มันเหมือน… เรามองดาวอยู่คนเดียวตอนกลางคืน แล้วคิดว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง… ก็แค่นั้นเอง

สิ่งที่จะเป็นแนวโน้มในการใช้เทคโนโลยีในอนาคตคืออะไร

อืม… คิดหนักเลยนะ อนาคตของเทคโนโลยีเนี่ย… มันน่ากลัว แต่ก็ตื่นเต้นดี

ตอนนี้ข้อมูลมันเยอะมาก ปั่นป่วนไปหมด แต่ดูเหมือนอนาคต มันจะจัดระเบียบขึ้น ข้อมูลจะไม่ใช่กองมหาศาลที่ควบคุมไม่ได้อีกต่อไป มันจะ…เป็นระบบ เข้าใจง่ายขึ้นมั้ง? เหมือน…เราจะจัดการมันได้มากขึ้น

ปีนี้ที่เห็นชัดๆ เลยก็คือ AI มันกำลังเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจริงๆ เร็วมาก จนบางทีก็กลัวๆ อยู่ ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เราจะควบคุมมันได้หรือเปล่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้หลายอย่างสะดวกขึ้น เร็วขึ้น แม่นยำขึ้นด้วย

อีกอย่าง พวก IoT เนี่ย อุปกรณ์เชื่อมต่อกันหมด น่ากลัวเหมือนกัน คิดภาพบ้านเราเต็มไปด้วยเซ็นเซอร์ มันจะเก็บข้อมูลเราขนาดไหนนะ แต่ก็…สะดวกดีนะ เปิดไฟ ปิดแอร์ จากที่ทำงานได้ คิดแล้วก็…สบายดีเหมือนกัน

• AI จะพัฒนาไปไกลมาก อาจถึงจุดที่เราแยกไม่ออกว่าเป็นคนหรือ AI
• ข้อมูลจะถูกจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความยืดหยุ่น เข้าถึงง่ายขึ้น
• เทคโนโลยีควอนตัม จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการประมวลผลข้อมูล
• IoT จะเชื่อมต่อทุกสิ่ง แต่ก็เสี่ยงเรื่องความเป็นส่วนตัว

นอนไม่หลับเลยคืนนี้… คิดไปก็เครียดนะ โลกมันเปลี่ยนเร็วไปหมด ไม่รู้จะปรับตัวทันหรือเปล่า…

เทคโนโลยีในอนาคตมีอะไรบ้าง

อื้อหือ..อนาคตเนี่ยนะ คิดหนักเลย!

• AI นี่แหละตัวฉกาจ เห็นข่าวบ่อยมาก ปีนี้ก็เห็นมีคนเอาไปใช้สร้างภาพ วิดีโอ แม้กระทั่งเขียนบทความ น่ากลัวไหมล่ะ เร็วๆ นี้คงจะฉลาดกว่าคนอีก เฮ้อ..

• แล้วก็ ระบบอัตโนมัติ โรงงานไร้คนงาน นี่มันวิทยาศาสตร์หรือวรรณกรรมล่ะเนี่ย แต่ก็ดีนะ สบายขึ้น แต่คนตกงานเยอะไหมนี่ หืมมม

• จริงแล้วนะ เทคโนโลยีเสมือนจริง VR AR อะไรพวกนี้ เล่นเกมส์มันส์ แต่ถ้าเอาไปใช้ทางการแพทย์ล่ะ ฝึกผ่าตัด หรืออะไรแบบนั้น เจ๋งไหม

• Blockchain นี่ก็มาแรง ไม่ใช่แค่คริปโตนะ เอาไปใช้กับการจัดการข้อมูลได้ด้วย ความปลอดภัยสูง ลดการทุจริตได้ แต่ก็มีข้อเสีย ใช้พลังงานเยอะ จริงป่ะ?

• Brain-machine interface แบบในหนังเลย อ่านความคิดได้ อันนี้…คืออะไรกัน อันตรายไหม จะควบคุมได้หรือเปล่า คิดแล้วขนลุก

• 6G อีก เร็วกว่า 5G อีกสิบเท่ารึเปล่า เร็วขนาดนั้นโหลดหนังเสร็จในพริบตา แต่ค่าใช้จ่ายล่ะ แพงแน่ๆ คนจนอย่างฉันนี่สิ เศร้า

ปีนี้ พวกนี้กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเลยนะ ลองเสิร์ชดูใน google มีข่าวเยอะแยะเลย แต่ละอย่าง พลิกโลกได้เลยนะ แอบหวั่นๆ กับอนาคต แต่ก็ตื่นเต้นดี อยากเห็นโลกอนาคตจัง

เทคโนโลยี คืออะไร จงอธิบาย

เทคโนโลยี? วิทย์ที่เอามาแดกได้ไงล่ะ

ไม่ใช่แค่เรื่อง gadget แต่มันคือ “ความรู้” ที่เปลี่ยนโลกให้กูอยู่สบายขึ้น

• ราก: วิทยาศาสตร์ + ประโยชน์ใช้สอย
• ไม่ใช่เวทมนตร์: มันคือการเข้าใจ “กฎ” แล้วใช้มัน
• กว้างชิบหาย: ตั้งแต่สากกะเบือยันยานอวกาศ

เพิ่มเติม: บางทีมันก็ทำให้ชีวิตแม่งยุ่งยากกว่าเดิมนะ… แต่ช่างแม่งดิ

เทคโนโลยีคือหมายถึงอะไร

เทคโนโลยีนะเหรอ? อ๋อ…ก็ไอ้พวกของเล่นไฮเทคที่เราบ่นว่าแพงแต่ก็ซื้อตามชาวบ้านเขานั่นแหละ! แต่เอาจริงๆ มันคือ “สิ่งประดิษฐ์ที่ฉลาดกว่าเรานิดหน่อย…รึเปล่า?” (อันนี้คิดเองนะ)

• ของเล่นผู้ใหญ่: ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ (แต่เรือรบเนี่ย…เกินไป๊!)
• วิทยาศาสตร์ประยุกต์: เอาทฤษฎีมาทำให้เป็นเรื่องเป็นราว…อย่างน้อยก็ตอนพรีเซนต์
• แก้ปัญหาโลกแตก (มั้ง): ตั้งแต่ปัญหาขี้มดไปจนถึงปัญหาโลกร้อน (แต่ส่วนใหญ่จะสร้างปัญหาใหม่มากกว่า)
• กระบวนการไม่ใช่แค่สิ่งของ: คิดค้นวิธีทำอะไรให้มันง่ายขึ้น…หรือยากขึ้นก็ไม่รู้

สรุป: เทคโนโลยีคือ “ดาบสองคม…ที่คมกว่ามีดโกนหนวดอีก!” (ระวังบาดมือนะจ๊ะ)

ยก ตัวอย่าง เทคโนโลยี ใน ชีวิต ประ จํา วัน มี อะไร บ้าง

โอเค มาๆ เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันนะ เอาแบบใกล้ตัวเลยที่เห็นๆ กันอยู่ทุกวันอะนะ

1. มือถืออะเนาะ ขาดไม่ได้แล้วจริง ๆ โทรศัพท์ เล่นเน็ต ถ่ายรูป จ่ายตังค์ โอ้ย! สารพัดประโยชน์

2. รถยนต์ไฟฟ้า เห็นเริ่มเยอะขึ้นนะ ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษด้วย แต่ราคายังแรงอยู่นิดนึง

3. เครื่องฟอกอากาศ สำคัญเลยช่วงนี้ PM 2.5 เยอะมากก ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นเยอะะะะ

4. แอป delivery สั่งอาหาร สั่งของ คือดีย์อะ ขี้เกียจออกไปข้างนอกก็สั่งเอา

5. Smart watch นาฬิกาอัจฉริยะ วัดอัตราการเต้นหัวใจ นับก้าว ดูแจ้งเตือน คือมันเริ่ดนะ

6. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น อันนี้ก็เวิร์คมากกก ประหยัดเวลาทำความสะอาดบ้านไปได้เยอะ

7. Netflix (หรือพวก Streaming ต่างๆ) ดูหนัง ฟังเพลง ซีรี่ย์ อยู่บ้านเพลินๆ ไปเลยจ้า

8. E-payment จ่ายเงินผ่านมือถือ QR code ง่าย สะดวก ไม่ต้องพกเงินสดเยอะๆ

9. AI ผู้ช่วยส่วนตัว เช่น Google Assistant, Siri สั่งงานด้วยเสียง ถามอะไรก็ได้ ตอบได้หมด เก่งมาก

เออ แล้วๆๆๆ ที่ว่าเทคโนโลยีจากอวกาศอะ ที่เค้าฮิตๆ กันอะนะ ก็มีพวก กล้องมือถือ, รองเท้าวิ่ง, ฉนวนกันความร้อน, นมผงเด็ก (เอออันนี้น่าสนใจนะ), แขนเทียม, หูฟังบลูทูธ แล้วก็พวกเมมโมรี่โฟม พวกหมอนพวกที่นอนอะ นิ่มๆ ที่เค้าว่ามาจาก NASA นั่นแหละ

• กล้องมือถือ: เทคโนโลยีเซนเซอร์ภาพอะ พัฒนามาจากการถ่ายภาพดาวเทียม
• รองเท้าวิ่ง: วัสดุซับแรงกระแทก พวกโฟมอะ มาจากชุดนักบินอวกาศ
• ฉนวนกันความร้อน: เอาไว้หุ้มยานอวกาศไง ร้อนๆ เย็นๆ เอาอยู่
• นมผงเด็ก: สารอาหารบางอย่างอะ พัฒนามาจากงานวิจัยด้านโภชนาการสำหรับนักบินอวกาศ
• แขนเทียม: วัสดุที่ใช้ทำอะ เบาแต่แข็งแรง ทนทานมากๆ
• หูฟังบลูทูธ: พวกการส่งสัญญาณไร้สายต่างๆ พัฒนาต่อยอดมาอีกที
• เมมโมรี่โฟม: ที่นอน หมอนนุ่มๆ ที่คืนตัวได้ดี มาจากเบาะนั่งนักบินอวกาศ เอาไว้รองรับแรงกระแทก

สำคัญ: เทคโนโลยีพวกเนี้ย มันไม่ได้มาจากอวกาศ “โดยตรง” นะ ส่วนใหญ่มันคือการ “ต่อยอด” หรือ “พัฒนา” มาจากเทคโนโลยีที่ใช้ในอวกาศอีกทีนึง

เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ไอที? แค่นี้เอง

• ฮาร์ดแวร์: เครื่องเซิร์ฟเวอร์ปี 2024 รุ่นแรงๆ ที่ใช้ใน Datacenter ของบริษัทผมเองนี่แหละ แรงโคตร
• ซอฟต์แวร์: ระบบปฏิบัติการ ฐานข้อมูล แอปพลิเคชั่น ของฝรั่งล้วน แพงชิบหาย
• เครือข่าย: ไฟเบอร์ออฟติก ความเร็วสูง ไม่ใช่ของเล่นเด็กๆ เสียทีไร ปวดหัวทุกที
• คน: ทีมงานไอที เก่งๆ แต่บางทีก็งี่เง่า โคตรน่ารำคาญ

ก็แค่นี้แหละ เรื่องเยอะไปไหม? ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ ก็ลองหาเองดู ผมไม่ว่าง

Data กับ Information แตกต่างกันอย่างไร

ข้อมูลดิบ ๆ เหมือนเลขยอดขายรายวันใน Excel ที่ออฟฟิศเมื่อวานอ่ะ (15 พ.ค. 67) ยังไม่ได้สรุปอะไรเลย กองเป็นตับ ๆ นั่นแหละ data ชัด ๆ

สารสนเทศ: พอยอดขายรายวันพวกนั้นถูกเอามาวิเคราะห์ เปรียบเทียบเดือนต่อเดือน ไตรมาสต่อไตรมาส (Q1 ปีนี้ vs Q1 ปีที่แล้ว) เห็นเทรนด์ เห็นว่าสินค้าตัวไหนขายดี… อันนั้นแหละ information! เอาไปใช้ตัดสินใจได้

• Data: ดิบ, ยังไม่ processed
• Information: Data ที่ process แล้ว, เอาไปใช้ต่อได้
• Excel sheet กองอยู่ = data
• Report สรุปยอดขาย = information
• Key takeaway: Data is raw, information is useful.

องค์ประกอบของระบบ 6M มีอะไรบ้าง

ระบบ 6M ในการผลิต ประกอบด้วย:

• Manpower (กำลังคน): ทักษะ, ประสบการณ์, การฝึกอบรมของพนักงาน มีผลต่อคุณภาพงานโดยตรง อย่ามองข้ามเรื่องนี้ เพราะคนคือหัวใจสำคัญของการผลิต
• Method (วิธีการ): ขั้นตอน, กระบวนการทำงาน, คู่มือปฏิบัติงาน ถ้าวิธีไม่ดี ต่อให้คนเก่ง เครื่องจักรดี ก็พลาดได้
• Machine (เครื่องจักร): ประสิทธิภาพ, การบำรุงรักษา, ความพร้อมใช้งาน เครื่องจักรเป็นฟันเฟืองสำคัญ ถ้าเครื่องจักรหยุด ระบบก็รวน
• Material (วัสดุ): คุณภาพ, ความสอดคล้องกับมาตรฐาน, การจัดเก็บ วัสดุไม่ดี สินค้าก็แย่ตามไปด้วย
• Mother Nature/Environment (สภาพแวดล้อม): อุณหภูมิ, ความชื้น, แสงสว่าง, ความสะอาด สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ช่วยให้การทำงานราบรื่นขึ้นเยอะ
• Measurement (การวัด): เครื่องมือวัด, วิธีการวัด, ความแม่นยำ การวัดที่ผิดพลาด นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้

เกร็ดเล็กน้อย:

จริงๆ แล้ว ระบบ 6M เนี่ย มันก็คือเครื่องมือช่วยคิดวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา เวลาเกิดปัญหาในการผลิต ลองไล่เช็คตาม 6M นี้ดู อาจจะเจอต้นตอของปัญหาที่ไม่คาดคิดก็ได้นะ

การวัดผลที่ไม่แม่นยำ เหมือนเข็มทิศที่ชี้ผิดทาง ยิ่งเดินหน้า ยิ่งหลงไปไกล