ทารกกี่องศาถึงมีไข้

ดูยังไงว่าทารกมีไข้?

ลูกกูไม่สบาย กูดูออก

• ไข้ต่ำ: 37.5-38.0°C เด็กแม่งซึม กินน้อย วัดซ้ำ
• ไข้กลาง: 38.1-39.0°C ตัวร้อนจี๋ เช็ดตัว
• ไข้สูง: เกิน 39.0°C แดกยา ลดไวๆ

เพิ่มเติม:

• เช็ดตัว: น้ำอุ่น ไม่เย็นเจี๊ยบ
• ยาลดไข้: ตามหมอสั่ง อย่ามั่ว
• ถ้าไม่ลง: ไปหาหมอ อย่าดื้อ
• ปีนี้ (2567): ไข้หวัดใหญ่ระบาด ดูแลลูกดีๆ ไอ้สัส

จะรู้ได้ไงว่าทารกไม่สบาย?

ลูกฉันป่วย…โอ๊ย พูดแล้วใจหาย ตอนนั้นน้องเพิ่ง 3 เดือนเองมั้ง ไปฉีดวัคซีนมาที่คลินิกแถวบ้าน (หมอ…ชื่ออะไรนะ ลืมแล้ว) กลับมาบ้านก็เริ่มซึม ๆ เล่นก็น้อยลง จากปกติจะอ้อแอ้ทั้งวัน

• ไข้ขึ้น: จับตัวแล้วร้อนจี๋เลย ตอนแรกนึกว่าอากาศร้อนเฉย ๆ แต่พอวัดไข้…38.5! ตกใจมาก
• ซึม: ปกติจะยิ้มเก่งมาก แต่วันนั้นแทบไม่ยิ้มเลย มองหน้าก็เหมือนคนไม่มีแรง
• กินนมน้อยลง: ปกติกินเก่งมาก กินทุก 3 ชั่วโมง แต่วันนั้นกินไปนิดเดียวก็หันหน้าหนีแล้ว
• หายใจเร็ว: ตอนแรกไม่ได้สังเกต แต่พอนอนฟังใกล้ ๆ หายใจถี่มาก เหมือนคนเหนื่อย

ตอนนั้นคิดในใจ “แย่แล้ว” รีบโทรหาหมอเลย หมอบอกให้รีบพาไปโรงพยาบาลด่วน โชคดีที่ไปทัน หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่…น่ากลัวมาก!

ข้อสังเกตเพิ่มเติม (ปี 2567):

• สังเกตสีผิว: ถ้าลูกตัวซีด ๆ นี่ไม่ดีแน่ ๆ
• อาเจียน: ถ้าอาเจียนออกมาเป็นสีแปลก ๆ เช่น เขียว หรือมีเลือดปน ต้องรีบไปหาหมอ
• ชัก: อันนี้ไม่ต้องคิดมาก รีบเรียกรถพยาบาลเลย
• หยุดหายใจ: ถ้าลูกหยุดหายใจนานเกินไป (เกิน 15 วิ) ต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น (CPR) แล้วรีบไปโรงพยาบาล

จะรู้ได้ไงว่าทารกร้อนหรือหนาว?

สังเกตง่ายๆ:

• สัมผัสหลังและท้อง: อุ่นพอดีคือปกติ ร้อนจัดหรือเย็นยะเยือกคือผิดปกติ
• เหงื่อออกผิดปกติ: มากเกินไปหรือไม่มีเลย แสดงถึงภาวะผิดปกติ
• วัดอุณหภูมิ: ใช้อุปกรณ์วัดอย่างถูกต้อง ปี 2566 อุณหภูมิปกติทารกประมาณ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส

อย่าพึ่งความรู้สึกตัวเอง ใช้เครื่องมือวัด แม่นยำกว่า ชีวิตเล็กๆ แพ้ทางง่ายๆ

เพิ่มเติม: อุณหภูมิร่างกายทารกอาจผันผวนได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น กิจกรรม การแต่งกาย สภาพแวดล้อม การวัดอุณหภูมิต้องทำอย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ที่ถูกต้อง หากสงสัย ปรึกษาแพทย์ ความปลอดภัยสำคัญที่สุด

ทารกนอนไม่ห่มผ้าได้ไหม?

โอ้โห! คำถามนี้สำคัญมากนะเนี่ย อย่าคิดว่าเด็กทารกเป็นตุ๊กตาที่เราจะห่มผ้าได้ตามใจชอบเชียวล่ะ! อันตรายกว่าที่คิดเยอะ! ปีนี้เอง (ข้อมูลปี 2566 จากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข) ก็มีข่าวเด็กทารกเสียชีวิตจากสาเหตุแบบนี้เยอะแยะไปหมด คิดสภาพสิ! นอนหลับฝันดีอยู่ดีๆ ดันไปขาดอากาศหายใจเพราะผ้าห่มซะงั้น เศร้าใจจริงๆ!

• ห้ามห่มผ้าหนาๆเด็ดขาด!! คิดซะว่าเด็กๆ เหมือนขนมปังปิ้ง ถ้าเราห่มผ้าหนาๆ เหมือนเอาผ้าห่มมาคลุมขนมปังปิ้ง ความร้อนมันก็ระบายไม่ออก อันตรายสุดๆ! เสี่ยงต่อภาวะ Sudden Infant Death Syndrome (SIDS) หรือที่เรียกว่า “โรคลมชักในเด็กทารก” ฟังดูแล้วก็ขนลุกใช่ไหมล่ะ?

• ชูโรงชุดนอนแบบรัดกุม เลือกชุดนอนแบบปิดมิดชิด ตั้งแต่ลำตัวถึงเท้า เหมือนใส่ชุดนักบินอวกาศเลย อุ่นกำลังดี ปลอดภัยหายห่วง! อย่าลืมดูวัสดุด้วยนะ เลือกแบบระบายอากาศได้ดี อย่าไปเอาแบบหนาๆมาคลุมเหมือนกัน เดี๋ยวลูกเราจะกลายเป็นเจ้าหญิงที่ถูกขังอยู่ในหอคอยสูง ความอบอุ่นเกินไปก็อันตรายเหมือนกันนะ

• ผ้าห่มเฉพาะทาง ถ้าจะใช้ผ้าห่มจริงๆ ต้องเป็นแบบห่อตัวสำหรับเด็กทารกโดยเฉพาะ แบบที่เขาออกแบบมาเพื่อไม่ให้คลุมหน้า เหมือนเราห่อขนมปังด้วยกระดาษไข ความอบอุ่นพอดี ไม่ร้อนเกินไป

เอาเป็นว่า อย่าคิดว่าความรักคือการห่มผ้าให้ลูกหนาๆ ความรักที่แท้จริงคือการดูแลให้ลูกปลอดภัย ไม่ใช่เอาลูกไปเสี่ยงตาย! เข้าใจตรงกันนะ พ่อแม่มือใหม่ทั้งหลาย! นี่คือเรื่องจริงจัง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม: ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลเด็กทารกจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าเชื่อคำบอกเล่าจากเพื่อนบ้านหรือญาติผู้ใหญ่ที่เลี้ยงลูกมาสมัยก่อน เพราะวิธีการเลี้ยงลูกสมัยนี้ มันเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลวิชาการใหม่ๆ แล้วนะ อย่าล้าหลัง!

ดูยังไงว่าทารกป่วย?

สัญญาณเตือนว่าทารกป่วยที่ควรสังเกตมีดังนี้:

• ซึม: ปกติทารกจะมีช่วงตื่นตัว แต่ถ้าซึมผิดสังเกต ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า อาจเป็นสัญญาณอันตราย
• เบื่ออาหาร/ไม่ดูดนม: การปฏิเสธการกินนม อาจบ่งชี้ถึงความไม่สบายตัว หรืออาการป่วย
• การดูดนมเปลี่ยน: ดูดอ่อนแรง หรือดูดแล้วหยุดบ่อยๆ อาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพ
• งอแงผิดปกติ: เด็กร้องไห้เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าร้องไห้มากกว่าปกติ งอแงแบบปลอบยาก ต้องสังเกต
• มีไข้: วัดไข้แล้วสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส (99.5 องศาฟาเรนไฮต์) ถือว่ามีไข้ ควรปรึกษาแพทย์
• อาเจียน: อาเจียนบ่อยๆ หรือพุ่งออกมา อาจมีภาวะติดเชื้อ หรือปัญหาในระบบทางเดินอาหาร
• สะดือมีกลิ่น/หนอง/เลือด: บ่งชี้ถึงการติดเชื้อที่สะดือ ต้องรีบไปหาหมอ
• ตัวเหลือง: ถ้าตัวเหลืองผิดปกติ โดยเฉพาะหลัง 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด อาจมีภาวะตัวเหลือง

หมายเหตุ: อาการเหล่านี้เป็นเพียงข้อสังเกตเบื้องต้น การวินิจฉัยที่ถูกต้องจำเป็นต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เกร็ดเล็กน้อย:

• “ความเงียบ” ของทารกก็สำคัญ บางทีเด็กที่ปกติร้องเก่งมาก แต่กลับเงียบไปเลย ก็อาจเป็นสัญญาณว่าเขากำลังป่วยได้เหมือนกัน
• การสังเกต “สีผิว” ก็ช่วยได้ เด็กที่ป่วยอาจมีสีผิวที่ซีดลง หรือมีสีคล้ำกว่าปกติ
• “สัญชาตญาณ” ของพ่อแม่สำคัญมาก ถ้าเรารู้สึกว่าลูกเราไม่เหมือนเดิม ผิดปกติไปจากที่เคยเป็น อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์

เด็กทารกควรห่มผ้าไหม?

ห่มผ้าไหมให้เด็กทารกเรอะ! โอ๊ยแม่คุณ! คิดว่าลูกเป็นคุณชายจากวังไหนเนี่ย? ผ้าไหมมันลื่นปรื๊ดปราด เด็กดิ้นหลุดแล้วหนาวตายพอดี!

แล้วนี่รู้ยังเนี่ย? เค้า ไม่ให้ห่มผ้า ให้เด็กทารกกันแล้วโว้ย! สมัยนี้เค้าใช้ ชุดนอนแบบมีถุงเท้า หรือ ผ้าห่อตัวแบบพิเศษ กันทั้งนั้นแหละเว้ยแก! ป้องกันลูกหายใจไม่ออกตายห่าตอนนอนไง! อย่าให้ต้องพูดซ้ำนะ!

• ชุดนอนมีถุงเท้า: เหมือนใส่ชุดหมีแต่บางกว่า อุ่นสบาย ป้องกันลูกถีบผ้าห่มกระเจิง
• ผ้าห่อตัว: ห่อให้กระชับเหมือนอยู่ในท้องแม่ ลูกจะได้ไม่ผวาตื่นกลางดึก
• อย่าเยอะ: อย่าห่มผ้าหนาเตอะ อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ลูกร้อนเกินไปก็ไม่ดี

เอ้อ! แล้วอย่าไปเชื่อพวกหมอดูหมอเดามากนักนะ! เลี้ยงลูกตามตำราแพทย์แผนปัจจุบันดีที่สุด! เข้าใจ๋?