เด็กเป็น G6PD กินเชอรี่ได้ไหม

17 การดู

ข้อมูลแนะนำ:

สำหรับผู้ป่วย G6PD ควรหลีกเลี่ยงเชอร์รี่ ถั่วปากอ้า และผลิตภัณฑ์บางชนิดที่มีส่วนผสมของถั่ว เช่น โยเกิร์ตบางประเภท เพื่อป้องกันภาวะเม็ดเลือดแดงแตก นอกจากนี้ ควรระมัดระวังการดื่มไวน์แดงและปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำด้านโภชนาการที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เด็กเป็น G6PD กินเชอร์รี่ได้ไหม? คำตอบที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

โรคจีซิกซ์พีดี (G6PD) หรือโรคพร่องเอนไซม์กลูโคส-6-ฟอสเฟตดีไฮโดรจีเนส เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยในเด็กชาย โดยเฉพาะในกลุ่มชาติพันธุ์บางกลุ่ม โรคนี้ทำให้เม็ดเลือดแดงเปราะบางและเสี่ยงต่อการแตกได้ง่ายเมื่อร่างกายได้รับสารกระตุ้นบางชนิด คำถามที่พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กที่มีโรค G6PD มักกังวลคือ “ลูกฉันกินเชอร์รี่ได้ไหม?”

คำตอบโดยสรุปคือ ไม่แนะนำให้เด็กที่เป็นโรค G6PD รับประทานเชอร์รี่ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนและครอบคลุมเกี่ยวกับการรับประทานเชอร์รี่โดยตรงกับการแตกของเม็ดเลือดแดงในผู้ป่วย G6PD แต่เชอร์รี่จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพบางชนิด ที่อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้ในผู้ป่วย G6PD โดยเฉพาะในปริมาณมาก หรือในเด็กที่มีความรุนแรงของโรคสูง

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • สารออกฤทธิ์คล้ายกับสารต้องห้าม: แม้เชอร์รี่อาจไม่ใช่ “ตัวการ” ที่รุนแรงเท่ากับถั่วปากอ้า หรือยาบางชนิด แต่ก็มีสารบางชนิดที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับสารที่รู้จักกันดีว่ากระตุ้นภาวะเม็ดเลือดแดงแตกในผู้ป่วย G6PD การบริโภคเชอร์รี่จึงมีความเสี่ยงแม้จะอยู่ในปริมาณน้อย

  • ความแตกต่างของปฏิกิริยาแต่ละบุคคล: ความรุนแรงของโรค G6PD แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เด็กบางคนอาจมีอาการรุนแรงกว่า การรับประทานเชอร์รี่เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ในขณะที่เด็กบางคนอาจไม่มีอาการใดๆ แต่ความเสี่ยงยังคงมีอยู่

  • หลักการป้องกันดีกว่าแก้ไข: การป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงอาหารและสารกระตุ้นที่อาจก่อให้เกิดภาวะเม็ดเลี่ยงแดงแตก การเลือกกินอาหารอย่างระมัดระวังจะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ:

พ่อแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคล แพทย์จะประเมินความรุนแรงของโรค G6PD ในเด็กและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเลือกชนิดและปริมาณของผลไม้และอาหารอื่นๆ อย่างปลอดภัย

สรุปแล้ว แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรับประทานเชอร์รี่ในเด็กที่มีโรค G6PD แต่เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการให้เด็กที่เป็น G6PD รับประทานเชอร์รี่ และอาหารอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อวางแผนการดูแลสุขภาพและโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัย.