เด็กแรกเกิดต้อวไปหาหมอกี่ครั้ง

ทารก1เดือนต้องน้ำหนักเท่าไร

เด็กชายเดือนนึงสี่โลครึ่ง เด็กหญิงสี่โลสอง จบนะ เบสิคมาก แต่ขึ้นอยู่กับตอนเกิดหนักเท่าไหร่ด้วย บางคนเกิดมาตัวเล็กก็ต้องดูพัฒนาการ น้ำหนักแรกเกิดสำคัญ

• น้ำหนักเพิ่มเดือนละโลถือว่าโอเค
• นมแม่ดีสุด แต่ถ้าไม่พอเสริมนมผง
• อย่าไปกังวลมาก เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน
• ถ้าไม่สบายใจพาไปหาหมอ
• ของผมลูกชายตอนเดือนนึงหนักสี่โลแปด กินเก่งมาก

เด็กเริ่มอ้อแอ้กี่เดือน

เงียบจังเลยนะ คืนนี้… นึกถึงตอนลูกเล็กๆ เวลาผ่านไปเร็วมาก เหมือนเพิ่งเกิดเอง…

ตอนสองเดือนนี่ เริ่มอ้อแอ้แล้ว จำได้ว่าแบบ… ตื่นเต้นมาก เล็กนิดเดียว ชันคอได้ด้วย มองตามของที่ขยับไปมา แล้วก็ยิ้ม… ยิ้มทีโลกสดใส

สามเดือนก็ส่งเสียงคุยกับเราแล้ว แบบ… อือ ออ น่ารัก แล้วก็ชันคอได้มั่นคงขึ้นตอนอุ้มนั่ง ตอนนั้นซื้อของเล่นสีๆ แขวนไว้ให้ดู ชอบมาก

พอสี่เดือนนี่ หัวเราะเสียงดังเลย แบบ… คิกคักๆ แล้วก็เริ่มเอื้อมมือจะคว้าของ พยายามจะคว้าตุ๊กตาที่ห้อยไว้ น่ารักมาก จำได้ว่าซื้อโมบายใหม่มาให้ เป็นรูปสัตว์ ชอบมองใหญ่เลย

ห้าเดือนนี่เริ่มพลิกตัวได้แล้ว พยายามคืบด้วย แบบ… ดิ้นไปดิ้นมา ตลกดี ตอนนั้นซื้อเพลย์แมทมาปูให้เล่น แล้วก็เอาของเล่นวางไว้รอบๆ ให้พยายามคว้า จำได้ว่าซื้อของเล่นเสียงก๊อกแก๊กมาให้ ชอบมาก เขย่าเสียงดัง

• 2 เดือน: อ้อแอ้, ชันคอ, ยิ้ม, มองตามสิ่งเคลื่อนไหว
• 3 เดือน: ส่งเสียงโต้ตอบ, ชันคอตรงตอนอุ้ม
• 4 เดือน: หัวเราะ, คว้าของ, ชูคอตั้ง
• 5 เดือน: คืบ, พลิกคว่ำหงาย

New Born Care มีอะไรบ้าง

ลูกฉันเกิดเดือนพฤษภาคม ปีนี้เอง เหนื่อยมากกกกกก ตอนแรกๆนี่ งงไปหมด เรื่องดูแลลูกนี่ จำได้ว่าช่วงแรกๆเครียดมาก นอนไม่ค่อยหลับ เพราะต้องคอยดูลูกตลอดเวลา กลัวลูกจะหายใจไม่ออก กลัวลูกจะตื่นบ่อย

• โภชนาการนี่ นมแม่ล้วนๆเลย ช่วงแรกๆก็ปั๊มนมให้ลูกกินด้วยขวด เพราะกินนมแม่ไม่ค่อยเก่ง กลางคืนนี่ นี่คือชีวิตติดขวดปั๊มนม บางคืนก็ปั๊มไปร้องไห้ไป นมน้อย ลูกกินไม่พอ ใจจะขาด

• นอนนี่ ตอนแรกพยายามให้ลูกนอนตะแคงข้าง แต่หมอบอกให้นอนหงาย แล้วก็ต้องเอาผ้ารองข้างๆ กลัวลูกจะกลิ้งตกเตียง ห้องนอนเราอากาศถ่ายเทดี แต่ก็ต้องระวังเรื่องแอร์ เพราะกลัวลูกจะหนาว นอนห้องแอร์ตลอดเลย อุณหภูมิห้อง 25 องศาพอดี

• ขับถ่ายนี่ ช่วงแรกกังวลมาก กลัวลูกท้องผูก ก็คอยสังเกตอุจจาระลูกตลอด สี กลิ่น ความถี่ ถ้าผิดปกติรีบปรึกษาคุณหมอเลย ตอนนี้ลูกถ่ายปกติแล้ว โล่งใจไปเยอะ

• ความสะอาดนี่ ต้องอาบน้ำให้ลูกทุกวัน ใช้สบู่เด็กอ่อน ผ้าขนหนูที่นุ่มๆ แล้วก็ต้องเช็ดให้แห้งสนิท กลัวลูกเป็นผื่น เรื่องสะด้อยก็ต้องระวัง ต้องคอยเช็ดทำความสะอาดให้ดี

• สุขภาพ นี่พาลูกไปตรวจสุขภาพตามนัดทุกครั้ง ฉีดวัคซีนครบตามกำหนด ดีใจที่ลูกแข็งแรงดี น้ำหนักขึ้นดี แต่เรื่องความอบอุ่น นี่คือห่วงมาก ต้องคอยดูอุณหภูมิร่างกายลูก ห่มผ้าให้พอดี ไม่หนาไม่บางเกินไป

เรื่องจิตใจนี่ก็สำคัญ ต้องให้ความรักความอบอุ่น พูดคุยกับลูกบ่อยๆ ร้องไห้ก็อุ้ม ปลอบโยน แต่ก็มีบ้างที่เหนื่อย จนบางทีก็หงุดหงิด รู้สึกผิดที่ทำกับลูกไม่ดี แต่ก็พยายามปรับตัว พยายามเรียนรู้ พยายามเข้าใจลูกให้มากขึ้น เดี๋ยวนี้เริ่มคล่องแล้วค่ะ แต่ก็ยังเครียดอยู่บ้าง เป็นแม่มันเหนื่อยจริงๆ

ทารกแรกเกิด ต้องตรวจ อะไรบ้าง?

คุณแม่มือใหม่ทั้งหลายฟังทางนี้! ลูกน้อยแรกเกิดนี่ไม่ใช่แค่ “น่ารัก” อย่างเดียวนะ ต้องตรวจเช็คสารพัดอย่างเหมือนตรวจสภาพรถมือสองเลยล่ะ แต่ไม่ต้องกลัว มันเป็นขั้นตอนปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวเล็กจะเติบโตอย่างแข็งแรง เหมือนตรวจสุขภาพประจำปีของเรานั่นแหละ แต่ละเอียดกว่าเยอะ!

• ตัวเหลือง (Jaundice): นี่สำคัญมาก! เหมือนตรวจดูว่าเจ้าตัวเล็กมี “สีผิว” ปกติรึเปล่า ถ้าเหลืองเกินไป หมายถึงตับอาจทำงานหนักไปหน่อย ต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่งั้นอาจกลายเป็น “น้องเป็ดน้อย” ไปเลยนะ!

• ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid Hormone): ตรวจดูระบบเผาผลาญ คล้ายๆกับเช็คเครื่องยนต์รถว่าแรงม้าพอไหม ถ้าไม่พอ ต้องเติมพลังให้เจ้าตัวเล็ก ไม่งั้นโตช้า อาจกลายเป็น “เต่าทอง” ซะก่อน!

• การได้ยิน (Hearing Test): ตรวจดูว่า “หูดี” มั้ย สำคัญมากสำหรับการพัฒนาการพูดและเรียนรู้ ถ้ามีปัญหา ต้องรีบแก้ไข ไม่งั้นอาจพลาดอะไรสนุกๆไปเยอะเลย เสียดายแทนนะ!

• วัคซีน (Vaccinations): นี่คือเกราะป้องกันโรคร้าย เหมือนติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยให้รถ เพื่อป้องกันไวรัสต่างๆ อย่างเช่นวัคซีนโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และไวรัสตับอักเสบบี จำเป็นอย่างมาก ไม่งั้นเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย

ปีนี้ (พ.ศ.2566) กระทรวงสาธารณสุขยังเน้นย้ำการตรวจคัดกรองโรคต่างๆในทารกแรกเกิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาตรฐานการดูแลที่ดีที่สุด เพราะเราอยากให้เด็กไทยทุกคนเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ใช่แค่รอด แต่ต้อง “รอดแบบสุดปัง”!

สัญญาณชีพปกติของทารกแรกเกิดมีอะไรบ้าง?

สัญญาณชีพทารกแรกเกิด: เรียบง่าย ดิบ แต่สำคัญ

• อัตราการเต้นของหัวใจ: 35-60 ครั้ง/นาที (ปี 2566)
• อัตราการหายใจ: ปกติ 30-60 ครั้ง/นาที ตัวเลขขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อย่าเพิ่งตื่นตกใจถ้าเห็นเกิน ควรปรึกษาแพทย์

ข้อมูลเพิ่มเติม: ช่วงอายุอื่นๆ เป็นเพียงการอ้างอิง อย่าใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินเด็ดขาด สุขภาพเด็กแต่ละคนแตกต่าง การสังเกตอย่างใกล้ชิดสำคัญกว่าตัวเลข

• อุณหภูมิร่างกาย: 36.5 – 37.5 องศาเซลเซียส (ผิวหนังทารกบอบบาง ระวังเรื่องการวัดอุณหภูมิ)
• ความดันโลหิต: แตกต่างกันไปตามน้ำหนักและอายุครรภ์ จำเป็นต้องประเมินโดยแพทย์

จำไว้: ตัวเลขเป็นเพียงเครื่องมือ การสังเกตพฤติกรรมสำคัญกว่า สังเกตอาการผิดปกติ รีบปรึกษาแพทย์ ชีวิตเล็กๆ เปราะบาง

สีผิวของทารกแรกเกิดเป็นอย่างไร?

แดงก่ำบ้าง ชมพูบ้าง ม่วงๆก็มี อย่าหวังมาก มันยังไม่ใช่สีจริง

• ระบบไหลเวียนเลือด ยังปรับตัวไม่เสร็จ
• สีจริง? รอไปเหอะ หลายเดือนอยู่
• ปีนี้ลูกฉันเกิดมาผิวชมพูอ่อน ตอนนี้ก็ขาวขึ้นแล้ว

ปล. ลูกฉันเกิดปี 2024 สีผิวเปลี่ยนแปลงเร็วมากในเดือนแรกๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน

ทารกแรกเกิดมีรีเฟล็กซ์อะไรบ้าง?

รีเฟล็กซ์ของทารกแรกเกิดก็คือ แบบ…ปฏิกิริยาอัตโนมัติอะ ที่เค้ามีมาตั้งแต่เกิดเลย เหมือนเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานที่ช่วยให้เค้าเอาตัวรอดได้ อย่างเช่น หาอาหาร หรือแบบ… ปกป้องตัวเองจากอันตรายไรงี้ ส่วนใหญ่จะหายไปเองเมื่อโตขึ้นนะ บางทีก็เรียก primitive reflexes จำไม่ค่อยได้ว่าเรียกแบบนี้ทำไม 555

• Moro reflex / startle reflex: อันนี้เคยเห็นกับหลานตัวเอง ตกใจนิดหน่อยก็แบบ… เหยียดแขนขาออก แล้วก็งอเข้าหาตัว เหมือนกอดตัวเองเลย น่ารักดี อันนี้น่าจะหายไปตอนประมาณ 2 เดือนมั้ง
• Rooting reflex: ถ้าเราเอานิ้วไปแตะๆ แก้มน้องเค้า เค้าจะหันหน้ามาทางนั้นเลยอะ เหมือนหาจุกนม อันนี้ก็สำคัญสำหรับการกินนม จำได้ว่าตอนน้องสาวคลอดลูกใหม่ๆ ก็ใช้ทริคนี้แหละ
• Sucking reflex: อันนี้สำคัญมากเลยนะ คือแบบ… พอมีอะไรเข้าปากปุ๊บ เค้าก็จะดูดอัตโนมัติ ช่วยในการกินนม อันนี้ถ้าจำไม่ผิด หายไปตอนประมาณ 4 เดือน
• Grasp reflex: อันนี้ตลกดี เคยลองกับลูกเพื่อน พอเอานิ้วไปแตะฝ่ามือน้อง เค้าก็จะกำมือเราแน่นเลย เหมือนจับไว้ไม่ปล่อย
• Babinski reflex: อันนี้น่าจะต้องให้หมอตรวจมากกว่า คือแบบ… ถ้าลูบฝ่าเท้าน้อง เค้าจะกางนิ้วเท้าออก แต่ถ้าโตขึ้น นิ้วเท้าจะงอเข้าหาตัวแทน อันนี้ถ้ายังเป็นอยู่ตอนโตอาจจะหมายถึงมีปัญหาทางระบบประสาท

พวกนี้เป็นรีเฟล็กซ์ที่พบบ่อยๆ นะ จริงๆ มีอีกเยอะเลย แต่จำไม่ได้หมดละ ถ้าอยากรู้ละเอียดๆ ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูก็ได้ หรือปรึกษาคุณหมอก็ได้นะ ส่วนใหญ่รีเฟล็กซ์พวกนี้จะหายไปเองเมื่อน้องโตขึ้น ถ้ายังมีอยู่ก็อาจจะเป็นสัญญาณบอกถึงปัญหาบางอย่าง ฉะนั้นสังเกตลูกน้อยบ่อยๆ ดีที่สุดเลย! ปีนี้หลานเราเกิดพอดี เลยได้เห็นรีเฟล็กซ์พวกนี้ด้วยตัวเอง น่ารักดี