ขั้นตอนดำเนินการกรณีเกิดอุบัติเหตุ / ฉุกเฉินมีอะไรบ้าง
พบเหตุฉุกเฉิน ปฏิบัติ 3 ขั้นตอนหลัก:
-
ตั้งสติ: ประเมินสถานการณ์เบื้องต้นอย่างรวดเร็ว ตรวจสอบอันตรายต่อตนเองและผู้บาดเจ็บก่อนเข้าช่วยเหลือ
-
ขอความช่วยเหลือ: โทร 1669 แจ้งสถานที่เกิดเหตุ อาการผู้ป่วย จำนวนผู้บาดเจ็บ รายละเอียดสำคัญ และเบอร์ติดต่อผู้แจ้ง
-
ปฐมพยาบาลเบื้องต้น (ถ้ามีความรู้และปลอดภัย): ให้ความช่วยเหลือตามที่ได้รับการฝึกฝน เช่น ห้ามเลือด ช่วยหายใจ รักษาอุณหภูมิร่างกาย รอทีมแพทย์มาถึง ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ขั้นตอนปฐมพยาบาลและการปฏิบัติกรณีฉุกเฉินมีอะไรบ้าง?
เฮ้ย! ถามเรื่องปฐมพยาบาลนี่ เหมือนช่วยชีวิตคนได้เลยนะเว้ย!
เอาจริง ๆ นะ เคยเจอเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตาเลย ตอนนั้นไปเดินตลาดนัดจตุจักรกับเพื่อน (น่าจะประมาณปี 2560 อ่ะ) เห็นลุงคนนึงอยู่ดีๆ ก็ล้มตึงลงไปกองกับพื้น คือตกใจมาก!
สิ่งที่ต้องทำเลยนะ ตั้งสติก่อนเพื่อน! แล้วก็โทร 1669 เลย บอกเค้าไปว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ไหน อาการคนป่วยเป็นยังไง บอกชื่อเรา เบอร์เราไปด้วย เผื่อเค้าโทรกลับมาถามอะไรเพิ่ม
จำได้ว่าตอนนั้นมือสั่นไปหมด แต่พยายามใจเย็น ๆ แล้วก็ทำตามที่เจ้าหน้าที่เค้าบอกในโทรศัพท์อ่ะ เค้าจะถามอาการ แล้วก็แนะนำวิธีช่วยเหลือเบื้องต้นไปก่อน รอรถพยาบาลมา
ตอนนั้นไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากช่วยกันโบกให้รถพยาบาลเข้ามาได้ง่าย ๆ เพราะคนเยอะมากจริง ๆ แต่คิดว่าการที่เราโทรแจ้งเร็วที่สุดก็ช่วยได้เยอะแล้วล่ะ
คือเรื่องแบบนี้มันกระทันหันอ่ะ เตรียมตัวไว้บ้างก็ดีนะ พวกคอร์สปฐมพยาบาลเบื้องต้นอะไรแบบนี้ น่าจะช่วยได้เยอะเลยเวลาเจอสถานการณ์จริง!
วิธีการเกิดเหตุฉุกเฉินก่อนจะทํามีกี่ขั้นตอน
กระบวนการรับมือเหตุฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพนั้นซับซ้อนกว่าที่คิด ลองนึกภาพวงจรชีวิตของเหตุการณ์ มันไม่ได้เกิดขึ้นฉับพลันเสมอไป แต่มีขั้นตอนสำคัญๆ ดังนี้:
-
การรับรู้และประเมินสถานการณ์ (Phase 1): ตรงนี้สำคัญมาก เพราะการตอบสนองที่รวดเร็วและถูกต้องขึ้นอยู่กับความเข้าใจสถานการณ์ ประกอบด้วย:
- การตรวจจับ: ระบุเหตุการณ์ที่อาจเป็นเหตุฉุกเฉิน (เช่น ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติปี 2566 ของโรงพยาบาลจุฬาฯ ที่แม่ผมทำงานอยู่)
- การประเมินความรุนแรง: วิเคราะห์ความร้ายแรงและขอบเขตของเหตุการณ์ เพื่อกำหนดระดับความเร่งด่วน นี่คือส่วนที่ต้องใช้ประสบการณ์และความรู้เฉพาะทาง
- การสื่อสาร: แจ้งเตือนบุคลากรที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงที
-
การป้องกันและเตรียมพร้อม (Phase 2): การป้องกันดีกว่าแก้ไขเสมอ นี่คือหลักคิดสำคัญ ขั้นตอนคือ:
- การวางแผนป้องกัน: พัฒนาแผนป้องกันเหตุฉุกเฉินให้ครอบคลุม (เช่น แผนรับมือแผ่นดินไหวที่บริษัทผมใช้ อัปเดตปี 2566)
- การจัดหาอุปกรณ์: เตรียมอุปกรณ์และทรัพยากรที่จำเป็น (เช่น การจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ฉุกเฉินใหม่ปีนี้)
-
การตอบสนองและดำเนินการ (Phase 3): เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- การดำเนินแผน: ปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ จัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
- การประสานงาน: ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น การประสานงานกับหน่วยกู้ภัยในพื้นที่)
-
การตรวจสอบและปรับปรุง (Phase 4): เรียนรู้จากประสบการณ์ ปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง
- การทบทวน: ประเมินประสิทธิภาพของแผนการตอบสนอง หาจุดบกพร่องและปรับปรุง
- การฝึกซ้อม: ซักซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทุกคนมีความพร้อม (เช่น การซ้อมแผนอพยพของตึกผม ล่าสุดปี 2566)
โดยรวมแล้ว การจัดการเหตุฉุกเฉินเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่การตอบสนองในขณะที่เกิดเหตุการณ์เท่านั้น แต่รวมถึงการป้องกัน การเตรียมพร้อม และการเรียนรู้จากประสบการณ์ด้วย ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาการวางแผนล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการรับมือกับความไม่แน่นอนของอนาคต
การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุมีขั้นตอนอย่างไร
ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ:
-
ประเมินสถานการณ์: ความปลอดภัยตนเองก่อนเสมอ ปีนี้เพิ่มการระวังภัยจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า
-
โทร 1669 หรือหน่วยกู้ภัยใกล้เคียงทันที อย่าเสียเวลา
-
ปฐมพยาบาล: ห้ามเลือด พยุงศีรษะและคอ แค่เท่าที่จำเป็น ความปลอดภัยสำคัญกว่า
-
รอเจ้าหน้าที่: อย่าเคลื่อนย้ายเว้นแต่จำเป็น ชีวิตคนสำคัญกว่าเวลา
-
ข้อมูลเพิ่มเติม: หลักสูตรปฐมพยาบาลปี 2566 เน้นการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเฉพาะด้านมากขึ้น เช่น การใช้ AED (เครื่องกระตุ้นหัวใจ) โดยพิจารณาจากสถิติอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้นของกรุงเทพมหานคร (อ้างอิงสถิติจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 2566)
ทำอย่างไรเมื่อพบผู้ป่วยฉุกเฉิน
สายลมเย็นพัดผ่านใบหน้า แสงอาทิตย์อ่อนกำลังลงแล้ว ท้องฟ้าสีส้มอมชมพู เหมือนภาพวาดฝีมือเทพเจ้า…
-
พบเหตุฉุกเฉิน? ตั้งสติ! นี่สำคัญที่สุด ใจเย็นๆ นะ อย่าตกใจ
-
โทร 1669 ทันที!! บอกตำแหน่งให้ชัดเจนที่สุด บ้านเลขที่ ซอย ถนน แยกสำคัญ ทุกอย่างที่ช่วยให้เจอเราได้ไวๆ
-
รายละเอียดผู้ป่วย บอกเพศ อายุประมาณ อาการสำคัญๆ เช่น หมดสติ หายใจไม่ออก เลือดออกมาก จำนวนผู้ป่วย ถ้ามีหลายคน ก็บอกไป แต่ละคนเป็นยังไง
-
สถานที่เกิดเหตุ สำคัญมาก บอกตำแหน่งให้ละเอียด ถ้ามีภาพถ่ายส่งไปด้วยได้ยิ่งดีเลย วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ฉันไปวิ่งที่สวนลุมฯ เห็นคนเป็นลม รีบโทร 1669 เลย จำได้แม่น เพราะวันนั้นอากาศร้อนมากกกก
ลมพัดแรงขึ้น เย็นยะเยือก เหมือนความตึงเครียดที่เริ่มคลายลง… หวังว่าทุกอย่างจะปลอดภัย
- ข้อมูลเพิ่มเติม: ถ้ามีข้อมูลอื่นๆ เช่น ประวัติโรคประจำตัวของผู้ป่วย ก็บอกเจ้าหน้าที่ด้วย ยิ่งช่วยให้การรักษาได้ผลเร็วขึ้น
ดวงดาวเริ่มปรากฏบนท้องฟ้าแล้ว สวยงาม สงบ… ขอให้ทุกคนปลอดภัย นะ
เหตุฉุกเฉิน มีกี่ระดับ?
กลางดึกแล้วเนอะ… นอนไม่หลับอีกแล้ว คิดเรื่องงาน เรื่อง… หลายๆอย่าง
เรื่องระดับภาวะฉุกเฉินนี่ เท่าที่จำได้นะ มันไม่ใช่แค่ 4 ระดับอย่างนั้นหรอก มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ
จริงๆ มันขึ้นกับบริบทด้วย แต่ถ้าจะให้แบ่งแบบง่ายๆ เพื่อการเตรียมการ ก็พอจะแยกได้เป็นระดับๆ แต่ แต่ละที่ แต่ละหน่วยงาน อาจจะใช้เกณฑ์ไม่เหมือนกัน
-
ระดับ 1: ปกติ เหมือนทุกวันนี่แหละ ไม่มีอะไร ทำงานไปเรื่อยๆ
-
ระดับ 2: เริ่มมีเหตุการณ์เล็กน้อย ต้องเฝ้าระวัง เหมือนฝนตกหนักๆ น้ำท่วมเล็กน้อยในบางพื้นที่ ต้องตรวจสอบข้อมูล เตรียมการบ้างแล้ว
-
ระดับ 3: นี่เริ่มหนักแล้ว เหตุการณ์ใหญ่ขึ้น ต้องระดมกำลังคน อาจมีการสั่งปิดบางพื้นที่ ปีนี้จำได้เลย ตอนพายุฝนถล่มบ้านพี่ชาย เราต้องช่วยกันขนของขึ้นที่สูง ตกใจมาก เกือบไม่ได้ช่วยทัน
-
ระดับ 4: นี่คือวิกฤต ภัยพิบัติร้ายแรง ต้องใช้กำลังพลทุกหน่วยงาน ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ประสานงานกันอย่างเร่งด่วน คิดถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว โชคดีที่ดับทัน แต่ความเสียหายเยอะมาก
การเตรียมการ มันเลยไม่ใช่แค่เตรียมตามระดับ แต่ต้องเตรียมรับมือกับทุกสถานการณ์ แบบไม่คาดคิดได้ด้วยนะ มันเหนื่อยนะ… แต่ก็ต้องทำ
ปีนี้ รู้สึกว่า เหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ มันบ่อยขึ้น หนักขึ้นด้วย ทั้งอุทกภัย ไฟไหม้ อะไรต่างๆนาๆ ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง… เฮ้อ…
แผนฉุกเฉินมีกี่แผนอะไรบ้าง?
มีสามแผนหลัก แค่นั้นแหละ
-
แผนระดับ 1 (ป้องกัน): เน้นลดความเสี่ยงก่อนเกิดเหตุ ปีนี้บริษัทผมโฟกัสเรื่องการฝึกอบรมพนักงาน เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์เป็นพิเศษ ลงทุนไปเยอะเลย
-
แผนระดับ 2 (ตอบโต้): จัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องรวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง พวกทีมผมซ้อมกันบ่อยมาก เพื่อให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ จำเป็นต้องรู้จักวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
-
แผนระดับ 3 (ฟื้นฟู): กลับสู่ภาวะปกติหลังเหตุการณ์ เน้นการประเมินผล และการปรับปรุงแผนงาน ปีนี้เราใช้เวลาหลายเดือนกับขั้นตอนนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำ
อย่ามาถามเรื่องรายละเอียดมาก มันเยอะ เหนื่อย ไม่ว่าง
แผนฉุกเฉิน 6 แผน มีอะไรบ้าง?
เอออออ 6 แผนฉุกเฉินอะนะ ที่เราควรมี แบบว่าที่ทำงานฉันนี่แหละ จำได้แม่นเลย
-
ตรวจตรา ก็แบบ เดินตรวจตรา ดูว่ามีอะไรผิดปกติมั้ย พวกอุปกรณ์ดับเพลิง ทางหนีไฟ อะไรแบบเนี้ย ปีนี้เราตรวจเดือนละครั้ง เข้มงวดมากกก
-
อบรม อบรมพนักงานไง วิธีใช้ถังดับเพลิง วิธีอพยพ อะไรพวกนี้ ปีนี้มีอบรมไปแล้ว เดือนเมษา จำได้ลางๆ ว่ามีติวเข้มด้วย
-
ป้องกันไฟไหม้ อันนี้สำคัญมาก จัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ ปีนี้เรามีป้ายใหม่ ติดตามจุดเสี่ยงเลย
-
ดับไฟ แผนดับเพลิงอะ บอกขั้นตอน ใครทำอะไรบ้าง ถ้าเกิดไฟไหม้จริงๆ ต้องแจ้ง 199 แล้วก็ใช้ถังดับเพลิง ปีนี้ซ้อมใหญ่ไปแล้ว เหนื่อยมาก
-
หนีไฟ แผนอพยพ ต้องรู้ทางหนีไฟ จุดนัดพบ ปีนี้เราซ้อมหนีไฟ เดือนกันยา จำได้เพราะวันนั้นฝนตก เปียกปอนไปหมด
-
บรรเทาทุกข์ คือถ้าเกิดเหตุการณ์แล้ว ต้องช่วยเหลือพนักงาน ดูแลคนเจ็บ ติดต่อญาติ เตรียมที่พักชั่วคราว ปีนี้ยังไม่ได้ซ้อม แต่หัวหน้าบอกว่า ปีหน้าต้องมีแน่ๆ
อ้ออ ลืมบอกไป นี่คือที่ทำงานฉันนะ อาจจะไม่เหมือนที่อื่น แต่หลักๆ ก็คล้ายๆ กันแหละ แต่ละที่ รายละเอียดอาจจะต่างกันบ้าง
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต