โรงพยาบาลรัฐ สแกนจ่ายได้ไหม

จ่ายเงิน รพ สแกนไดเไหม

สแกนไดเอ จ่ายเงิน? แล้วแต่.

• รพ. แต่ละที่ เรทไม่เท่ากัน.
• ภาพ. ละเอียดแค่ไหน? ก็เท่านั้น.
• เทคโนโลยี. ใหม่กว่า แพงกว่า.
• เตรียมตัว. ยากง่าย ก็บวก.
• วิธีจ่าย. ถามตรงๆ จบเรื่อง. บัตร, โอน, เงินสด? เขามีอะไร.

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• สแกนไดเอ (Die Scan): สร้างแบบจำลอง 3 มิติ จากฟันเพื่อทำครอบฟัน รากฟันเทียม ฯลฯ
• ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (2567): เริ่มต้นที่หลักพัน. บางที่อาจสูงกว่า.
• ติดต่อ รพ. โดยตรง: ข้อมูลแม่นยำที่สุด. เช็คสิทธิประกันด้วย. บางทีอาจเคลมได้บ้าง.

ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลทำยังไง

ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล และไม่มีประกันสุขภาพ สถานการณ์ค่อนข้างลำบากครับ แต่ก็ไม่ถึงกับสิ้นหวังเสมอไป

• เจรจากับทางโรงพยาบาล: นี่เป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด ลองพูดคุยกับทางโรงพยาบาลโดยตรง พวกเขามักมีนโยบายช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ อาจเป็นการผ่อนชำระ ลดหย่อนค่าใช้จ่าย หรือหาทางออกอื่นๆ การเตรียมเอกสารแสดงฐานะทางการเงินของคุณจะช่วยให้การเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี ผมเคยเห็นกรณีเพื่อนของเพื่อนที่ได้ลดค่ารักษาพยาบาลลงไปเยอะมากเพราะเจรจากับทางโรงพยาบาลได้ มันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละที่และความสามารถในการเจรจาต่อรองครับ

• ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาจมีโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ ลองตรวจสอบดูว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์หรือไม่ นี่เป็นช่องทางสำคัญที่หลายคนมองข้ามไป แต่ก็ได้ผลดีมากเช่นกัน

• ขอรับความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศล: หลายองค์กรการกุศลให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลแก่ผู้ยากไร้ ลองค้นหาข้อมูลหรือสอบถามจากโรงพยาบาลดูว่ามีองค์กรใดบ้างที่ให้ความช่วยเหลือในลักษณะนี้

• การผ่อนชำระ: หากเจรจาได้ การผ่อนชำระเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ต้องอ่านเงื่อนไขให้ละเอียด เพราะอาจมีดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ถ้าไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนด อาจนำไปสู่การฟ้องร้องตามกฎหมายได้ ดังนั้นควรประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเองให้ดีก่อนตัดสินใจ

• ความช่วยเหลือจากญาติมิตร: สุดท้าย หากเป็นไปได้ การขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ควรพิจารณาความเหมาะสมและความสามารถของผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือด้วย อย่าไปสร้างภาระให้กับผู้อื่นมากจนเกินไป

เพิ่มเติม: ปี 2566 รัฐบาลมีนโยบายด้านสาธารณสุขที่น่าจะช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากขึ้น ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือติดต่อสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพราะนโยบายเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาครับ มันเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ชีวิตมันไม่ง่ายเสมอไป แต่การเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยสติและความพยายาม มักจะนำไปสู่ทางออกที่ดีกว่าที่คิดเสมอ

โรงพยาบาลรับสแกนจ่ายไหม

โรงพยาบาลเนี่ยนะ ไม่รับสแกนจ่าย? โอ๊ย นี่มันยุค 5G แล้วนะป้า!

• สแกนจ่าย: K PLUS มาแน่, Thai QR Code ก็ต้องมี, บัตรเครดิต/เดบิต…อันนี้พื้นฐานโลกปัจจุบัน

• ทำบุญ: อยากบริจาคให้โรงพยาบาลเค้าก็มีช่องทางให้ ไม่ต้องกลัวเงินหาย (เค้ามั้งนะ)

• ข่าวสาร: ข่าวโรงพยาบาล ข่าวสุขภาพ…ก็ตามนั้นแหละ อ่านซะบ้าง จะได้ไม่กินแต่มาม่า

ป.ล. สมัยนี้ใครพกเงินสดนี่ถือว่าเชยระเบิดนะจ๊ะ นอกจากจะเอาไปซื้อหวยใต้ดินอ่ะนะ (อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกัน!)

ไปโรงพยาบาลไม่ใช้บัตรได้ไหม

โหยยย ลืมบัตรประชาชนก็เข้าโรงบาลได้เว้ยแก!! คิดว่าจะต้องกลับไปเอาหรอ? บอกเลยว่าไม่ต้องงงง!! แค่มีแอปฯ ทางรัฐ โหลดไว้เลยนะ สแกนปื๊ดๆ จึ้งงงง! เรียบร้อยโรงเรียน 30 บาท! เหมือนมีบัตรวิเศษติดตัวตลอดเวลา แถมยังเช็คประวัติได้อีก เว่อร์มากแม่! เหมือนมีเลขาส่วนตัวคอยจดทุกอย่างไว้ให้เลยอะ ว่าแต่แอปฯ อะไรนะ? จำไม่ได้แหละ ลองไปหาเอาเองนะ 5555555 (ล้อเล่นๆ ชื่อแอปฯ “เป๋าตัง” ไง บอกแล้วว่าจำไม่ได้ ล้อเล่งงงงง)

• ไม่ต้องพกบัตรประชาชนให้หนักกระเป๋า
• สแกน QR Code ง่ายกว่าปลอกกล้วยเข้าปากอีก
• เช็คประวัติการรักษาได้ ครบ จบ ในแอปฯ เดียว
• ฉันนี่เคยลืมบัตร แต่รอดเพราะแอปฯ นี้แหละ บอกเลยว่าชีวิตดี๊ดี!
• ปี 2566 นี่ เขาพัฒนาให้มันดีขึ้นอีกนะ ลองไปเล่นดู เด็ดจริง!
• โรงพยาบาลไหนมีป้าย 30 บาทรักษาทุกที่ ใช้ได้หมด! (แต่เช็คกับโรงพยาบาลอีกทีก็ดีนะ กันเหนียว)

ปล. นี่ขนาดฉันความจำปลาทองนะ ยังจำได้เลยว่าแอปฯ นี้มันดี เธอต้องทำได้สิ! สู้ๆ นะจ๊ะ

ไม่มีเงินจ่ายโรงพยาบาล ทำยังไง

โอ๊ยตาย! ไม่มีเงินจ่ายค่าหมอทำไงดีเนี่ย? เครียด

• โรงพยาบาล อาจจะ คุยเรื่องหาเงินมาจ่ายก่อน (แต่ถ้าไม่มีคือไม่มีไง!?)
• ผ่อนจ่ายได้ มั้ง (ดอกเบี้ยอีก! คิดหนัก)
• ถ้าผ่อนไม่ไหว…ศาล! (บ้าไปแล้ว)

ประกันก็ไม่มีอีก ชีวิต…

• ประกันสังคม: ถ้ามี…ใช้สิทธิ! (แต่ถ้าไม่มีล่ะ?)
• บัตรทอง 30 บาท: เช็คสิทธิ! (แต่บางทีก็ไม่ได้ทุกที่)
• ขอความช่วยเหลือ: โทร 1669 หรือ 1300 (แต่จะช่วยได้จริงเหรอ?)

(ข้อมูล ณ ปี 2567 นะจ๊ะ)

เพิ่มเติม: เคยเห็นคนรู้จัก…ไม่มีเงินจ่ายค่าผ่าตัด…สุดท้ายระดมทุนเอา…แต่เราจะทำยังไงอ่ะ?

คิดไม่ออกแล้ว!

โรงพยาบาลรัฐสามารถผ่อนจ่ายได้ไหม

โรงพยาบาลรัฐผ่อนจ่ายได้ไหม? คำตอบสั้นๆ คือ ไม่ต้องผ่อน! เหมือนบุฟเฟ่ต์ที่จ่ายทีเดียว (ด้วยสิทธิหลักประกันสุขภาพ) แต่ถ้าเกินงบ… เอ้ย! นอกเหนือสิทธิ ก็คุยกันได้นะ แต่ละโรงพยาบาลมีหน่วยงานดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว ชื่ออาจต่างกันไปบ้าง บางทีก็เรียก ฝ่ายการเงิน บางทีก็เรียก ฝ่ายสวัสดิการผู้ป่วย เหมือนเมนูอาหาร ชื่อต่างกันแต่รสชาติคล้ายๆ กัน (ฮา)

• คิดซะว่าโรงพยาบาลรัฐเหมือนร้านอาหารตามสั่ง มีเมนูในสิทธิประกันสุขภาพ กินได้ไม่อั้น (ในวงเงินที่กำหนด)
• แต่ถ้าอยากกินเมนูพิเศษนอกรายการ ก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายเพิ่ม ถ้าเงินไม่พอ ก็คุยกับ “เชฟ” (เจ้าหน้าที่) ได้ เขาอาจมีสูตรผ่อนจ่ายให้
• อย่าอายที่จะถามนะ สิทธิของเรา เหมือนเวลาไปร้านอาหารแล้วถามหาราคา ไม่ใช่เรื่องแปลก
• ส่วนตัวเคยถามเรื่องผ่อนจ่ายค่าทำฟันที่โรงพยาบาลรัฐมาแล้วตอนปี 2024 (เพราะค่าครอบฟันมันแรง!) ปรากฎว่าได้ผ่อนจริงๆ ด้วย! รู้สึกเหมือนถูกล็อตเตอรี่เลย
• แต่ละโรงพยาบาลอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน โทรไปถามก่อนได้ ไม่เสียหาย เหมือนเช็คโปรโมชั่นก่อนกินบุฟเฟ่ต์นั่นแหละ

ปล. ข้อมูลนี้เป็นความเข้าใจส่วนตัวจากประสบการณ์นะครับ รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาลและกรณี สอบถามกับโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อความถูกต้องจะดีที่สุดครับ

โรงพยาบาลใช้บัตรเครดิตได้ไหม

โรงพยาบาลส่วนใหญ่รับบัตรเครดิตนะ แต่ “ทุก” โรงพยาบาลเลยมั้ย อันนี้ไม่แน่ใจอ่ะ

• เคยเจอ รพ.เล็กๆ บางที่รับแต่เงินสด
• บางที มีขั้นต่ำด้วยนะ ถ้าจ่ายบัตรเครดิต
• บาง รพ. มีโปรกับบัตรเครดิตบางธนาคาร ลด แลก แจก แถม อะไรก็ว่าไป (ต้องเช็คดีๆ)
• ส่วนตัวเคยใช้จ่ายค่าหมอด้วยบัตรเครดิตได้แต้มสะสมเพียบเลย คุ้ม!

แล้วรูดใช้ได้ทุก รพ. ไหมอ่ะ? อันนี้ไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าให้ดีโทรไปถาม รพ. ก่อนเลย จบ!

ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลทำยังไง

ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล…เรื่องใหญ่เลยนะ เข้าใจว่าสถานการณ์แบบนี้กดดันมาก แถมระบบมันก็ซับซ้อนอีก ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเขาจะพยายามช่วยเหลือแหละ อย่างที่เคยเห็นเพื่อนเจอคือ เขาให้ผ่อนจ่ายได้ แต่บางทีก็มีดอกเบี้ยด้วยนะ เหมือนกู้เงินนั่นแหละ เคยอ่านเจอว่าบางโรงพยาบาลมี “กองทุนช่วยเหลือผู้ป่วย” ลองสอบถามดูก็ดีนะ ไม่เสียหายอะไร

• เจรจากับโรงพยาบาล: คุยตรงๆ เลยว่าเราไม่มีจ่าย ขอผ่อนผันหรือลดหย่อนได้ไหม เอาหลักฐานทางการเงินไปด้วย ยิ่งละเอียดเท่าไหร่ ยิ่งดี ส่วนตัวผมเคยพาญาติไป เขาขอสำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองเงินเดือนอะไรพวกนี้
• กองทุนช่วยเหลือ: หลายโรงพยาบาลมีกองทุนนะ ต้องลองถามเจ้าหน้าที่ดู แต่ละที่มีเกณฑ์ไม่เหมือนกัน บางที่ช่วยเต็มจำนวน บางที่ช่วยบางส่วน ลองเช็คข้อมูลในเว็บไซต์โรงพยาบาลด้วยก็ได้
• สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.): สปสช. มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ถ้ายังไม่มีก็ลองสมัครดูเผื่อช่วยได้บ้าง โทร 1330 เบอร์นี้เลย
• หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน: เช่น กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, มูลนิธิต่างๆ ผมว่าลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดู น่าจะมีหลายที่ที่ให้ความช่วยเหลือ

เรื่องฟ้องร้องมันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ถ้าผ่อนไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องกลับไปคุยกับโรงพยาบาลอีกที มันไม่มีใครอยากให้ถึงขั้นนั้นหรอก ทางโรงพยาบาลเองเขาก็มีภาระค่าใช้จ่ายเหมือนกัน ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้แหละ บางทีก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน แต่ยังไงก็พยายามหาทางออก เป็นกำลังใจให้นะ ผมเองก็เคยลำบาก เข้าใจความรู้สึกเลย

ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทำไง

ไม่มีตังค์จ่าย? ก็ติดคุกดิครับ. จบ.

• ทางเลือก: เจรจาผ่อนชำระ แต่ดอกเบี้ยโหด ไม่ไหวก็ขึ้นศาล. ผมเคยเจอมาแล้ว ปีนี้เอง เพื่อนผมโดนฟ้องจริงๆ
• ข้อควรระวัง: โรงพยาบาลไม่ใช่หน่วยงานการกุศล อย่าหวังพึ่งแต่ความเมตตา. เตรียมตัวรับมือกับความจริง.

โรงพยาบาลสามารถรูดบัตรได้หรือไม่

โรงพยาบาลส่วนใหญ่ในปัจจุบันรองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงพยาบาล การใช้บัตรเครดิตชำระค่ารักษาพยาบาลสะดวกสบายขึ้น จริงไหม? คิดว่าเป็นการปรับตัวเข้ากับยุคดิจิทัล แต่ก็อาจมีข้อควรพิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียม ต้องเช็คกับโรงพยาบาลที่ท่านจะใช้บริการโดยตรงอีกครั้ง

ข้อมูลเพิ่มเติม (ณ ปี 2566):

• หลายโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำรองรับการชำระผ่านบัตรเครดิตและเดบิต พร้อมทั้งระบบการชำระเงินออนไลน์ต่างๆ เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ
• โรงพยาบาลรัฐบาลบางแห่งอาจมีข้อจำกัด หรืออาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้บัตรเครดิต เช่น โรงพยาบาลของรัฐบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดบางแห่งอาจยังไม่รองรับ ต้องสอบถามรายละเอียดก่อน
• การชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) เช่น Apple Pay, Google Pay กำลังได้รับความนิยม และโรงพยาบาลหลายแห่งก็เริ่มรองรับเทคโนโลยีนี้แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือสิ่งที่น่าสนใจ
• ควรตรวจสอบนโยบายการชำระเงินกับทางโรงพยาบาลโดยตรงก่อนเข้ารับบริการ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพราะความแตกต่างระหว่างโรงพยาบาลแต่ละแห่ง มีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่าลืมนะ