สีประจําเดือนแบบไหนผิดปกติ

43 การดู

ประจำเดือนสีเขียวมะกอก อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อในมดลูกหรืออุ้งเชิงกราน ควรพบแพทย์หากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมด้วย สีดำคล้ำผิดปกติ อาจเกี่ยวข้องกับการตกเลือดในโพรงมดลูก หรือการมีเลือดคั่งค้าง จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สีประจำเดือนที่บ่งบอกอันตราย: เกินกว่าแค่สีแดงสด

ประจำเดือนเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของผู้หญิง โดยทั่วไปแล้ว สีของเลือดประจำเดือนมักจะเป็นสีแดงสด สีแดงเข้ม หรือสีน้ำตาล แต่บางครั้ง สีของประจำเดือนอาจเปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงนี้บางครั้งอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด บทความนี้จะกล่าวถึงสีประจำเดือนที่ผิดปกติและควรระมัดระวัง

สีประจำเดือนที่ควรใส่ใจ:

  • สีเขียวมะกอก: นี่เป็นสัญญาณที่น่ากังวลอย่างยิ่ง สีเขียวมะกอกของประจำเดือนมักบ่งชี้ถึงการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานหรือในมดลูก เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิต นอกจากสีเขียวมะกอกแล้ว อาการอื่นๆ ที่ควรระวัง ได้แก่ กลิ่นเหม็นผิดปกติ ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง มีไข้ และตกขาวผิดปกติ หากพบอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อรับการตรวจและรักษา

  • สีดำหรือสีน้ำตาลเข้มผิดปกติ: เลือดประจำเดือนสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มอาจบ่งชี้ว่าเลือดประจำเดือนค้างอยู่ในโพรงมดลูกเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากการมีเลือดออกผิดปกติ เนื้องอกในมดลูก หรือเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน สาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้ประจำเดือนมีสีดำ ได้แก่ การตกเลือดในโพรงมดลูก หรือการมีเลือดคั่งค้างในช่องคลอด การมีเลือดคั่งค้างเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดการแข็งตัวของเลือดและกลายเป็นสีดำ หากพบประจำเดือนที่มีสีดำและมีปริมาณมากหรือมีอาการปวดท้อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและหาสาเหตุที่แท้จริง

  • สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน: ถึงแม้จะไม่ใช่เลือดประจำเดือนโดยตรง แต่หากมีของเหลวสีขาวหรือสีเหลืองอ่อนปนออกมาพร้อมกับเลือดประจำเดือน หรือแทนที่เลือดประจำเดือน อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในช่องคลอด การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือโรคอื่นๆ ควรสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีกลิ่นเหม็น คัน หรือปวดแสบขณะปัสสาวะ และพบแพทย์หากสงสัยว่ามีการติดเชื้อ

สิ่งที่ควรทำ:

การสังเกตสีและลักษณะของประจำเดือนเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพ หากพบว่าสีประจำเดือนผิดปกติไปจากปกติ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง มีไข้ หรือมีกลิ่นเหม็น ควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสตรีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง อย่าปล่อยปละละเลยอาการผิดปกติ เพราะการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสตรีเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง อย่าพึ่งพาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียวในการวินิจฉัยโรค

#ประจำเดือนผิดปกติ #สีประจำเดือนผิดปกติ #สุขภาพหญิง