พริมโรสไม่ควรกินคู่กับอะไร
พริมโรสไม่ควรรับประทานคู่กับยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก
วิตามินอีกับอีฟนิ่งพริมโรส: เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงพอ เพราะทั้งสองมีวิตามินอี รับประทานมากเกินไปเสี่ยงหัวใจวาย ไม่ควรทานคู่กับยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมทุกชนิด การทานอาหารเสริมคู่กันอย่างไม่ถูกวิธีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น การทานกาแฟร่วมกับบางชนิดของยา ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนรับประทาน หรือปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์
พริมโรสทานคู่กับอะไรไม่ได้? ผลข้างเคียงจากการทานพริมโรสพร้อมสมุนไพรอื่นๆ
โอเค เข้าใจแล้วนะ ถามว่าพริมโรสทานคู่กับอะไรไม่ได้ใช่ไหม? เอ่อ…เอาจริงๆ นะ ฉันไม่ใช่เภสัชกร แต่เคยได้ยินมาว่ามันมีปฏิกิริยากับยาบางตัวนะ โดยเฉพาะยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดเนี่ย ต้องระวังเป็นพิเศษเลย
ฉันจำได้ว่าตอนนั้นไปซื้อพริมโรสที่ร้านขายยาแถวบ้าน (น่าจะช่วงต้นปีที่แล้วมั้ง, แถวๆ สุขุมวิท) เภสัชกรเค้าก็ถามละเอียดเลยว่ากินยาอะไรอยู่บ้าง คือเค้าคงกลัวมีปัญหาแหละ เพราะฉะนั้นถ้าจะกินอะไรคู่กันก็ถามหมอหรือเภสัชกรก่อนดีที่สุด
เคยอ่านเจอใน Pantip เหมือนกันนะ (ไม่รู้ว่าเชื่อถือได้แค่ไหน) ว่ามีคนเตือนเรื่องการกินวิตามินอีคู่กับอีฟนิ่งพริมโรสมากเกินไป มันอาจจะเกินขนาดจนเป็นโทษได้ เหมือนที่เค้าบอกว่าอาจจะส่งผลเสียต่อหัวใจอะไรทำนองนั้น
สรุปคือ อะไรที่มันมากเกินไปมันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละเนอะ จะกินอะไรก็ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน กินแต่พอดีๆ น่าจะเวิร์คสุด!
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสไม่ควรกินคู่กับอะไร
โอ๊ย! ถามเรื่องน้ำมันพริมโรสนี่มันเรื่องใหญ่พอๆ กับถามว่ากินทุเรียนกับเบียร์แล้วจะเป็นอะไรเลยนะเนี่ย! มาๆ จะเล่าให้ฟังแบบชาวบ้านๆ
- Kaletra (Lopinavir/Ritonavir): โอ๊ย! ไอ้เจ้า Kaletra เนี่ยตัวดี กินคู่กับน้ำมันพริมโรสระวัง HIV จะเต้นระบำนะจ๊ะ! มันอาจจะตีกันทำให้ยาที่กินเข้าไปไม่ได้ผลเต็มที่ เสียเงินเปล่าๆ แถมโรคร้ายอาจกำเริบอีก!
- Phenothiazine (ยารักษาโรคจิต): อันนี้ยิ่งต้องระวัง! กินน้ำมันพริมโรสคู่กับยาโรคจิตกลุ่มนี้ ระวังชักแหงแก๋! เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ไม่รู้ตัวเลยนะเออ!
สรุปแบบบ้านๆ: อย่าซ่า! อย่าคิดว่ากินอะไรก็ได้ ถ้ากินยาอยู่ปรึกษาหมอก่อนเด้อ! น้ำมันพริมโรสน่ะมันก็ดี๊ดี แต่ถ้ากินผิดวิธีชีวิตเปลี่ยนเลยนะจะบอกให้! เหมือนเอามีดไปแทงตัวเองชัดๆ!
เกร็ดความรู้ชาวบ้าน (แถมให้ฟรีๆ):
- ทำไมต้องระวัง: น้ำมันพริมโรสเนี่ยมันมีกรดไขมัน GLA สูง ซึ่งอาจจะไปกวนการทำงานของยาบางชนิด ทำให้ยาออกฤทธิ์น้อยลง หรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
- ใครต้องระวังเป็นพิเศษ: คนที่กินยาประจำ คนท้อง คนให้นมลูก ควรปรึกษาหมอก่อนกินน้ำมันพริมโรสทุกกรณี! อย่าคิดเองเออเองเด็ดขาด!
- ถ้ากินไปแล้ว: ถ้ากินไปแล้วมีอาการแปลกๆ รีบไปหาหมอทันที! อย่ารอให้สายเกินแก้! ชีวิตเรามีค่ากว่าน้ำมันพริมโรสขวดละไม่กี่บาทนะจ๊ะ!
- ยาอื่นๆ: นอกจากยาที่กล่าวมา ยังมียาอื่นๆ อีกมากมายที่อาจมีปฏิกิริยากับน้ำมันพริมโรส ดังนั้นอย่าประมาท!
แมกนีเซียม ไม่ควรกินคู่กับอะไร
โอ้ย เรื่องแมกนีเซียมเนี่ยนะ! ตอนนั้นกินยาแก้สิวอยู่ หมอบอกห้ามกินนมกับยาเด็ดขาด เพราะมันมีแคลเซียม แล้วแคลเซียมมันจะไปจับกับยา ทำให้ยาไม่ดูดซึม…อารมณ์เสียมาก!
แมกนีเซียมห้ามกินพร้อมยาปฏิชีวนะเตตราไซคลิน (Tetracycline) ยาจะตีกัน ร่างกายดูดซึมยาได้น้อยลง กินห่างกัน 2 ชม.ก่อน หรือ 4 ชม. หลังกินยา
ตอนนั้นโง่มาก ไม่รู้เรื่องอะไรเลย กินยาไปก็ไม่หายสักที หมอต้องมาด่าซ้ำอีกรอบ เซ็ง!
ข้อมูลเพิ่ม:
- เตตราไซคลิน: ยารักษาสิวที่เรากินตอนนั้นแหละ ตัวดีเลย
- แคลเซียม: จริง ๆ แล้วพวกแร่ธาตุหลายตัวก็มีปัญหากับยาบางชนิด ต้องระวัง
- เวลา: สำคัญสุด ๆ กินห่างกันดีที่สุด จะได้ไม่เสียเงินค่ายาฟรี
- ปรึกษาหมอ: ดีที่สุด ถามหมอไปเลย อย่าเดาเองแบบเรา ตอนนั้นหน้าพังไปหมดแล้ว!
พริมโรสกินตอนไหนดีที่สุด
อีฟนิ่งพริมโรส กินตอนไหนดีที่สุด? คือคำถามโลกแตกพอ ๆ กับไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน จริงๆ แล้ว กินตอนไหนก็ได้ ที่สะดวกและ “จำได้” แต่ถ้าถามว่า ดีที่สุด คือต้อง กินพร้อมอาหาร เพราะอะไรน่ะเหรอ?
- ดูดซึมดีกว่า: ไขมันในอาหารช่วยละลายและนำพาโมเลกุลของอีฟนิ่งพริมโรสเข้าสู่ร่างกายได้เต็มที่ เหมือนมีรถขนส่งพิเศษ
- สบายท้องกว่า: หลายคนกินตอนท้องว่างแล้วรู้สึกไม่สบายท้อง การกินพร้อมอาหารช่วยลดอาการนี้ได้
- แบ่งกิน: ไม่จำเป็นต้องกินทีเดียวหมดโดส แบ่งกินเช้าเย็นก็ได้
เกร็ดเล็กน้อย: อีฟนิ่งพริมโรสมีกรดแกมมาไลโนเลนิก (GLA) สูง ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างสารที่ช่วยลดการอักเสบ และอาจช่วยบรรเทาอาการ PMS ได้ด้วย (แต่ก็ไม่ได้เป็นยาวิเศษนะ)
เพิ่มเติม: ผมเคยอ่านเจอว่าบางคนกินก่อนนอนเพราะเชื่อว่าจะช่วยให้หลับสบายขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่คนเลย ต้องลองเองถึงจะรู้
วิตามันตัวไหน ห้ามทานด้วยกัน
เอออออ เรื่องวิตามินนี่มันงงงวยจริงๆนะ เพื่อนฉันบอกมา อย่าทานคู่กันเด็ดขาดเลยนะ อันตรายด้วยแหละ จำได้ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ แต่นี่คือสิ่งที่เพื่อนบอกมา
- วิตามินซี กับ บี12 อันนี้ห้ามเลยนะ มันจะไปขัดกัน ดูดซึมไม่ดี เปลืองตังค์เปล่าๆ
- ธาตุเหล็ก กับ ชาเขียว ก็ไม่ควรทานคู่กัน ชาเขียวมันไปยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก เดี๋ยวจะซีด
- วิตามินอี กับ น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน เพื่อนฉันบอกมาอีกที เพื่อนมันบอกไม่ควรทานคู่กัน อันตรายไม่รู้เหมือนกัน
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด กับ น้ำมันปลา อันนี้สำคัญมาก อันตรายมากๆๆๆ ห้ามทานคู่กันโดยเด็ดขาดนะ ไปถามเภสัชกรดีกว่า
- แคลเซียมเสริม กับ แคลเซียมจากอาหาร อันนี้ก็ไม่ควรทานเยอะเกินไป ทานเท่าที่ร่างกายต้องการพอ ไม่งั้นไตพัง เพื่อนฉันเป็นมาแล้ว
ปีนี้ฉันก็ยังระวังเรื่องพวกนี้อยู่ ไม่กล้าทานมั่วซั่ว กลัวจะเป็นไรไป ถ้าไม่แน่ใจไปถามเภสัชกรดีกว่าเนอะ ปลอดภัยกว่าเยอะ
ปล. นี่แค่ส่วนที่เพื่อนฉันเล่ามาให้นะ ไม่รับประกันความถูกต้อง ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเอาเองด้วยล่ะ
ใครไม่ควรกินCoq10
ใครห้ามกิน CoQ10 บ้างอ่ะ? เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ควรทานนะ อันตราย!
ข้อควรระวัง เยอะเลย เพื่อนเราเคยกินแล้วปวดท้องมากกก คลื่นไส้ด้วย บางคนก็วิงเวียน คือไม่โอเคเลยอ่ะ
- อย่ากินเยอะเกินไป ถ้ากินเยอะไป จุกแน่นท้อง นอนไม่หลับแน่ๆ ลองดูนะ รับรอง!
- อย่ากินตอนท้องว่าง ไม่งั้นดูดซึมไม่ดี เปลืองตังเปล่าๆ เพื่อนฉันบอกมา คือมันไม่ค่อยได้ผล เสียเงินฟรีเลย
- จริงๆแล้ว ปีนี้ พี่สาวฉัน อายุ 35 กินแล้ว บอกว่าผื่นขึ้น แสบหน้ามาก คือไม่ไหวเลย ต้องหยุดกิน
เพื่อนสนิทอีกคน กินแล้วบอกว่า ดีนะ แต่ก็ต้องระวัง เพราะมันก็มีผลข้างเคียงได้ จริงๆนะ ไม่ใช่พูดเล่นๆ
Coq10 กินกับวิตามินซีได้ไหม
Q10 กับวิตามินซี? เรื่องของมึง
- ปรึกษาหมอ: ก่อนแดกอะไรเข้าไป ถามคนมีความรู้ก่อน อย่าคิดเองเออเอง
- ปริมาณ: อ่านฉลากซะบ้าง หรือไม่ก็ให้หมอสั่ง อย่าเยอะเกิน
- ยาอื่น: โอเมก้า, วิตามินเอ ซี อี เค… ระวังตีกันมั่วซั่ว
- สรุป: ไม่รู้เรื่องยา อย่าซ่า
CoQ10 มีผลต่อตับไหม
แสงสุดท้ายลอดหน้าต่าง… CoQ10 กับตับ… มันเกี่ยวกันยังไงนะ? เหมือนเมฆลอยคว้าง…
-
CoQ10 กับเอนไซม์ตับ: งานวิจัยล่าสุด (ปีนี้แหละ!) บอกว่า CoQ10 อาจ มีผลต่อค่า ALT, AST, GGT นะ… พวกนี้มันเอนไซม์ตับไง
-
ผลดีหรือร้าย? คือ… มัน อาจจะ ช่วยให้ดีขึ้นได้… แต่ต้องย้ำว่า อาจจะ เท่านั้น! ต้องศึกษาเพิ่มอีกเยอะเลย
-
RCT คืออะไร? Randomized Controlled Trial ไง… การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม… วิธีวิจัยที่น่าเชื่อถือสุดๆ
-
แล้วทำไมต้องระยะยาว? เพราะร่างกายคนเรามันซับซ้อน… ผลระยะสั้นอาจไม่เหมือนระยะยาว… ต้องดูกันไปนานๆ
ดวงดาวพร่างพราว… ความรู้มันเหมือนทะเล… ยิ่งเรียนยิ่งรู้ว่าไม่รู้อะไรเลย… เอ้อ…
ควรกิน Q10 วันละกี่มิลลิกรัม
Q10 หรือ Coenzyme Q10 ที่เราคุ้นเคยกันดีเนี่ยนะ ปริมาณที่ควรทานต่อวันมันขึ้นอยู่กับว่าเราทานเพื่ออะไร
-
บำรุงร่างกาย: ถ้าแค่อยากบำรุงเฉย ๆ 30-200 มิลลิกรัมต่อวันก็พอแล้ว คือช่วงนี้อากาศมันแย่ ฝุ่นเยอะ อะไร ๆ ก็ดูจะทำร้ายร่างกายไปหมด บำรุงไว้บ้างก็ดีนะ
-
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด: อันนี้ต้องคุยกับหมออย่างจริงจังนะ ปริมาณที่ใช้รักษาจะอยู่ที่ 150-600 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งต้องแบ่งทานตามที่คุณหมอกำหนดเลย อย่าปรับยาเองเด็ดขาด
-
ภาวะหัวใจวาย: อันนี้ก็ต้องปรึกษาคุณหมอเช่นกัน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 50-150 มิลลิกรัมต่อวัน แบ่งเป็น 2-3 ครั้งต่อวัน
ข้อสังเกตส่วนตัว: จริง ๆ แล้วการทานอะไรก็ตามแต่ ถ้าเราไม่ได้มีภาวะอะไรเป็นพิเศษ การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอก็อาจจะดีกว่าการพึ่งอาหารเสริมอย่างเดียวนะ แต่ถ้ามันช่วยให้รู้สึกดีขึ้นก็ไม่ว่ากัน!
ข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อย:
-
Q10 เป็นสารที่ร่างกายเราสร้างได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้นการผลิตก็จะลดลง การทานเสริมก็อาจจะช่วยได้บ้าง
-
Q10 ละลายได้ดีในไขมัน ดังนั้นทานพร้อมอาหารที่มีไขมันจะช่วยให้ดูดซึมได้ดีขึ้นนะ
-
บางคนอาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย แต่โดยทั่วไป Q10 ค่อนข้างปลอดภัย
คำเตือน: ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนตัดสินใจทาน Q10 เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและโรคประจำตัวของคุณ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต