กันแดดที่ดีควรมีกี่SPF

เลือก SPF เท่าไหร่ถึงจะเอาอยู่? ไขความลับกันแดดตัวจริง

แสงแดดแม้จะให้ความอบอุ่นและวิตามินดี แต่ก็มาพร้อมรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อผิว การเลือกครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ SPF เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่า “พอ”? คำตอบไม่ใช่แค่ตัวเลขสูงๆ เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจความหมายและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับกิจกรรมด้วย

หลายคนเข้าใจผิดว่า SPF สูงๆ หมายถึงการปกป้องที่ยาวนานขึ้น ความจริงแล้ว SPF บอกถึงระยะเวลาที่ผิวสามารถทนต่อรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวไหม้ เช่น SPF 15 หมายความว่าผิวจะได้รับการปกป้องจาก UVB นานกว่าผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด 15 เท่า แต่ไม่ว่า SPF จะสูงแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปลอดภัยจากรังสี UVA ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และมะเร็งผิวหนัง

ดังนั้น แทนที่จะมองหาแค่ SPF สูงๆ เราควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป เพื่อการปกป้อง UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ อย่าลืมตรวจสอบค่า PA++++ ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA ยิ่ง + มาก ยิ่งป้องกันได้ดี

นอกจากตัวเลข SPF และ PA แล้ว การทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากเล่นน้ำหรือเหงื่อออกมาก เป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องผิวอย่างแท้จริง เพราะประสิทธิภาพของครีมกันแดดจะลดลงตามเวลาและกิจกรรมที่ทำ การทาซ้ำจึงช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันให้ผิวอย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือ เนื้อครีม ควรเลือกเนื้อครีมที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะจนเกินไป เพื่อให้การทาครีมกันแดดเป็นเรื่องที่สบายผิวและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งจะทำให้เราทาครีมกันแดดได้อย่างสม่ำเสมอและเต็มใจ

สุดท้าย อย่าลืมว่าครีมกันแดดเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การ สวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และ สวมหมวกปีกกว้าง เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการป้องกันผิวจากแสงแดด ยิ่งเสริมการป้องกันหลายชั้น ยิ่งมั่นใจได้ว่าผิวของเราจะปลอดภัยจากอันตรายของรังสียูวี

การเลือกครีมกันแดดไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เข้าใจหลักการและเลือกใช้ให้เหมาะสม เพื่อผิวสุขภาพดี ห่างไกลริ้วรอยและอันตรายจากแสงแดด