5วันลดน้ำหนักได้กี่กิโล

23 การดู

ลดน้ำหนัก 5 วัน ได้กี่กิโล?

การลดน้ำหนัก 5 วันได้ผลลัพธ์ต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักเริ่มต้น, การเผาผลาญ, อาหาร และการออกกำลังกาย โดยทั่วไป, การลดน้ำหนักที่ปลอดภัยคือ 0.5-1 กก./สัปดาห์ ดังนั้น 5 วันอาจลดได้ไม่ถึง 1 กก. การลดเร็วเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ลดน้ำหนัก 5 วัน ได้กี่กิโล?

ลดน้ำหนัก 5 วันได้กี่กิโล? มันแล้วแต่คนจริงๆ นะ. เคยลองแบบงดแป้ง น้ำตาล ของทอด ของหวาน 5 วัน ออกกำลังกายเบาๆ วิ่งในสวนรถไฟ ครึ่งชั่วโมง ทุกเย็น.

ผลคือลงไปแค่ครึ่งโลเอง. เพื่อนบอกว่าเค้าทำ IF ลงไปโลนึง. สงสัยเผาผลาญเราคงช้า.

ตอนนั้นซื้อเวย์โปรตีนมาชงกินด้วยนะ. กล่องละพันกว่าบาท. แอบเสียดายตังค์. กินแล้วไม่อิ่มเลย.

แต่พี่ที่ทำงานบอกว่าเค้ากินคลีนแล้วออกกำลังกายหนักๆ ลงไปตั้ง 2 โลใน 5 วัน. ก็คงแล้วแต่คนเนอะ. บางทีน้ำหนักมันก็ขึ้นๆ ลงๆ ด้วย.

จำได้ครั้งนึงไปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน กินแหลกมาก. กลับมากรุงเทพน้ำหนักขึ้นโลครึ่ง. ตกใจมาก.

7วันลดได้มากสุดกี่กิโล

เงียบจังเลยนะ คืนนี้… นอนไม่หลับอีกแล้ว คิดเรื่องลดน้ำหนักเนี่ยแหละ เจ็ดวันจะลดได้เยอะแค่ไหนกันนะ บางทีก็รู้สึกท้อ เหมือนจะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง สี่โล ห้าโล มันจะเยอะไปไหมนะสำหรับแค่เจ็ดวัน เคยลองนะ แบบพวกสูตรลดน้ำหนักเจ็ดวัน กินคลีนบ้าง กินผลไม้บ้าง บางทีก็ต้มจืด แต่ก็ไม่เคยถึงสี่โลเลยสักที มากสุดก็แค่โลสองโล แล้วก็กลับมาอ้วนใหม่ เหนื่อยจัง

  • จำได้ปีนี้ลองสูตรแบบนึง เน้นโปรตีน ไข่ต้ม อกไก่ ผักต้ม เบื่อมาก ได้แค่สองโลเองมั้ง
  • อีกทีนึงลองกินแต่ผลไม้ แอปเปิ้ล กล้วย ส้ม แบบนี้ไม่ไหว หิวบ่อยมาก สุดท้ายก็ตบะแตก กินขนม
  • เดือนที่แล้วนี่เอง ลองแบบ IF กินแปดชั่วโมง อดสิบหก รู้สึกว่ามันโอเคสุดละ แต่ก็ลดได้แค่โลเดียวเอง แถมบางทียังแอบกินขนมตอนดึกๆ อยู่เลย

สงสัยต้องลองใหม่ เจ็ดวันจริงๆจังๆ สักที แต่จะทำได้ไหมนะ…

วิ่ง1ชมลดกี่โล

วิ่ง 1 ชม. ลดกี่โล? โอ๊ย ถามงี้ตอบยากนะพี่! มันอยู่ที่ “ปกติ” ของแต่ละคนไม่เท่ากันไงเล่า! “ปกติ” ของผมอาจจะเดินทอดน่องชมวิว แต่ “ปกติ” ของนักวิ่งมาราธอนคือสับขาแทบไม่ทัน!

เอาเป็นว่า… ถ้าวิ่งแบบ “พอหอบ” นะ (ไม่ใช่หอบจนจะลงไปนอนกองกับพื้น) ชั่วโมงนึงก็เผาไป 700-780 แคลอรี่ได้อยู่ แต่ถ้ากินบุฟเฟต์ชาบูเข้าไปก่อนวิ่ง ก็ตัวใครตัวมันละกัน! 🤣

สรุปแบบขำๆ แต่จริงจัง:

  • 1 นาที: 13 แคลฯ (น้อยกว่ากินขนมกรุบกรอบอีกนะ!)
  • 30 นาที: 350-390 แคลฯ (พอๆ กับข้าวขาหมูจานเล็ก)
  • 1 ชั่วโมง: 700-780 แคลฯ (เกือบเท่าพิซซ่าถาดกลางแล้ว!)

ทีนี้มาดูปัจจัยที่ทำให้แคลอรี่ “แกว่ง” กัน:

  • น้ำหนักตัว: ยิ่งตัวใหญ่ ยิ่งเผาผลาญเยอะ (อันนี้ไม่ยุติธรรมเลย!)
  • ความเร็ว: วิ่งเร็ว เผาเยอะ วิ่งช้า เผาน้อย (ก็แน่สิ!)
  • สภาพร่างกาย: วันไหนฟิต วันนั้นก็เบิร์นดี (วันไหนขี้เกียจ ก็…)
  • พื้นผิว: วิ่งบนพื้นราบ vs. วิ่งขึ้นเขา (ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอันไหนเหนื่อยกว่า)

เกร็ดความรู้ (แบบไม่รู้ก็ได้):

  • แคลอรี่ที่เผาผลาญได้จากการวิ่ง เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการลดน้ำหนัก การคุมอาหารสำคัญกว่าเยอะ! (อย่าหวังพึ่งการวิ่งอย่างเดียว ถ้ายังกินเค้กทุกวัน)
  • อย่า “บ้า” วิ่งจนเกินไป พักผ่อนให้เพียงพอ เดี๋ยวข้อเข่าจะพัง! (เตือนด้วยความหวังดี)
  • ถ้าอยากรู้แคลอรี่ที่เผาผลาญได้แบบเป๊ะๆ ใช้พวกนาฬิกาออกกำลังกาย หรือแอพในมือถือช่วยได้ (แต่ก็อย่าเชื่อมันมากเกินไป บางทีมันก็ “มโน” ไปเอง)

คำเตือน: การออกกำลังกายมีความเสี่ยง ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อน (อันนี้พูดจริงจังนะ ไม่ได้ขำๆ)

ลดน้ำหนัก 10 โล ใช้เวลากี่วัน

ลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย? คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อัตราการเผาผลาญ กิจกรรมทางกาย และอาหารการกิน

  • ความเสี่ยงจากการลดน้ำหนักเร็ว: ลด 10 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์นั้นเร็วเกินไปและอันตราย ร่างกายอาจขาดสารอาหาร กล้ามเนื้อเสื่อม และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ผมเคยอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ พบว่าการลดน้ำหนักเร็วแบบนี้มีโอกาสกลับมาอ้วนได้ง่ายกว่า เหมือนเราไปเร่งเครื่องยนต์จนพังนั่นแหละ

  • อัตราการลดน้ำหนักที่แนะนำ: แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ลดน้ำหนักอย่างช้าๆ ประมาณ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ นั่นหมายความว่าการลด 10 กิโลกรัมอย่างปลอดภัยอาจใช้เวลา 10-20 สัปดาห์ หรือประมาณ 2.5-5 เดือน ต้องคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืนด้วยนะ ไม่ใช่แค่ลดแล้วก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิม

  • ปัจจัยสำคัญ: นอกจากเวลาแล้ว การออกกำลังกายและโภชนาการก็สำคัญมาก ผมเองก็ใช้วิธีนี้ เน้นการกินโปรตีน ลดแป้งและน้ำตาล ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ปีนี้ผมลดน้ำหนักลงไป 5 กิโลกรัม ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน โดยเน้นความสม่ำเสมอมากกว่าความเร็ว

  • ปรึกษาแพทย์: สิ่งสำคัญที่สุดคือควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ พวกเขาจะประเมินสภาพร่างกายและวางแผนการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับคุณ การลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและยั่งยืนนั้น สำคัญกว่าความเร็วเสมอ เพราะสุขภาพที่ดีคือรากฐานของทุกอย่าง

เพิ่มเติม: การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายในระยะยาว ไม่ใช่แค่ลดน้ำหนักชั่วคราว ผมเชื่อว่าการมีเป้าหมายที่ชัดเจน และวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

ลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัมต้องเผาผลาญกี่แคลอรี่

ลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ต้องเผาผลาญประมาณ 7700 กิโลแคลอรี่ จริงไหม? จริงค่ะ! แต่…อย่าเพิ่งดีใจไป เหมือนกับการใช้ชีวิตคู่ที่คิดว่าง่าย แต่จริงๆ แล้วต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง การลดน้ำหนักก็เช่นกันค่ะ

คิดง่ายๆ นะคะ เหมือนเราต้องสะสมแต้ม 7700 แต้มเพื่อแลกของรางวัล 1 กิโลกรัม (ของรางวัลคือการลดน้ำหนักนั่นเอง) ถ้าอยากได้ของรางวัลเร็วๆ ก็ต้องขยันสะสมแต้มทุกวัน แต่ถ้าขี้เกียจสะสม ก็ต้องรอของรางวัลนานหน่อย

แล้วจะสะสมแต้มยังไง? ไม่ใช่แค่ลดอาหารอย่างเดียว เหมือนลดน้ำหนักต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ไม่งั้นร่างกายจะโทรมแบบนางเอกละครหลังข่าวเลยนะคะ

  • การคำนวณแคลอรี่: การคำนวณ 1100 กิโลแคลอรี่ต่อวันเพื่อลด 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ อาจจะรุนแรงไปหน่อยสำหรับบางคน เหมือนลดน้ำหนักแบบโหมโรง ร่างกายอาจจะช็อกและส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาวได้ค่ะ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการนะคะ อย่าลืมคำนึงถึง BMR ด้วยค่ะ มันคือแคลอรี่ที่ร่างกายใช้ในการทำงานพื้นฐาน ลดต่ำกว่านี้ เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารแบบสุดๆ เหมือนปลูกต้นไม้แต่ไม่รดน้ำ ต้นไม้ก็ตายสิคะ!

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน: แทนที่จะลดแคลอรี่แบบกะทันหัน ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินดีกว่า เช่น เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะๆ เพิ่มผักผลไม้ เหมือนการลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนอาจจะช้าหน่อยแต่ยั่งยืนกว่าค่ะ

  • ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสำคัญมาก เหมือนเป็นการเพิ่มแต้มสะสมแบบเร่งด่วน ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น เลือกกิจกรรมที่ชอบ อย่าฝืนตัวเอง เช่น การเดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ หรือแม้แต่การทำความสะอาดบ้านก็ได้ค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: ข้อมูลการลดน้ำหนัก 7700 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 กิโลกรัมเป็นเพียงค่าประมาณ ปริมาณแคลอรี่ที่ต้องเผาผลาญอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ ระดับการออกกำลังกาย และมวลกล้ามเนื้อ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับตัวเองค่ะ อย่าลืมว่าสุขภาพสำคัญที่สุดนะคะ อย่าหักโหมจนเกินไป เหมือนเล่นเกมส์ เล่นแบบบาลานซ์ ทั้งสนุกและได้ผล ไม่ใช่เล่นจนตายคาจอย!

#5วัน #ลดน้ำหนัก #วิธีลด