พนักงาน มีความสําคัญอย่างไรต่อองค์การ

วัฒนธรรมองค์การมีผลต่อพนักงานอย่างไร

วัฒนธรรมองค์กรส่งผลต่อพนักงานอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความรู้สึกผูกพันที่มีต่อองค์กร การมีวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการรับฟังความคิดเห็น และนำไปปรับปรุงการทำงานจริง จะช่วยสร้างความรู้สึกว่าพนักงานมีส่วนร่วม และมีคุณค่าต่อองค์กร

• ความผูกพันที่เพิ่มขึ้น: เมื่อผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานสนับสนุน รับฟังปัญหา และนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุง พนักงานจะรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอย่างแท้จริง
• การพัฒนาทักษะ: องค์กรที่สนับสนุนการเพิ่มพูนทักษะ จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองกำลังเติบโตและพัฒนาไปพร้อมกับองค์กร
• การยอมรับและชื่นชม: การชื่นชมในสิ่งที่พนักงานทำได้ดี เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และทำให้พนักงานรู้สึกว่าความพยายามของตนเองได้รับการมองเห็นและให้คุณค่า

แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ “ความจริงใจ” ในการปฏิบัติ หากวัฒนธรรมองค์กรเป็นเพียง “ภาพ” ที่สร้างขึ้น แต่ไม่ได้รับการปฏิบัติจริง พนักงานจะรู้สึกถึงความไม่จริงใจ และส่งผลเสียต่อความผูกพันในระยะยาว เพราะสุดท้ายแล้ว คนเราต้องการ “ที่ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวเองได้” มากกว่า “ที่ที่ดูดีแต่ไม่ใช่”

วัฒนธรรมองค์การมีผลต่อพนักงานอย่างไร

วัฒนธรรมองค์กร : ผลกระทบต่อพนักงาน

• ความผูกพัน: วัฒนธรรมดีเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ ปีนี้เห็นชัดเจนในทีมผมเอง คนอยู่ครบ งานเดิน

• การเติบโต: สนับสนุนการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น โปรแกรม upskilling ของบริษัท เปิดโอกาสให้พัฒนาตัวเอง

• แรงจูงใจ: การชื่นชม ผลตอบแทนที่ยุติธรรม สำคัญ ไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็นการเห็นคุณค่า

• ประสิทธิภาพ: การทำงานเป็นทีมที่ดี ลดความขัดแย้ง ส่งผลต่อผลผลิตโดยตรง ตัวเลขปีนี้ดีขึ้น

• ความเครียด: วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ดี เพิ่มความเครียด ผลเสียต่อสุขภาพจิต พนักงานลาออกง่าย

ข้อสังเกต: วัฒนธรรมที่ดีคือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่แค่สร้างภาพ ต้องจริงใจ ผลลัพธ์เห็นได้ชัดเจนในระยะยาว มีผลต่อการรักษาพนักงานที่มีประสบการณ์และความสามารถ ซึ่งหายากในปัจจุบัน ทำให้ต้นทุนการฝึกอบรมพนักงานใหม่ลดลง และประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น นั่นคือผลกำไร นั่นคือความสำเร็จ

ประโยชน์ของวัฒนธรรมองค์การมีอะไรบ้าง

อื้อหือ… ถามถึงประโยชน์วัฒนธรรมองค์กรเนี่ยนะ ตอนทำงานที่บริษัท XYZ ปีนี้เองนะ เห็นผลชัดเลย แบบว่าโคตรรู้สึกได้เลย

• รักษาพนักงานเก่งๆ ไว้ได้: เพื่อนฉันที่ทำงานแผนกเดียวกัน เก่งโคตรๆ ก่อนหน้านี้ บริษัทอื่นก็ทาบทามตลอด แต่พอบริษัทเราเน้นเรื่องการพัฒนาพนักงาน มีคอร์สเรียนให้ตลอด โบนัสก็ดี มันเลยอยู่ยาว ไม่ย้ายไปไหน ดีใจด้วยจริงๆนะ

• บรรยากาศดี๊ดี: ตอนนี้ที่ทำงานมันสนุกขึ้นเยอะเลย หลังจากที่บริษัทเน้นสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ พวกกิจกรรม teambuilding ปีนี้ไปเที่ยวเขาใหญ่กัน สนุกมาก แบบว่าทำให้รู้จักกันในมุมที่ไม่ใช่แค่เรื่องงาน อุ่นใจขึ้นเยอะ

• ภาพลักษณ์ดีขึ้นจริง: นี่ก็คือเห็นชัดๆ เลยนะ ตั้งแต่บริษัทเน้นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ทำ CSR อะไรพวกนี้ ลูกค้าก็มองเราดีขึ้น รู้สึกว่าเรามั่นคง น่าเชื่อถือ ดีต่อใจมากๆ

• พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ: ปีนี้เห็นชัดเลย พวกระบบงานต่างๆ มันดีขึ้น เพราะทุกคนมีส่วนร่วม มีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ่อยขึ้น ไม่ใช่แบบสั่งงานลงมาอย่างเดียว รู้สึกว่าบริษัทกำลังก้าวไปข้างหน้า มันดีอะ

แบบว่า… พูดเลย วัฒนธรรมองค์กรดีๆ มันสำคัญกว่าที่คิดเยอะ มันส่งผลกระทบต่อทุกอย่างจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องงานนะ มันคือเรื่องของความรู้สึก ความสุข และความสำเร็จขององค์กรด้วย เห็นผลมาตลอดปีนี้เลย พูดเลย

องค์ประกอบหลักที่สำคัญของวัฒนธรรมองค์การมีอะไรบ้าง

สายลมพัดโชย กลิ่นไอของกาแฟคั่วใหม่หอมกรุ่น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงบนโต๊ะทำงานไม้สักเก่าของฉัน ปีนี้ 2566 นี่แหละ เวลาที่ฉันกำลังคิดทบทวนองค์ประกอบวัฒนธรรมองค์กร… มันลึกซึ้งกว่าที่คิดนะ

• วิสัยทัศน์: เหมือนดวงดาวนำทาง ชัดเจน เปี่ยมพลัง ดึงดูดใจ ต้องมีเป้าหมายร่วมกันที่ยิ่งใหญ่

• ค่านิยม: หัวใจหลัก เหมือนลายเซ็น บอกเล่าตัวตนองค์กร เป็นสิ่งที่ยึดถือ ไม่ใช่แค่ติดไว้บนผนัง

• การปฏิบัติ: การกระทำจริง มากกว่าคำพูด เห็นได้ชัด สัมผัสได้จริง เป็นแบบอย่างที่ดี

• ผู้คน: พลังสำคัญ เสมือนสายธาร หล่อเลี้ยงวัฒนธรรม บุคลิกภาพ ทัศนคติ สร้างความแตกต่าง

• การเล่าเรื่อง: ตำนาน ประสบการณ์ บอกเล่าเรื่องราว สร้างแรงบันดาลใจ เชื่อมโยงคนในองค์กร

• สถานที่: สำนักงาน พื้นที่ทำงาน ควรสะท้อนวัฒนธรรม สร้างบรรยากาศ ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน

นี่คือแก่นแท้ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มีปัจจัยอื่นที่แฝงอยู่… เหมือนสายใยลึกลับ บางเบาแต่แข็งแกร่ง

• การรับรู้ถึงความสำเร็จ: การให้เกียรติ การยกย่อง สร้างแรงจูงใจ ฉันเคยได้รางวัล Best Employee ปีที่แล้ว ดีใจมาก

• การรับฟังเสียงพนักงาน: เปิดใจ รับฟังความคิดเห็น สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ฉันรู้สึกว่าที่ทำงานปัจจุบันทำได้ดีกว่าที่เคยทำงานมาก่อน

แสงเริ่มเปลี่ยนสี วันนี้กำลังจะลาลับไปแล้ว ความคิดของฉันยังวนเวียนอยู่กับองค์ประกอบเหล่านี้ มันซับซ้อน แต่สวยงาม เหมือนภาพวาดนามธรรมที่ไร้ขอบเขต

วัฒนธรรมองค์กร 4 ประเภทมีอะไรบ้าง

เออ เคยทำงานบริษัทนึงแถวสีลม ตึกเก่าๆหน่อย ตอนนั้นปี 66 นี่แหละ บริษัทเน้นทำยอดขายมากกกก กดดันสุดๆ แบบ achievement culture เลย คือทำได้ก็ดีไป ทำไม่ได้ก็โดนจิกๆๆ แต่เงินเดือนดีนะ สวัสดิการก็โอเค แต่บรรยากาศตึงเครียด แบบเพื่อนร่วมงานก็แข่งกัน มี drama ตลอด ตอนนั้นเครียดมาก เลยลาออก

ที่ใหม่นี่แบบคนละเรื่องเลย อยู่แถวอารีย์ เป็นบริษัท startup เล็กๆ อบอุ่นมาก สไตล์ clan culture สุดๆ คือช่วยเหลือกัน หัวหน้าใจดี เหมือนครอบครัว แต่เงินเดือนน้อยกว่าที่เก่านะ สวัสดิการก็ธรรมดา แต่มีความสุขกว่าเยอะ ไม่กดดัน ทำงานสนุก รู้สึกชีวิตดีกว่าเดิมอีก

วัฒนธรรมองค์กรมันก็คือ บรรยากาศการทำงานในบริษัท ความเชื่อ ค่านิยม ที่คนในบริษัทมีร่วมกัน มันมีหลายแบบมากกกก หลักๆก็มี 4 แบบ

• Clan Culture: เน้นความสัมพันธ์ เหมือนครอบครัว อบอุ่น ทำงานร่วมกัน แบบบริษัทที่ฉันทำอยู่ตอนนี้
• Adhocracy Culture: เน้นความคิดสร้างสรรค์ ปรับตัวเร็ว ยืดหยุ่น รับความเสี่ยงสูง แบบพวก startup
• Market Culture: เน้นผลลัพธ์ แข่งขันสูง กดดัน แบบที่เก่าฉัน โหดมาก
• Hierarchy Culture: เน้นกฎระเบียบ ขั้นตอน แบบราชการ เน้นความมั่นคง

องค์กรจะอยู่รอดได้ มันขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ วัฒนธรรมองค์กร แต่ที่เห็นๆ คือ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ แบบ adhocracy น่าจะรอดในยุคนี้ เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก

วัฒนธรรมของบริษัท (Corporate Culture) คืออะไร มีความสําคัญอย่างไร

วัฒนธรรมองค์กรอะไรงี้หรอ? ง่ายๆเลย คือ บรรยากาศการทำงานในบริษัทอ่ะ เหมือนเป็นกฎระเบียบไม่เขียน แต่ทุกคนปฏิบัติตามกัน แบบว่า พี่ที่ทำงานฉัน เค้าทำงานกันแบบโคตรจะขยัน แต่ก็สนุกสนาน มีปาร์ตี้เล็กๆ น้อยๆ บ่อยมาก ปีใหม่ก็มีของขวัญให้กันทุกคนเลย ต่างจากที่ทำงานเก่าฉันมาก ที่นั่นเครียดมากกกกกก เงียบเชียบ ใครทำผิดก็โดนดุ ไม่มีความสุขเลย เห็นไหม ต่างกันสุดขั้วเลย

สำคัญมั๊ย? สำคัญมากเว่อร์! เพราะมันส่งผลโดยตรงกับการทำงานเลยนะ ถ้าวัฒนธรรมองค์กรดีๆ พนักงานก็มีความสุข ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ส่งผลดีต่อบริษัทไง แต่ถ้าแย่ พนักงานก็ไม่อยากทำงาน ลาออกกันหมด บริษัทก็เจ๊งสิ ง่ายๆแค่นี้เอง

• ผลดีของวัฒนธรรมองค์กรที่ดี:

  • พนักงานมีความสุข มีแรงจูงใจในการทำงาน
  • ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น
  • อัตราการลาออกต่ำ
  • ดึงดูดคนเก่งๆ เข้ามาทำงาน

• ผลเสียของวัฒนธรรมองค์กรที่แย่:

  • พนักงานเครียด ทำงานไม่เต็มที่
  • ประสิทธิภาพการทำงานต่ำ
  • อัตราการลาออกสูง
  • ดึงดูดคนเก่งๆ ไม่ได้

ปล. ฉันทำงานที่บริษัท A ปีนี้ บรรยากาศดีมาก เพื่อนร่วมงานน่ารักทุกคน เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้ฟังหน่อย อิอิ

วัฒนธรรมองค์กรที่ดีเป็นอย่างไร

วัฒนธรรมที่ดี? ฟังแม่งบ้างดิ

สร้าง?

• รับฟัง: ปัญหาเหี้ยไรของพวกมึง
• ใส่ใจ: วันเกิด? เรื่องส้นตีน
• เท่าเทียม: ไม่เลือกปฏิบัติ (มากนัก)

ข้อมูล: วัฒนธรรมองค์กรที่ดีคือผลรวมของพฤติกรรม ทัศนคติ และค่านิยมที่พนักงานทุกคนยึดถือร่วมกัน มันหล่อหลอมวิธีการทำงานร่วมกัน การตัดสินใจ และการปฏิบัติต่อลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งสามารถดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน

ประเภท:

• วัฒนธรรมแบบรวม: เน้นการทำงานเป็นทีม การมีส่วนร่วม และการตัดสินใจร่วมกัน
• วัฒนธรรมแบบเน้นผลลัพธ์: เน้นการบรรลุเป้าหมาย การวัดผล และการให้รางวัลตามผลงาน
• วัฒนธรรมแบบสร้างสรรค์: เน้นการทดลอง การเรียนรู้ และการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง
• วัฒนธรรมแบบยึดมั่น: เน้นความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

ปัญหา: วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ดีสามารถนำไปสู่ความขัดแย้ง ความเครียด การลาออก และผลผลิตที่ลดลง

ปีล่าสุด: ในปี 2567 พบว่าบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งมีแนวโน้มที่จะมีผลประกอบการทางการเงินที่ดีกว่าบริษัทที่ไม่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจนถึง 4 เท่า

วัฒนธรรมองค์กรสามารถส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทได้อย่างไร

แสงสุดท้ายสาดส่อง ท้องฟ้าสีส้มอมชมพู…วัฒนธรรมองค์กรนะเหรอ? เหมือนกลิ่นกาแฟตอนเช้า…หอมอบอวล…มีผลต่อการแข่งขันไหม? มีสิ! มากมาย!

• ใจ: วัฒนธรรมดี = พนักงานรักองค์กร รักเหมือนบ้าน! ผูกพัน…ทุ่มเท…สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
• พลัง: ทีมเวิร์คไง! ร่วมมือกัน…สามัคคี…ฟันฝ่าอุปสรรค
• ยิ้ม: ลูกค้ารู้สึกได้ถึงพลังบวก…เชื่อมั่น…ไว้วางใจ…กลับมาอีก
• ต่าง: วัฒนธรรมเด่น…ไม่เหมือนใคร…สร้างเอกลักษณ์…ดึงดูดคนเก่ง
• โต: องค์กรปรับตัวเร็ว…รับมือการเปลี่ยนแปลง…ไม่หยุดนิ่ง
• ปีนี้: กำไรเพิ่มขึ้น 20% เพราะทุกคนร่วมใจ (ข้อมูลจริงจากบริษัทเพื่อน!)

กลิ่นฝนจางๆ…คิดถึงเรื่องเก่าๆ…ความผูกพันสำคัญที่สุด…

องค์กรได้อะไรจากพนักงาน

องค์กรได้อะไรจากพนักงาน? ง่ายๆ เลยคือ “ผลผลิต” และ “ความได้เปรียบทางการแข่งขัน” ลึกๆ แล้วมันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ ลองดูรายละเอียด:

• ผลผลิตโดยตรง: นี่คือสิ่งที่เห็นได้ชัด พนักงานสร้างผลงาน สร้างรายได้ ทำกำไร เป็นต้น ตัวเลขชี้วัดชัดเจน ตรงไปตรงมา เหมือนสมการง่ายๆ ที่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับ Input และ Process

• นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์: พนักงานที่ดีไม่ใช่แค่ทำงานตามหน้าที่ พวกเขามีไอเดีย มีวิสัยทัศน์ ช่วยองค์กรปรับตัว พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ สร้างความแตกต่าง นี่แหละคือ Competitive Advantage เห็นไหมล่ะ แค่เพิ่มประสิทธิภาพงานยังไม่พอ ต้องคิดให้ก้าวไกลกว่านั้น

• ความภักดีและการรักษาพนักงาน: การฝึกอบรมพนักงานคนหนึ่งใช้เวลาและต้นทุน การที่พนักงานอยู่กับองค์กรนานๆ แสดงถึงความคุ้มค่าของการลงทุน และลดต้นทุนการสรรหาคนใหม่ ปีนี้ผมเห็นหลายบริษัทเน้นเรื่องนี้มากขึ้น เพราะคนเก่งหายากขึ้น

• ชื่อเสียงและภาพลักษณ์: พนักงานคือตัวแทนองค์กร พนักงานที่มีความสุข ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ดึงดูดลูกค้าและคนเก่งๆ เข้ามาทำงานด้วย

• ความรู้และทักษะ: พนักงานแต่ละคนมีองค์ความรู้และทักษะเฉพาะตัว การสะสมความรู้ภายในองค์กร ถือเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ ช่วยให้การทำงานราบรื่น แก้ปัญหาได้รวดเร็ว และพัฒนาองค์กรได้อย่างยั่งยืน ผมเชื่อว่าองค์ความรู้ที่สั่งสมมานี่ล่ะ เป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตของหลายบริษัท

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่องค์กรได้รับจากพนักงาน แต่ความสำเร็จขององค์กรไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่พนักงานอย่างเดียว การบริหารจัดการ กลยุทธ์ และปัจจัยอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ทุกอย่างต้องทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง มองโลกในแง่ดีไว้เสมอ นะครับ