สารเคมีเข้าสู่ร่างกายได้ทางไหนบ้าง

48 การดู

สารเคมีเข้าสู่ร่างกายได้หลายทางหลักๆ คือ:

  1. ทางเดินหายใจ: ไอระเหย ฝุ่นละออง ก๊าซต่างๆ สามารถเข้าสู่ปอดได้โดยตรง

  2. ทางผิวหนัง: สารละลายอินทรีย์ โดยเฉพาะสารละลายไขมันได้ดี จะซึมผ่านผิวหนังได้ง่าย

  3. ทางเดินอาหาร: การรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมี

  4. ทางตา: สารเคมีสามารถสัมผัสและซึมผ่านเยื่อบุตาได้

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง และใช้เครื่องป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือ และอุปกรณ์ป้องกันตา เมื่อมีความจำเป็นต้องสัมผัส

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สารเคมีเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร? เส้นทางการสัมผัสสารเคมี

คือแบบนี้ จำได้ตอนเรียนเคมี ม.ปลาย อาจารย์แกเน้นมากเรื่องสารเคมีเข้าร่างกายได้ยังไง จำได้คร่าวๆ ว่ามีสามทางหลักๆ คือทางหายใจ ทางผิวหนัง แล้วก็ทางการกิน ใช่ป่ะ?

อย่างทางหายใจนี่ เห็นภาพชัดเลย ตอนนั้นเราทำแล็บ ไอควันสารละลายอะไรสักอย่างลอยมา โชคดีที่แค่จาม แต่เพื่อนผมคนนึง ไอหนักมาก หน้าแดง ต้องไปหาหมอเลย อันตรายนะ ไอสารเคมีนี่

ส่วนทางผิวหนังนี่ มันก็ซึมเข้าไปได้ง่ายๆ เหมือนกันนะ โดยเฉพาะพวกสารละลายอินทรีย์ที่ละลายไขมันได้ดี แบบในหนังสือเรียนเขียนไว้ เพื่อนผมอีกคน ตอนทำความสะอาดห้องแล็บ ลืมใส่ถุงมือ มือแดงเป็นผื่นเลย จำได้ว่ามันคันมาก ไปหาหมอที่คลีนิกใกล้ ม. เสียค่ารักษาไป 500 บาท

สุดท้ายก็ทางการกิน อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก ถ้ากินเข้าไป ก็เข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร อันตรายสุดๆ เลยล่ะ

จำได้ไม่ค่อยละเอียดละ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละ

สารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใดได้บ้าง

สารเคมีเล่นงานเราได้หลายทาง! คิดว่าร่างกายเราเป็นปาร์ตี้สุดหรู แต่สารเคมีนี่สิ แขกไม่ได้รับเชิญ! มันบุกเข้ามาได้แบบนี้:

  • ทางเดินหายใจ (สูดดมเข้าไป): เหมือนพวกสารเคมีแอบปีนเข้ามาทางหน้าต่าง! อันตรายสุดๆ เพราะปอดเราบอบบาง ไอสารเคมีบางตัว แค่ได้กลิ่นก็จามเป็นหมีแพนด้าแล้ว! ปีนี้เห็นข่าวสารเคมีรั่ว คนแถวนั้นป่วยกันระนาวเลย!

  • ทางผิวหนัง (สัมผัส): เหมือนสารเคมีแอบปีนรั้วเข้ามา! บางตัวแค่สัมผัสก็แสบร้อน เหมือนโดนแมงป่องต่อย! บางตัวร้ายกาจกว่านั้น ซึมเข้าผิวหนังแบบไม่รู้ตัว! เพื่อนผมเคยโดนสารเคมีกัดมือ เจ็บปวดจนต้องไปหาหมอเลยครับ!

  • ทางปาก (รับประทาน): เหมือนสารเคมีแอบเข้ามาทางประตูหลัง! อันนี้เห็นผลชัดเจน เพราะไปถึงระบบย่อยอาหารเลย อาเจียน ท้องเสีย อาการหนักๆ ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะ! ดูข่าวสารอาหารปนเปื้อนสิครับ เสี่ยงมาก!

  • ทางการฉีด: นี่คือแขกที่บุกเข้ามาอย่างตรงไปตรงมาที่สุด! เหมือนพวกสารเคมีใช้กุญแจสำรองเปิดประตูหลังบ้านเข้ามาเลย! อันตรายมาก! ฉีดเข้าเส้นเลือด เร็วและรุนแรงสุดๆ!

สรุปคือ สารเคมีไม่ใช่ของเล่น ระวังตัวให้ดี อย่าให้มันแอบเข้ามาปาร์ตี้ในร่างกายเรา ไม่งั้นสนุกแน่!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): องค์การอนามัยโลก (WHO) มีข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของสารเคมีและการป้องกันอยู่ ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง อย่าลืมเช็คฉลากสารเคมีก่อนใช้งานด้วยนะครับ!

สารเคมีสามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้อย่างไร

สารเคมีอันตรายเนี่ยนะ อืมมม… คิดหนักเลย

  • ระบบหายใจนี่ ถ้าสูดดมเข้าไปเยอะๆ ไม่ใช่เล่นๆ นะ เพื่อนฉันคนนึง ปีนี้เอง ทำงานโรงงาน เป็นหวัดบ่อยมาก หมอก็ว่าอาจจะเพราะสารเคมี ตอนนี้ลาพักร้อนยาวเลย เสี่ยงต่อระบบประสาท สมองพังได้เลยนะ มึนงง ประสาทหลอน นึกภาพไม่ออกเลย น่ากลัวมาก

  • ผิวหนังนี่ แดง อักเสบ แสบๆ คันๆ ฉันเคยโดนน้ำยาซักผ้า แบบเข้มข้น แสบมาก ต้องล้างนานมาก กว่าจะหาย แต่สารเคมีแรงๆ นี่หนักกว่านั้นเยอะแน่ๆ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

  • ตา นี่อันตรายสุดๆ สำหรับฉัน ตาสำคัญมาก เพราะฉันชอบอ่านหนังสือ ถ้าตาบอดนี่ ชีวิตพังแน่ๆ ระคายเคือง แดง ปวดตา แค่คิดก็กลัวแล้ว ต้องระวังให้มากๆ

  • กินเข้าไปล่ะก็ โอ้โห คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มึนงง นี่ไม่ใช่แค่ท้องเสียธรรมดา อาจถึงตายได้เลยนะ เคยเห็นข่าวคนกินยาฆ่าแมลงตายไหม แบบนั้นเลย

อื้อหือ น่ากลัวจัง ต้องระวังให้มากๆ จริงๆนะ สารเคมี ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ปีนี้ฉันก็ระวังตัวมากๆ อย่าประมาทเลย ใช้ถุงมือ หน้ากาก แว่นตา ทุกครั้ง จำไว้ๆๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม (แค่คิดก็เครียดแล้ว): จริงๆ แล้วสารเคมีแต่ละชนิดอันตรายต่างกันนะ อันนี้แค่ยกตัวอย่างคร่าวๆ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ก่อนใช้งานทุกครั้ง อย่าลืมตรวจสอบ MSDS ด้วยนะ สำคัญมากกกก อย่าประมาทเด็ดขาด ชีวิตสำคัญกว่า

สารเคมีอันตราย 9 ประเภท มีอะไรบ้าง

สารเคมีอันตราย 9 ประเภท ตามหลักสากล (อาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามแต่ละประเทศ) คือ:

  • ประเภท 1: วัตถุระเบิด สารที่สามารถระเบิดได้ง่าย อย่างเช่น ไดไนไมต์ หรือสารประกอบไนเตรตต่างๆ อันตรายสูงมาก ต้องจัดเก็บอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็ควรศึกษาข้อมูลความปลอดภัยพื้นฐานไว้บ้างนะ ชีวิตสำคัญกว่า

  • ประเภท 2: ก๊าซ รวมถึงก๊าซไวไฟ ก๊าซออกซิไดส์ ก๊าซพิษ และก๊าซเฉื่อย คิดดูสิ ถ้าก๊าซรั่วขึ้นมา ผลกระทบอาจร้ายแรงได้ ทั้งหายใจไม่ออกหรือเกิดการระเบิด การจัดการก๊าซต้องแม่นยำ อย่าประมาทเด็ดขาด

  • ประเภท 3: ของเหลวไวไฟ เช่น เบนซิน แอลกอฮอล์ ตัวอย่างที่ใกล้ตัวเราเลย การเก็บรักษาต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยแน่นอน ไม่งั้นไฟไหม้ได้ง่ายมาก อันนี้สำคัญจริงๆ

  • ประเภท 4: ของแข็งไวไฟ รวมถึงวัตถุที่ติดไฟได้ง่าย วัตถุที่เกิดการลุกไหม้เองได้ และวัตถุที่สัมผัสน้ำแล้วเกิดก๊าซไวไฟ เหมือนกับเป็นของแข็งที่ไวต่อการติดไฟ ต้องระวังเรื่องความชื้นและความร้อนด้วย เพราะบางทีมันอาจจะลุกไหม้ได้โดยไม่คาดคิด

  • ประเภท 5: สารออกซิไดส์และสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ สารเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้เกิดการเผาไหม้ และบางตัวก็ไม่เสถียร อาจจะเกิดการระเบิดได้ เป็นสารที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย

  • ประเภท 6: วัตถุมีพิษและวัตถุติดเชื้อ สารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกาย หรือทำให้เกิดโรคติดเชื้อ เช่น สารปรอท ไซยาไนด์ หรือเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสต่างๆ ต้องระวังอย่างมาก อันนี้ต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด ไม่งั้นอาจถึงตายได้ จริงๆ แล้วสารเคมีหลายชนิดอันตรายกว่าที่เราคิดนะ

  • ประเภท 7: วัตถุกัมมันตรังสี ปล่อยรังสีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ยูเรเนียม พลูโทเนียม ต้องมีการจัดการอย่างเข้มงวด ตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ รังสีมันมองไม่เห็น แต่ก็อันตรายอย่างมาก

  • ประเภท 8: วัตถุกัดกร่อน สารที่ทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดการไหม้ เช่น กรดแก่ ด่างแก่ อันตรายโดยตรง ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เวลาใช้งานต้องใส่ชุดป้องกันให้ครบถ้วน

  • ประเภท 9: วัตถุอันตรายอื่นๆ สารเคมีที่ไม่เข้ากับ 8 ประเภทข้างต้น แต่ก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น สารก่อมะเร็ง สารก่อกลายพันธุ์ ซึ่งต้องดูที่คุณสมบัติเฉพาะของสารนั้นๆ จึงจะรู้วิธีจัดการอย่างถูกต้อง

พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และการปฏิบัติตามนั้น อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการขออนุญาต การจัดเก็บ การขนส่ง และการกำจัดวัตถุอันตรายอย่างปลอดภัย เพื่อคุ้มครองทั้งคนงานและสิ่งแวดล้อม (ข้อมูล ณ ปี พ.ศ. 2566)

  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดการวัตถุอันตราย มีการปรับปรุงอยู่เสมอ ควรติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อความถูกต้องและทันสมัย

  • การศึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยง และการป้องกันอันตรายจากสารเคมี เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งสำหรับบุคลากรในโรงงาน และประชาชนทั่วไป

ผมเอง เคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีอันตรายในภาคอุตสาหกรรมอาหาร พบว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยง และป้องกันอุบัติเหตุจากสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

#การดูดซึม #ทางเดินหายใจ #ผิวหนัง