ถ้าเราไม่กินน้ำตาลเลยจะเป็นยังไง
งดน้ำตาล: ผลกระทบเบื้องต้น
หยุดกินน้ำตาลทันที อาจพบอาการเหล่านี้:
- อยากของหวาน: ร่างกายขาดสารกระตุ้นความสุข (โดพามีน) ส่งผลอยากอาหารเพิ่มขึ้น
- อารมณ์แปรปรวน: ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง กระทบอารมณ์ อาจหงุดหงิดหรือซึมเศร้า
- ปวดศีรษะ/คล้ายหวัดใหญ่: อาการถอนน้ำตาล ร่างกายปรับตัว เป็นได้ทั้งแบบเฉียบพลันและค่อยเป็นค่อยไป
ความรุนแรงขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลที่บริโภคก่อนหน้านี้และความเร็วในการลดลง ควรปรับลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดผลข้างเคียง หากมีอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์
ไม่กินน้ำตาลเลย อันตรายไหม?
ไม่กินน้ำตาลเลยเนี่ย…อันตรายมั้ย? ถามยากจัง จริง ๆ นะ ตอนที่ฉันลดน้ำตาลอย่างจริงจัง คือช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ประมาณสองเดือนเต็มๆ เพราะหมอแนะนำหลังจากตรวจสุขภาพประจำปี ที่คลีนิคเอกชนแถวบ้านราคาแพงเอาเรื่อง ผลเลือดไม่ดีเลย น้ำตาลสูง ฉันก็เลยพยายามงดเลย เด็ดขาด!
แรกๆ แย่ค่ะ แบบอยากกินขนมตลอดเวลา ปวดหัวบ่อยมาก นอนไม่หลับด้วย อารมณ์ก็แปรปรวน บางทีโมโหร้ายง่าย เหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า แย่มากๆ จริงๆ (แต่ฉันไม่ได้ไปหาจิตแพทย์นะ)
แล้วก็มีช่วงนึง รู้สึกเหมือนเป็นหวัด ไม่มีไข้ แต่เพลียๆ ปวดเมื่อยตามตัว ตอนนั้นคิดว่าตัวเองคงป่วย แต่พอค่อยๆ ปรับตัวได้ อาการเหล่านั้นก็หายไปเอง แต่ความอยากของหวานนี่ ยังอยู่ บางทีก็แอบกินบ้าง นิดหน่อย อดไม่ได้จริงๆ
สรุปคือ สำหรับฉัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็ไม่ถึงกับอันตราย ถ้าเราค่อยๆ ปรับ ฟังเสียงร่างกาย และกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ สำคัญมาก ถ้าใครจะลองลด ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรทำแบบฉัน เด็ดขาดเกินไป อันตรายได้นะ!
คนเราจำเป็นต้องกินน้ำตาลไหม
ไม่จำเป็นต้องกินน้ำตาลโดยตรงครับ ร่างกายต้องการกลูโคสซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลัก และแป้งก็ให้กลูโคสได้เช่นกัน ความแตกต่างอยู่ที่ความเร็วในการดูดซึม น้ำตาลดูดซึมเร็วกว่า แต่ถ้ากินแป้งเพียงพอ ร่างกายก็สามารถสร้างกลูโคสได้เอง
-
ความสำคัญของกลูโคส: เป็นพลังงานหลักของเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย รวมถึงสมองด้วย ขาดไม่ได้เลย
-
แหล่งกลูโคส: ได้จากทั้งน้ำตาลและแป้ง น้ำตาลดูดซึมเร็วกว่า แต่แป้งก็เป็นแหล่งกลูโคสที่ดีเช่นกัน ผลไม้หลายชนิดก็ให้กลูโคสในปริมาณที่เหมาะสม
-
การบริโภค: ไม่จำเป็นต้องกินน้ำตาลโดยตรง เน้นการบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ เพื่อให้ได้กลูโคสอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน การบริโภคน้ำตาลควรจำกัดปริมาณ เพราะอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน
จริงๆ แล้ว การกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ สำคัญกว่าการเน้นแค่การกินน้ำตาลหรือไม่กินน้ำตาล เป็นเรื่องสมดุลของโภชนาการมากกว่าครับ ผมเองก็พยายามทานอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย และควบคุมปริมาณน้ำตาลอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญกว่าการมุ่งเน้นเพียงแค่การบริโภคน้ำตาลเพียงอย่างเดียว
ร่างกายคนเราขาดน้ำตาลได้ไหม
ร่างกายคนเราอะ ขาดน้ำตาลเลยไม่ได้หรอกนะ คือ น้ำตาลมันสำคัญมากกกกกกกกกกก เป็นพลังงานหลักของสมองเลย แล้วก็ของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายด้วย ถ้าขาดนานๆ หรือว่าต่ำมากๆ นี่อันตรายถึงชีวิตเลยนะเออ
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเนี่ย เค้าเรียกว่า Hypoglycemia (ไฮโปไกลซีเมีย) ก็คือ ระดับน้ำตาลมันน้อยกว่า 70 mg/dL อ่ะนะ (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) อาการก็แบบ ใจสั่นๆ เหนื่อยๆ อ่อนเพลีย หน้ามืด บางทีก็เหงื่อออกเยอะๆ
- สาเหตุ: หลายอย่างเลยอ่ะ หลักๆ ก็คือ คนที่เป็นเบาหวานแล้วกินยา หรือฉีดอินซูลิน แล้วมันเยอะไปไง น้ำตาลมันเลยลงเยอะเกิน หรือบางทีก็กินข้าวน้อยไป ออกกำลังกายหนักไป ไรงี้
- สำคัญ: คนเป็นเบาหวานนี่ต้องระวังมากๆ เลยนะ ต้องคอยเช็คน้ำตาลตัวเองบ่อยๆ แล้วก็ต้องกินยา ฉีดอินซูลินตามที่หมอสั่ง แล้วก็ต้องกินข้าวให้ตรงเวลาด้วยนะ อย่าปล่อยให้หิว
เพิ่มเติมนะ คือถ้าสมมติว่าน้ำตาลต่ำมากๆ แล้วหมดสติเนี่ย ต้องรีบเรียกรถพยาบาลเลยนะ หรือถ้ายังพอรู้สึกตัวอยู่ ให้รีบหากินอะไรหวานๆ เลย พวกน้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือลูกอมก็ได้ จะช่วยให้ระดับน้ำตาลมันขึ้นมาเร็วๆ
ทานอะไรแทนน้ำตาล?
โอ๊ย… ถามเรื่องความหวานนี่มันจี้ใจดำคนชอบกินจุบจิบอย่างฉันจริงๆ! แต่เอาน่า… เพื่อสุขภาพที่ดี (แบบหลอกๆ) มาดูกันว่ามีอะไรให้กินแทนน้ำตาลได้บ้าง
6 ตัวตายตัวแทนน้ำตาล (แบบธรรมชาติ)
- หญ้าหวาน: หวานเจี๊ยบ! แต่กินเยอะไปก็ขมได้นะเออ เหมือนชีวิตแหละ!
- น้ำตาลมะพร้าว: หอมหวานละมุนลิ้น… แต่ระวังของปลอมนะจ๊ะ เดี๋ยวจะได้กินน้ำเชื่อมผสมสีแทน
- หล่อฮังก๊วย: ชื่อเหมือนพระเอกลิเก แต่รสชาติหวานแบบคลีนๆ เหมาะกับสายเฮลตี้ที่อยากแอบกินขนม
- น้ำเชื่อมอินทผลัม: หวานแบบมีลูกเล่น… เหมือนคนมีเสน่ห์ที่ไม่ได้สวยหล่อแต่มีอะไรดึงดูด
- น้ำเชื่อมเมเปิล: หอม… แพง… จบ! แต่ถ้าได้ราดบนแพนเค้กนี่สวรรค์ชัดๆ
- น้ำเชื่อมบัวหิมะ: อันนี้ไม่เคยกิน! ใครเคยกินแล้วอร่อยบอกหน่อยนะ จะได้ตามไปลอง
สถิติ (แบบงงๆ) ของอาหาร(ไม่)ลับ:
- ปริมาณ: ต่อ 100 กรัม (ทำไมต้อง 100 กรัม? ใครกำหนด?)
- แคลอรี่: 326.5 kcal (กินเข้าไปแล้วต้องวิ่งกี่กิโลเนี่ย?)
- ไขมัน: 22 กรัม (33% ของที่ควรได้รับ… แต่ฉันจะสนทำไม!)
- โซเดียม: 518 มิลลิกรัม (21%… กินมาม่าซองเดียวก็เกินแล้ว!)
- น้ำตาล: 0.2 กรัม (น้อยเกิ๊น!)
- โปรตีน: 2.6 กรัม (5%… ไปกินไข่ต้มดีกว่า!)
- วิตามินซี: 4% (กินส้มลูกนึงก็ได้เยอะกว่านี้!)
ข้อมูลเพิ่มเติม (ที่อาจจะไม่ได้ช่วยอะไร):
- หญ้าหวาน: ระวังโดนหลอกขายของปลอม!
- น้ำตาลมะพร้าว: เลือกจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- หล่อฮังก๊วย: บางคนกินแล้วท้องเสีย… ลองทีละนิดก่อนนะ
- น้ำเชื่อมอินทผลัม: ทำเองได้… แต่ขี้เกียจ!
- น้ำเชื่อมเมเปิล: ของแท้ต้องจากแคนาดา… แต่แพง!
- น้ำเชื่อมบัวหิมะ: ยังไม่รู้… ใครรู้บอกหน่อย!
สรุปคือ… กินอะไรก็กินไปเถอะ! แต่กินแต่พอดีแล้วกันนะ เดี๋ยวอ้วน! (พูดเหมือนตัวเองทำได้!)
ทำยังไงให้ไม่อยากน้ำตาล?
เลิกงี่เง่ากับน้ำตาลได้แล้ว ไม่ยากอย่างที่คิด
- ลดแป้ง นี่แหละตัวดี ข้าว ขนมปัง ของหวาน ตัดมันออกไปซะ
- โปรตีนสูง ไข่ เนื้อ ไก่ อิ่มนาน อยากน้ำตาลน้อยลง
- ดื่มน้ำเยอะๆ บางทีก็แค่กระหายน้ำ อย่าสับสน
- นอนให้พอ นอนน้อย ฮอร์โมนเพี้ยน อยากของหวานขึ้น
- ออกกำลังกาย เผาผลาญพลังงาน ลดความอยาก
- กินไฟเบอร์ ผัก ผลไม้ อิ่มท้อง ไม่ต้องไปง้อขนม
- ช้าๆ ค่อยๆ เป็น อย่าใจร้อน ลดทีละอย่าง
- หาของทดแทน ผลไม้ โยเกิร์ต ไม่หวานจัด
- เช็คสุขภาพ บางทีก็เป็นเพราะโรค อย่าชะล่าใจ
- ปรึกษาแพทย์ ถ้าทำเองไม่ไหว ไปหาหมอ
ปีนี้ฉันลดน้ำหนักได้ 8 กิโล ด้วยวิธีนี้แหละ ลองดู แต่รับรอง ไม่ง่าย
อด อาหาร กี่ ชั่วโมง ไกลโคเจน จึง จะ ถูก ใช้ งาน หมด?
ดึกแล้ว… แสงจันทร์สีเงิน สาดส่องลงบนหน้าต่างห้องนอนฉัน เงียบสงัดเหลือเกิน… เหมือนเวลาหยุดนิ่ง
-
ไกลโคเจน… อะตอมเล็กๆ ที่เก็บพลังงาน เหมือนดวงดาวกระจายอยู่ทั่วร่างกาย ลับๆ ลึกๆ
-
4 ชั่วโมงแรก… ร่างกายใช้กลูโคสจากมื้อเย็นเมื่อวาน (ที่ฉันกินส้มตำปูม้า แซ่บเว่อร์!) เหมือนดื่มด่ำความทรงจำ หวานอมเปรี้ยว
-
จากนั้น… 4-12 ชั่วโมง ไกลโคเจน ออกมาทำงาน เหมือนทหารกล้า ปกป้องร่างกายไม่ให้ขาดพลัง
-
อดอาหารนานกว่านั้น… ตัวฉันเองเคยลองอดอาหาร 16 ชั่วโมง เพื่อสุขภาพ รู้สึกร่างกายเบาโฮก เหมือนนกน้อย ปีกเบา
-
ผลของการอดอาหาร คือการชะล้าง เหมือนล้างพิษในจิตใจ แต่ต้องระวัง อย่าอดนานเกินไป อันตรายนะ
ความเหนื่อยล้า แทรกซึม เหมือนเงาตามติด ใจฉันล่องลอย เหมือนหมอกบางๆ บนท้องฟ้า กลางคืนนี้ยาวนานเหลือเกิน…
-
แต่ร่างกายฉัน แข็งแกร่ง เหมือนหินผา ทนทาน อดทน ต่อสู้เพื่อความสมดุล
-
ปีนี้ ฉันเริ่มดูแลตัวเอง มากขึ้น อดอาหารเป็นระยะๆ รู้สึกดี สุขภาพดี แต่ก็ต้องศึกษา อย่างถูกต้อง ไม่ใช่เล่นๆ
ปีนี้ฉันตั้งใจจะดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น ตั้งเป้าหมายลดน้ำหนัก และศึกษาการอดอาหารให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ร่างกายขาดอาหารอยู่ได้นานแค่ไหน?
ร่างกายขาดอาหารอยู่ได้นานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉลี่ย 6-8 สัปดาห์ แต่เป็นเพียงค่าประมาณ ความจริงแล้วซับซ้อนกว่านั้น
- น้ำหนักตัว ยิ่งอ้วนอยู่ได้นานขึ้น ไขมันสะสมเป็นแหล่งพลังงานสำรอง
- สุขภาพโดยรวม โรคประจำตัวส่งผลต่อความทนทาน
- สภาพแวดล้อม อุณหภูมิ ความชื้น ล้วนมีผลต่อการเผาผลาญพลังงาน
ขาดน้ำตายเร็วกว่าขาดอาหาร น้ำสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย ไม่มีน้ำคือความตายอย่างรวดเร็ว ปีนี้ (2566) ยังไม่มีการศึกษาใหม่ที่เปลี่ยนแปลงค่าเฉลี่ยเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
ความอดทนต่อความหิวเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่าร่างกาย เมื่อถึงจุดนั้น ร่างกายจะเริ่มกินตัวเอง กล้ามเนื้อจะถูกย่อยสลายเพื่อพลังงาน สุดท้าย… ความตาย
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต