ทำไมเจ็บคอห้ามกินเผ็ด

เจ็บคอ…อาการไม่สบายตัวที่ใครๆ ก็เคยประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นจากการติดเชื้อ ไวรัส หรือแม้กระทั่งการแพ้สิ่งระคายเคืองต่างๆ อาการเจ็บแสบ คันคอ กลืนลำบาก ล้วนสร้างความทรมาน และแน่นอนว่าหนึ่งในคำแนะนำยอดฮิตที่เราได้ยินเสมอๆ คือ ห้ามกินเผ็ด! แต่ทำไมกัน? อาหารเผ็ดที่หลายคนชื่นชอบ กลับเป็นสิ่งต้องห้ามเมื่อเจ็บคอ เรามาไขข้อข้องใจกัน

คำตอบสั้นๆ คือ อาหารเผ็ดกระตุ้นการอักเสบในลำคอ และยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก ความเผ็ดร้อนของอาหาร เกิดจากสารแคปไซซิน (Capsaicin) สารประกอบสำคัญในพริกและพืชตระกูลเดียวกัน แคปไซซินจะไปกระตุ้นปลายประสาทรับความรู้สึก ทำให้เกิดความรู้สึกเผ็ดร้อน และที่สำคัญ มันยังไปกระตุ้นการอักเสบในเยื่อบุต่างๆ รวมถึงเยื่อบุในลำคอที่กำลังอักเสบอยู่แล้ว ยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น อาการเจ็บคอจึงทวีความรุนแรง กลืนลำบากยิ่งขึ้นไปอีก

นอกจากการกระตุ้นการอักเสบแล้ว แคปไซซินยังส่งผลต่อการผลิตเมือกในร่างกาย เมือกเป็นกลไกป้องกันตามธรรมชาติของร่างกาย ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค และสารระคายเคือง แต่เมื่อลำคออักเสบอยู่แล้ว การเพิ่มปริมาณเมือก กลับทำให้รู้สึกแน่นคอ หายใจไม่สะดวก และอาจทำให้เกิดการไอมากขึ้น ซึ่งยิ่งซ้ำเติมอาการเจ็บคอให้แย่ลง วงจรความเจ็บปวดจึงวนเวียนอยู่เช่นนี้ การกลืนอาหารเผ็ดร้อน เปรียบเสมือนการเอาเกลือไปโรยแผลสดๆ ยิ่งทำให้แสบร้อน และหายช้า

ดังนั้น การเลือกอาหารอ่อนๆ คือทางเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเจ็บคอ อาหารที่ควรเลือกบริโภค ควรมีลักษณะนุ่ม ไม่ระคายเคือง เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุปใส น้ำซุปไก่ หรือโยเกิร์ต อาหารเหล่านี้จะช่วยให้การกลืนอาหารสะดวกขึ้น ไม่ไปเพิ่มการระคายเคืองในลำคอ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ทั้งเผ็ด เปรี้ยว หรือเค็ม รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์ เพราะอาจไปกระตุ้นการอักเสบ และทำให้อาการแย่ลง

การดูแลรักษาสุขภาพลำคอ นอกจากการเลือกอาหารแล้ว การดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ การพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการใช้เสียงมากเกินไป ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อาการเจ็บคอหายเร็วขึ้น อย่าลืมว่าการรักษาอาการเจ็บคอ ไม่ใช่เพียงแค่การรับประทานยา แต่การดูแลตัวเอง การเลือกอาหารที่เหมาะสม ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเร่งให้หายป่วย และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้ง ดังนั้น เมื่อเจ็บคอ อย่าฝืนใจกินเผ็ด ให้ความอ่อนโยนกับลำคอ เพื่อการฟื้นตัวที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ