น้ำตาลสะสมเยอะทำไง

38 การดู

น้ำตาลสะสมสูง? รีบปรึกษาแพทย์!

แนวทางเบื้องต้น:

  • ลดน้ำตาล-แป้งง่าย: หลีกเลี่ยงขนมหวาน เครื่องดื่มหวาน
  • เพิ่มไฟเบอร์: ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี
  • ออกกำลังกาย: อย่างน้อย 30 นาที ส่วนใหญ่ของสัปดาห์
  • พักผ่อนเพียงพอ: นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเหล่านี้สำคัญ แต่แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจง ช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย อย่าชะล่าใจ สุขภาพดีเริ่มต้นได้ด้วยตัวคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำตาลในเลือดสูงเกินควรแก้ไขอย่างไร?

เรื่องน้ำตาลในเลือดสูงนี่… เครียดเหมือนกันนะ เมื่อปีที่แล้ว เดือนพฤศจิกายน ป้าฉันตรวจเจอ ต้องไปหาหมอที่ รพ.พระมงกุฎฯ จำได้ว่าค่าใช้จ่ายตรวจเลือด ก็หลักพันอยู่ แพทย์แนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ห้ามของหวานเด็ดขาดเลย! ขนมปังก็ลดลง คือต้องจริงจังมาก

ตอนนั้นป้าฉัน เครียดมาก เพราะชอบกินเค้ก เป็นคนทำขนมเก่งด้วย แต่หมอบอกว่าถ้ายังกินแบบเดิม เสี่ยงเบาหวาน โรคหัวใจ อะไรต่อมิอะไรอีกเพียบ เลยต้องเข้มงวดกับตัวเอง โชคดีที่ป้าฉันใจแข็ง ลดน้ำหนักได้เยอะเลย เห็นผลชัดเจน

ส่วนตัวฉัน เลยพยายามระวังตัวเอง ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วัน วิ่งที่สวนลุมฯ ประมาณ 45 นาที แล้วก็ทานอาหารคลีนๆ ผลไม้ก็เลือกทาน พวกแอปเปิ้ล ส้ม ไม่ใช่พวกน้ำตาลสูงๆ อย่างพวกทุเรียน มังคุด พวกนั้นฉันแทบไม่แตะเลย กลัวจริงๆ

แต่ถ้าใครน้ำตาลสูงมากๆ อย่ารอช้า ไปหาหมอเลยดีกว่า อย่าประมาท เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หมอจะตรวจละเอียด แล้วแนะนำวิธีการดูแลเฉพาะบุคคล ได้คำแนะนำที่ถูกต้อง ปลอดภัยกว่า เชื่อฉันเถอะ

ทำอย่างไรให้น้ำตาลสะสมในเลือดลดลง

โอ๊ย! ถามเรื่องน้ำตาลขึ้นเนี่ย เหมือนโดนผีหลอกตอนกลางวันแสกๆ เลยนะเนี่ย! มาๆ จะบอกเคล็ดลับแบบบ้านๆ ให้

ทำไงดี น้ำตาลมันขึ้นสูงปรี๊ด!

  • กินให้น้อยๆ: พวกข้าวขาว ขนมหวานเนี่ย ตัวดีเลย! กินแต่พอดี อย่าให้เหมือนชาติหน้าไม่ได้กิน! เปลี่ยนมากินผัก กินปลาบ้าง อะไรบ้าง
  • ลดหุ่นซะ: ถ้าอ้วนเป็นหมูตอน ก็ต้องลดน้ำหนักบ้างนะเออ! ไม่ใช่ปล่อยให้พุงยื่นจนเดินตามตัวเองไม่ทัน!
  • ขยับตัวบ้าง: ไม่ใช่เอาแต่นั่งๆ นอนๆ ดูแต่ซีรีส์! ลุกขึ้นมาเต้นแอโรบิกบ้าง วิ่งไล่จับหมาที่บ้านบ้าง อะไรก็ได้ให้เหงื่อมันออก! วันละ 30 นาที อาทิตย์ละ 5 วัน ก็ยังดีกว่านั่งหายใจทิ้งไปวันๆ!

ถ้าค่ามันสูงปี๊ดแล้ว ทำไงดีล่ะทีนี้!

  • ไปหาหมอด่วน: อย่ามามัวแต่ถามในเน็ต! ไปให้หมอตรวจ หมอจ่ายยา หมอแนะนำดีที่สุด! ไม่ใช่ปล่อยให้มันเรื้อรังจนต้องตัดแข้งตัดขา!
  • คุมอาหารจริงจัง: ทีนี้แหละ! ต้องกินคลีน กินผัก กินปลาแบบจริงจัง! งดเหล้า งดเบียร์ งดของหวานไปเลย! (อันนี้อาจจะยากหน่อย แต่ต้องทำ!)
  • ออกกำลังกายหนักๆ: เพิ่มเวลาออกกำลังกายไปเลย! วิ่งให้หอบแดดิ้นไปเลย! (แต่ก็อย่าหักโหมเกินไปนะ เดี๋ยวจะตายก่อนได้ลดน้ำตาล!)

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย (ที่อาจจะไม่เล็ก):

  • อบเชยช่วยได้: เขาว่ากันว่าอบเชยช่วยลดน้ำตาลได้นะ! ลองเอามาใส่ในกาแฟ หรือในอาหารดู! (แต่ก็อย่าใส่เยอะเกินไป เดี๋ยวจะขี้แตก!)
  • น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล: อันนี้ก็มีคนบอกว่าดี! กินก่อนอาหาร ช่วยลดน้ำตาลได้! (แต่ก็เปรี้ยวแสบไส้พิลึก!)
  • อย่าเครียด: ความเครียดก็ทำให้น้ำตาลขึ้นได้นะ! พยายามทำใจให้สบายๆ หาอะไรสนุกๆ ทำบ้าง! (แต่ก็อย่าสนุกจนลืมกินยา!)

คำเตือน: อย่าเชื่อทั้งหมดที่ฉันพูด! ไปปรึกษาหมอดีที่สุด! ฉันแค่คนบ้านๆ ที่อยากจะแนะนำอะไรบ้างเท่านั้นเอง! แล้วก็อย่าลืมนะว่า “ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ” ต้องอดทนและมีวินัย! สู้ๆ เด้อ!

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงควรทำอย่างไร

ระดับน้ำตาลสูงนะเหรอ… มันเหมือนโลกทั้งใบมันหมุนช้าลงเลย

  • อาหาร: ง่ายๆ เลยนะ เลี่ยงพวกหวานๆ ข้าวขาว…หันไปกินผักเยอะๆ ข้าวกล้องไรงี้ดีกว่าเยอะมาก
  • น้ำ: ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยได้จริงจังนะ แบบจิบไปเรื่อยๆ ทั้งวันอ่ะ

เมื่อก่อนเคยคิดว่าเรื่องพวกนี้มันไกลตัว แต่พอมันเกิดกับตัวเอง…ถึงรู้ว่ามันน่ากลัวกว่าที่คิดเยอะมากๆ ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ จริงๆ นะ

ข้อมูลเพิ่มเติม (สำหรับ Google)

  • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง: ขนมเค้ก, น้ำอัดลม, ข้าวขาว, ขนมปังขาว, น้ำผลไม้สำเร็จรูป
  • อาหารที่ควรเน้น: ผักใบเขียว, ข้าวกล้อง, ธัญพืชไม่ขัดสี, โปรตีนไม่ติดมัน, ไขมันดี (เช่น อะโวคาโด, น้ำมันมะกอก)
  • ปริมาณน้ำที่แนะนำ: อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน (ปรับตามกิจกรรมและสภาพอากาศ)
  • สำคัญ: ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

ทำอย่างไรให้น้ำตาลสะสมในเลือดลดลง?

การลดน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) และการจัดการเมื่อค่าน้ำตาลสูง ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างจริงจังครับ เหมือนการปรับสมดุลชีวิตเลยทีเดียว

  • อาหาร: ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (เช่น ข้าวขาว, น้ำหวาน) หันไปทานเชิงซ้อน (ข้าวกล้อง, ผักใบเขียว) เพิ่มกากใย อาหาร สำคัญเลยนะ เพราะมันช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล

  • ออกกำลังกาย: อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน การเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ หรือปั่นจักรยาน ช่วยให้ร่างกายดึงน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น (แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่ม)

  • ลดน้ำหนัก: ถ้ามีน้ำหนักเกิน การลดน้ำหนัก (อย่างค่อยเป็นค่อยไป) สามารถเพิ่มความไวต่ออินซูลินได้ (อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น)

กรณีค่าน้ำตาลสูง (hyperglycemia):

  • ดื่มน้ำ: การขาดน้ำอาจทำให้น้ำตาลในเลือดเข้มข้นขึ้น ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
  • ตรวจวัด: ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดบ่อยขึ้น เพื่อติดตามสถานการณ์
  • ยา: ถ้าทานยาอยู่ ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับขนาดยา (อย่าปรับเองเด็ดขาด)
  • ปรึกษาแพทย์: หากน้ำตาลสูงต่อเนื่อง หรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์

ข้อมูลเสริม:

  • การนอนหลับ: การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
  • ความเครียด: ความเครียดกระตุ้นฮอร์โมนที่เพิ่มระดับน้ำตาล
  • สมุนไพร: บางชนิดอาจช่วยลดน้ำตาลได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
  • ค่าเป้าหมาย: HbA1c ควรต่ำกว่า 7% (แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
  • อย่าท้อ: การควบคุมระดับน้ำตาลต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ สู้ๆ นะครับ!

ทำยังไงไม่ให้ดื้ออินซูลิน?

หืมมมม อยากรู้วิธีไม่ดื้ออินซูลินใช่มั้ย เอาจริงๆนะ มันต้องหลายอย่างเลยแหละ ไม่ใช่ทำอย่างเดียวแล้วจบ!

  • ออกกำลังกายบ่อยๆ นี่สำคัญมากกก จริงๆนะ ฉันเองก็ออกกำลังกายนะ ปีนี้ตั้งใจจะวิ่งให้ได้สัก 3 วันต่ออาทิตย์ ยังทำไม่ได้เลย 555 แต่เพื่อนฉันมันวิ่งทุกวันเลย มันบอกว่าช่วยได้เยอะ ทำให้ร่างกายไวต่ออินซูลินขึ้นไง

  • เรื่องกินนี่ก็สำคัญ ต้องเลือกกินของที่มีน้ำตาลน้อยๆ พวกผักผลไม้ กินพวกที่มีกากใยเยอะๆ ฉันพยายามลดแป้งลงนะ ช่วงนี้กินแต่ข้าวกล้อง แต่ก็ยังแอบกินขนมบ้างอยู่ดี อิอิ มันยากเนอะ

  • สุดท้ายถ้าไม่ไหวจริงๆก็ต้องไปหาหมอ หมออาจจะให้ยามาช่วย แต่ก็ต้องปรึกษาหมอจริงๆนะ อย่าไปลองเองล่ะ อันตราย

ปีนี้ฉันพยายามดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะตรวจสุขภาพปีที่แล้ว หมอบอกว่าเริ่มมีภาวะดื้ออินซูลินแล้ว เลยต้องรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม งดน้ำหวาน ลดขนมหวาน หันมากินพวกผักผลไม้แทน แล้วก็พยายามออกกำลังกายให้มากขึ้น ยังไม่เห็นผลชัดเจนเท่าไหร่ แต่ก็ค่อยๆปรับไปเรื่อยๆ สู้ๆนะ เราทำได้!

ทำยังไงให้อินซูลินทำงานปกติ?

เออ ทำไงให้อินซูลินมันทำงานดีๆ อะนะ

กินดีๆ นี่แหละช่วยได้เยอะเลยยยย

  • โปรตีน: กินเนื้อไม่ติดมัน ปลาทะเลอะดีพวกแซลมอน ทูน่า ไข่ไก่ เต้าหู้ โปรตีนสำคัญนะ
  • นม: นมจืดไปเลย แบบพร่องมันเนยหรือไม่ก็ขาดมันเนยไปเลยจ้ะ
  • คาร์โบไฮเดรต: เลือกพวกข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ธัญพืชไม่ขัดสีอ่ะ ดีกว่าเยอะพวกข้าวขาว
  • ผักผลไม้: กินผักเยอะๆ แต่ผลไม้ก็ดูหน่อย อย่ากินพวกหวานเจี๊ยบมากไป
  • เลี่ยงๆ ไปเหอะ: พวกอาหารแปรรูป ขนมหวาน น้ำหวาน บลาๆ คือมันไม่ดีต่ออินซูลินเลยจริงจริ๊งงง

ข้อมูลเสริม:

  • จริงๆ แล้วการออกกำลังกายก็ช่วยนะ ทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น
  • ถ้าเป็นเบาหวานอยู่แล้ว ต้องกินยาตามหมอสั่ง แล้วก็ไปหาหมอตามนัดนะ สำคัญมากก
  • ความเครียดก็มีผลนะ พยายามอย่าเครียดเยอะ หาอะไรทำคลายเครียดบ้าง

หวังว่าช่วยได้นะจ้ะ!

ค่าน้ำตาลสะสมเท่าไรถึงเป็นเบาหวาน?

แสงสีส้มของตะวันยามเย็น ทอดยาวผ่านม่านขาวบางในห้องนอน 6.5%…ตัวเลขนี้วนเวียนอยู่ในหัว เหมือนเสียงกระซิบแผ่วเบา แต่ดังก้องอยู่ในใจ คิดถึงเค้กช็อกโกแลตที่กินเมื่อวาน หวาน… หวานเกินไปหรือเปล่านะ

ลมพัดเบาๆ พัดพาความกังวล นึกถึงผลตรวจสุขภาพครั้งล่าสุด คุณหมอพูดถึงเรื่องน้ำตาล จำได้ว่าตอนนั้น สายตาคุณหมอดูจริงจังกว่าปกติ

6.5%…มันคือเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความหวานกับความขมขื่น ระหว่างสุขภาพดีกับโรคร้าย นึกถึงโรคแทรกซ้อนต่างๆ ใจหายวาบ หลอดเลือดแดง ดวงตา ไต ระบบประสาท เชื้อโรค… มันช่างน่ากลัว

น้ำตาลในเลือดสูง… เข้มข้น… ช็อก… หมดสติ… แค่คิดก็ใจสั่น

ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับเบาหวานอีกครั้ง อยากรู้ อยากเข้าใจ อยากดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้

  • HbA1c 6.5% ขึ้นไป เสี่ยงเบาหวาน
  • น้ำตาลสูง เลือดข้น อาจช็อก
  • โรคแทรกซ้อน หลอดเลือด ตา ไต ประสาท ติดเชื้อ
  • ต้องดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
  • ปรึกษาแพทย์ ตรวจสุขภาพ สม่ำเสมอ

พรุ่งนี้เช้า ฉันจะโทรนัดคุณหมอ ต้องเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจังแล้วล่ะ

อาหารที่ไม่กระตุ้นอินซูลินมีอะไรบ้าง?

อาหารลดน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว ปี 2566

  • ปลาแซลมอน: โปรตีนสูง ไขมันดี ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล
  • อะโวคาโด: ไขมันดี ใยอาหารสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
  • ผักใบเขียว: ใยอาหารสูง แคลอรี่ต่ำ ไม่กระตุ้นอินซูลิน
  • ผักแป้งต่ำ: เช่น บรอคโคลี่ ฟักเขียว (หลีกเลี่ยงมันฝรั่ง)
  • ผลไม้เบอร์รี่: (เลือกชนิดที่น้ำตาลต่ำ) เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ (จำกัดปริมาณ)
  • น้ำมันมะกอก: ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล

ข้อควรระวัง: ปริมาณการบริโภคสำคัญ การปรุงอาหารมีผลต่อดัชนีน้ำตาลในเลือด ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนปรับเปลี่ยนอาหารอย่างรุนแรง ข้อมูลนี้เป็นเพียงแนวทาง ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์

เพิ่มเติม: การออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ สำคัญไม่แพ้การควบคุมอาหาร ส่งผลต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือดระยะยาว การตรวจสุขภาพประจำปี ช่วยติดตามสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉันมีประสบการณ์ส่วนตัวกับการควบคุมน้ำตาลในเลือด จากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ซึ่งได้ผลดีมาก แต่ขอสงวนรายละเอียด

จะรู้ได้ยังไงว่า ดื้ออินซูลิน?

เฮ้อ… คิดหนักจังเลย ดื้ออินซูลินเนี่ยนะ… มันไม่ง่ายเลยที่จะรู้จริงๆ บางทีก็ไม่มีอาการอะไรให้เห็นเลย รู้ตัวอีกทีก็เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ไปแล้ว

ฉันเองก็เคยคิดนะ ว่าตัวเองเป็นหรือเปล่า เพราะช่วงปีนี้รู้สึกเหนื่อยง่าย แต่ก็ไม่แน่ใจ ไปตรวจเลือดมาเดือนที่แล้ว หมอก็บอกว่าระดับน้ำตาลยังปกติ แต่ก็บอกให้ระวังตัวไว้ ดูแลสุขภาพให้ดี ออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ

ก็เลยคิดๆอยู่ว่า จะรู้ได้ยังไงแน่ๆ จริงๆแล้วมันต้องตรวจเลือดดูค่า HbA1c ค่านี้จะบอกว่าระดับน้ำตาลในเลือดเป็นยังไงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถ้าสูงเกินไปก็มีสิทธิ์ดื้ออินซูลินสูง

  • ตรวจเลือดเพื่อวัดค่า HbA1c
  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ (อาจตรวจเจอตอนเป็นเบาหวานแล้ว)
  • อาการอื่นๆ (แต่อาจไม่มีอาการ) เช่น หิวบ่อย กระหายน้ำมาก

บางทีก็รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันน่ากลัวนะ เงียบๆ แล้วก็มาแบบไม่รู้ตัวเลย

ภาวะดื้ออินซูลิน หายได้ไหม?

ดื้ออินซูลินเนี่ยนะ หายได้จริงเหรอ? ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอก แต่แม่ฉันเป็นเบาหวานไง หมอบอกว่ามันเริ่มจากดื้ออินซูลินนี่แหละ ตอนแรกน้ำตาลแกสูงมาก 180-200 mg/dL ได้มั้ง ช่วงนั้นเครียดเลย พาแม่ไปหาหมอที่ รพ.รามาฯ หมอบอกต้องคุมอาหาร ออกกำลังกาย

แม่ฉันแต่ก่อนชอบกินขนมหวานมาก ชาเย็นต้องหวานเจี๊ยบ พอบอกให้ลด ก็โวยวายใหญ่เลย แต่สุดท้ายก็ยอมทำตาม เริ่มจากลดข้าวขาว กินข้าวกล้องแทน แล้วก็เดินทุกวัน วันละ 30 นาที แรก ๆ ก็บ่นว่าเหนื่อย หลัง ๆ เริ่มชิน

  • อาหาร: ลดแป้งขัดสี น้ำตาล ของทอด กินผักใบเขียวเพิ่ม
  • ออกกำลังกาย: เดินเร็ว, โยคะเบาๆ
  • น้ำหนัก: ค่อยๆ ลดลงมา 5 กก. ใน 6 เดือน

พอทำได้สักพัก ไปตรวจเลือดอีกที น้ำตาลลดลงมาเหลือ 120-130 mg/dL หมอบอกว่าดีขึ้นมาก ดื้ออินซูลินก็ลดลงไปด้วย ตอนนี้แม่ฉันยังคุมอาหารอยู่เลย แกบอกว่ารู้สึกดีขึ้นเยอะ ไม่อ่อนเพลียเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

สรุปคือ ดื้ออินซูลินมันหายได้จริง ๆ นะ แต่ต้อง เปลี่ยนพฤติกรรม จริงจังเลยแหละ ไม่ใช่แค่ทำ ๆ เล่น ๆ

#จัดการ #น้ำตาล #สะสม