น้ําตาลต่ําในผู้ สูงอายุ อันตรายไหม

17 การดู

ภาวะน้ำตาลต่ำในผู้สูงอายุอันตราย เสี่ยงหมดสติ สมองพิการถึงเสียชีวิตได้ เกิดจากกินอาหารไม่พอ หรือไม่ตรงเวลา ควรระวังเป็นพิเศษ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำตาลต่ำในผู้สูงอายุเป็นอันตรายไหม? สาเหตุคืออะไร? มีอาการแบบไหน? วิธีรับมือและป้องกันภาวะนี้อย่างไรบ้าง?

คุณยายฉันอายุ 78 แล้ว แกเป็นเบาหวาน ปีที่แล้ว แกเป็นลมหมดสติกลางดึก ตอนนั้นตกใจมาก ส่งโรงพยาบาลแทบไม่ทันเลย หมอบอกน้ำตาลในเลือดแกต่ำมาก โชคดีที่ทันการณ์ ไม่งั้นอาจจะ…คิดแล้วก็ยังขนลุก ตอนนั้นค่ารักษาพยาบาลก็หลายหมื่นอยู่ จำได้แม่นเลย เกือบสามหมื่นบาท ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ

หลายสาเหตุนะที่ทำให้คนสูงอายุเป็นน้ำตาลต่ำ อย่างคุณยายฉัน ส่วนหนึ่งเพราะทานยาคุมเบาหวาน แล้วบางทีก็ลืมกินข้าว หรือกินไม่ตรงเวลา อีกอย่างคือ แกชอบอดอาหาร คิดว่าจะช่วยควบคุมน้ำตาล จริงๆแล้วอันตรายมากเลยนะ มันไม่ใช่แค่เวียนหัว ถ้าต่ำมากๆถึงขั้นช็อกหมดสติได้เลย

อาการอื่นๆ ก็มี ใจสั่น เหงื่อออกเยอะ ตัวเย็น มือสั่น พูดไม่ชัด บางทีก็มึนงง ง่วงนอน แต่ละคนอาการไม่เหมือนกัน คุณยายฉันก็เป็นไม่เหมือนกันทุกครั้ง บางครั้งก็มีแค่เวียนหัว บางครั้งก็รุนแรงถึงขั้นหมดสติเลย แล้วแต่ระดับน้ำตาลในเลือดด้วยมั้ง

เราต้องระวังให้มาก พยายามให้คุณยายฉันกินอาหารให้ตรงเวลา และกินขนมหรือผลไม้ที่มีน้ำตาล ติดกลูโคสไว้ที่บ้านตลอดเวลา เผื่อฉุกเฉิน ถ้าเห็นอาการไม่ดีก็ต้องรีบพาไปหาหมอ เลย อย่าประมาทเด็ดขาด มันอันตรายจริงๆ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สุขภาพสำคัญที่สุด เงินทองหาใหม่ได้ แต่สุขภาพหาใหม่ยาก ที่สำคัญคือต้องดูแลผู้สูงอายุให้ดี อย่าปล่อยให้พวกท่านลำบาก เพราะเราเป็นคนดูแลพวกเขา

น้ำตาลต่ำแค่ไหนถึงอันตราย

อุ๊ยตาย! น้ำตาลต่ำนี่อันตรายแค่ไหนนะ 70 mg/dL หรือ 3.9 mmol/L สำหรับคนเป็นเบาหวาน นี่คือเกณฑ์ใช่มั้ย? จำได้ลางๆ ว่าเคยอ่านเจอ แต่ต่ำกว่า 55 mg/dL หรือ 3.1 mmol/L ในคนปกติ นี่คืออันตรายสุดๆ เลยใช่มั้ยเนี่ย ต้องรีบกินอะไรหวานๆ ช็อกโกแลตมั้ย? หรือโค้กดี

  • คนเป็นเบาหวาน 70 mg/dL (3.9 mmol/L) อันตรายแล้วนะ
  • คนปกติต่ำกว่า 55 mg/dL (3.1 mmol/L) นี่คือ ! อันตรายมากกกก
  • กินอะไรหวานๆ รีบเลย!

เมื่อวานไปตรวจสุขภาพมา หมอบอกฉันน้ำตาลปกติ โล่งอกไปที แต่ก็ต้องระวังอยู่ดีแหละ ไม่งั้นเป็นเบาหวานแน่ๆ ปีนี้ตั้งใจลดน้ำหนักด้วย กินแต่ผัก ไม่กินของหวาน ยกเว้นวันเกิด วันเกิดปีนี้ขอเค้กช็อกโกแลต ฮ่าๆๆ

แต่ถ้าอาการหนัก ต้องไปหาหมอ อย่ามัวแต่กินช็อกโกแลตแก้เอง อย่างฉันนะ เคยเป็นลมเพราะน้ำตาลต่ำ ตอนเรียนมหาลัย จำได้แม่นเลย แทบช็อก!

  • อาการหนักต้องไปหาหมอ
  • อย่าประมาท
  • ปีนี้ฉันตั้งใจดูแลสุขภาพมากขึ้น

สงสัยต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมอีก ลืมไปว่าเคยอ่านเจอข้อมูลอะไรเกี่ยวกับวิธีเพิ่มน้ำตาลในเลือดอย่างปลอดภัย แบบไหนดีกว่ากันนะ น้ำผลไม้หรือขนมปัง เดี๋ยวค่อยหาข้อมูลต่อละกัน เหนื่อยแล้ว ง่วงแล้วด้วย บาย!

น้ำตาลในเลือดต่ำควรทำไง

น้ำตาลในเลือดต่ำเหรอ… มันน่ากลัวนะ ตอนนั้นมือสั่น ใจเต้นแรง เหมือนโลกมันหมุนๆ

ถ้ายังพอมีสติอยู่…

  • รีบหากินอะไรหวานๆ เลย น้ำหวาน น้ำอัดลม ลูกอม อะไรก็ได้ที่มันขึ้นชื่อว่าหวาน กินเข้าไปก่อน
  • เช็คระดับน้ำตาล ถ้ามีเครื่องตรวจนะ วัดเลย จะได้รู้ว่าต่ำจริงไหม หรือเราคิดไปเอง
  • รอแป๊บนึง กินเข้าไปแล้วรอสัก 10-15 นาที ถ้ารู้สึกดีขึ้นก็โอเค แต่ถ้าไม่…
  • ไปหาหมอ อย่าฝืน ถ้าไม่ดีขึ้น หรือหมดสติ ต้องรีบไปโรงพยาบาล

ถ้าหมดสติไปแล้ว… อันนี้ช่วยตัวเองไม่ได้แล้วนะ

  • คนอื่นต้องช่วย รีบเรียกรถพยาบาล หรือพาไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
  • อย่าป้อนอะไรใส่ปาก อันนี้สำคัญมาก กลัวสำลัก

เคยมีเพื่อนเป็น… น่าสงสารมาก ตอนนี้เขาต้องพกน้ำหวานติดตัวตลอดเวลาเลย…

เรื่องน้ำตาลในเลือด… มันละเอียดอ่อนกว่าที่คิดนะ ดูแลตัวเองดีๆ นะ

ค่าน้ำตาลไม่ควรต่ำกว่าเท่าไร

ค่าน้ำตาลนะ อืม…ต่ำกว่า 70 mg/dL นี่ไม่ดีแน่ๆ ใช่ป่ะ? เหมือนเคยได้ยินมางี้แหละ แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกเนอะ…

  • 70 mg/dL: นี่คือ ค่ามาตรฐาน ตอนอดอาหารนะ สำคัญเลยเน้นๆ
  • น้ำตาลต่ำ: ใจสั่น, เหงื่อออก…บลาๆ อาการเยอะแยะ น่ากลัวอ่ะ
  • หมอ: ไปหาหมอดีสุด หมอจะรู้ว่าเราควรเท่าไหร่กันแน่

เอ๊ะ หรือว่าต่ำกว่า 70 คือเริ่มอันตรายแล้ว? จำไม่ได้ละ เอาชัวร์ๆ ไปหาข้อมูลเพิ่มดีกว่า Google ช่วยด้วย! จริงๆหมอบอกว่าคนเป็นเบาหวานต้องคุมดีๆ เลยนี่นา แล้วถ้าคนไม่เป็นเบาหวานล่ะ? ช่างเหอะ ไปหาข้อมูลเพิ่มดีกว่า เหนื่อยละ

ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้):

  • mg/dL นี่มันหน่วยอะไรเนี่ย? งง 555+
  • น้ำตาลในเลือดต่ำเกิดจากอะไรได้บ้างนะ? สงสัย…

อาการขาดน้ำตาลเป็นแบบไหน

ภาวะน้ำตาลต่ำ…เหมือนร่างกายประท้วงแบบเงียบๆ

อาการมันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะ เพราะแต่ละคนตอบสนองไม่เหมือนกัน มันไม่ใช่แค่ “หิว” แต่เป็นระบบประสาทอัตโนมัติที่เหมือนโดนปลุกให้ตื่น แล้วสมองก็เริ่มโวยวายว่า “เฮ้ย! ไม่มีพลังงาน!”

  • สัญญาณเตือน: มือสั่น ตัวสั่น เวียนหัว ปวดหัว (แบบจี๊ดๆ) กระสับกระส่าย เหงื่อออก (ทั้งที่ไม่ได้ร้อน) หิวแบบควบคุมไม่ได้ ตาพร่า หน้าซีด
  • อารมณ์แปรปรวน: อันนี้ตัวดีเลย บางทีก็หงุดหงิดง่าย บางทีก็เศร้าแบบไม่มีสาเหตุ บางทีก็โมโห… งงไปหมด
  • สมองเบลอ: ซึมๆ สับสน สมาธิสั้น คิดอะไรไม่ออก (เหมือนเครื่องรวน)
  • อาการหนัก: ชารอบปาก (อันนี้น่ากลัว), เป็นลม, หมดสติ, ชัก (อันนี้ต้องรีบหาหมอ!)

บางทีนะ…การที่อยู่ดีๆ ก็หงุดหงิดขึ้นมา อาจจะไม่ใช่แค่ “อารมณ์ไม่ดี” แต่มันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนเล็กๆ ว่าร่างกายกำลังบอกว่า “เติมน้ำตาลให้หน่อย!” เราต้องสังเกตตัวเองดีๆ เลย

เกร็ดเล็กน้อย (แต่สำคัญ):

  • ไม่ใช่แค่เบาหวาน: คนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานก็เกิดภาวะน้ำตาลต่ำได้นะ (Reactive Hypoglycemia)
  • ปัจจัย: การกินอาหารไม่ตรงเวลา ออกกำลังกายหนักเกินไป ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือยาบางชนิดก็มีผล
  • การแก้ไข: ถ้าเริ่มมีอาการ ลองกินอะไรหวานๆ ดู (น้ำผลไม้ ลูกอม) แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น รีบไปหาหมอดีกว่า

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำควรกินอะไร

โอ๊ย! น้ำตาลตกทีนึงนี่เล่นเอาหน้ามืดตาลาย! นึกว่าผีจะหลอก! ถ้าเจอภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเนี่ยนะ อย่ามัวแต่ยืนงงเป็นไก่ตาแตก รีบหาอะไรหวาน ๆ เข้าท้องด่วน!

  • น้ำผลไม้หรือโซดาหวาน: ซดเข้าไปเลย! แต่เลือกแบบ หวานเจี๊ยบ นะจ๊ะ น้ำตาลพุ่งปรี๊ดทันใจ!
  • ลูกอมหรือน้ำตาลก้อน: อมลูกอมไปก่อนพลาง ๆ แก้ขัดได้ดี หรือจะเคี้ยว น้ำตาลก้อน ไปเลยก็ได้ ถ้าไม่กลัวฟันผุ!
  • นมหรือโยเกิร์ต: อันนี้พอช่วยได้ แต่ถ้าอยากให้เห็นผลเร็วจริง ๆ ไปหาน้ำตาลอย่างอื่นก่อนดีกว่า นมจืด นี่เอาไม่อยู่นะบอกเลย!
  • กล้วยหรือลูกเกด: กล้วยนี่พอไหว แต่ลูกเกดกินเยอะ ๆ อาจจะ เลี่ยน เอาได้! ถ้าอยากได้ผลด่วน ๆ เน้นน้ำตาลก่อนดีกว่า!

เคล็ดลับ: พก ลูกอม ติดตัวไว้เสมอ! เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้หยิบมาอมได้ทันท่วงที! กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ฉบับชาวบ้าน):

  • อย่าปล่อยให้ท้องว่างนาน: กินข้าวให้ตรงเวลา! สำคัญมาก! ไม่งั้นน้ำตาลตกง่าย ๆ นะเออ!
  • เช็คระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ: ถ้าเป็นเบาหวาน ต้องคอยส่องระดับน้ำตาลตัวเองบ่อย ๆ นะจ๊ะ!
  • ปรึกษาหมอ: ถ้าอาการหนักหนาสาหัส ควรไปหาหมอให้หมอช่วยดูแลนะ! อย่าทำอะไรเองตามใจชอบ! อันตราย!

ค่าน้ำตาลสะสมไม่ควรเกินเท่าไร

7%… ใช่ 7% นั่นแหละ

มันเหมือนเลขที่เราต้องจำให้ขึ้นใจเลยนะ

  • เป้าหมายหลัก: คุม A1c ให้น้อยกว่า 7% สำหรับคนเป็นเบาหวาน
  • เหตุผล: คุมได้ดี ชีวิตก็ดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคแทรกซ้อนต่างๆ

บางทีก็คิดนะ ว่าตัวเลขพวกนี้มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ… แต่หมอบอกว่าสำคัญมาก… มากจริงๆ

ค่าน้ำตาลสะสม… มันบอกอะไรเราได้เยอะกว่าที่เห็นเยอะเลย

#น้ำตาลต่ำ #ผู้สูงอายุ #อันตราย