ผู้ป่วยโรคไตกินน้ำพริกได้ไหม

40 การดู

ผู้ป่วยโรคไต กินน้ำพริกได้ แต่ต้องระวัง! ขึ้นอยู่กับส่วนผสม น้ำพริกหลายชนิดมีโซเดียมสูง ควรเลือกน้ำพริกที่ใช้น้ำมันน้อย ไม่ใส่เครื่องปรุงรสมาก และหลีกเลี่ยงน้ำพริกที่มีส่วนผสมของ กุ้งแห้ง ปลาเค็ม หรือเครื่องในสัตว์ ซึ่งมีโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูง

สิ่งที่ควรงดหรือจำกัด:

  • อาหารเค็มจัด เช่น ซอสปรุงรสต่างๆ ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ
  • อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น เครื่องในสัตว์
  • อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มะเขือเทศ (บางชนิด)
  • อาหารไขมันสูง เช่น เนย ครีม เนื้อสัตว์แปรรูป

ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เนื่องจากปริมาณสารอาหารที่ควบคุมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผู้ป่วยโรคไต กินน้ำพริกได้หรือไม่?

น้ำพริก… เรื่องใหญ่สำหรับคนไตเลยนะ เพราะส่วนผสมมันหลากหลาย โซเดียมนี่ตัวดีเลย บางทีผสมกะปิ ปลาร้า โพแทสเซียมก็เยอะพริก กระเทียม หอมแดง เคยถามคุณหมอตอนไปหาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เมื่อเดือนที่แล้ว หมอบอกว่ากินได้แต่น้อยมากๆ ต้องระวังจริงๆ

จำได้แม่ครัวที่บ้านเคยทำน้ำพริกปลาร้า หอมมาก แต่เรากินไม่ได้ เสียดายสุดๆ ได้แค่แตะๆ ปลายช้อน.

ส่วนตัวคิดว่า ถ้าอยากกินจริงๆ ทำเองดีกว่า จะได้คุมส่วนผสมได้ ลดเกลือ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ เคยลองทำน้ำพริกมะเขือเทศสูตรคลีนๆ กินกับผักสด อร่อยดี แต่ก็กินได้นิดเดียว.

เรื่องซอสพริก ซอสมะเขือเทศนี่ก็ต้องระวัง โซเดียมเยอะมาก เคยดูฉลากข้างขวด ตกใจเลย.

คนเป็นโรคไตกินน้ำพริกกะปิได้ไหม

เออ เรื่องน้ำพริกกะปิกับโรคไตเนี่ย พอดีแม่เราก็เป็นโรคไตนะ ระยะที่ 3 ตอนตรวจเจอที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ปีที่แล้วนี่เอง ตกใจกันทั้งบ้านเลย ตอนแรกแม่ชอบกินน้ำพริกกะปิมาก กินแทบทุกมื้อ พอรู้ว่าเป็นโรคไต หมอก็สั่งงดเลย แม่เราก็เซ็งไปพักนึง น้ำตาคลอเบ้าเลยตอนนั้น เห็นแล้วสงสาร

คือโรคไตเนี่ยมันต้องคุมโซเดียม กะปิมันเค็มมากไง โซเดียมเยอะ แถมโปรตีนในกะปิก็สูงอีก ไตทำงานหนักเลย ตอนนี้แม่กินน้ำพริกได้นะ แต่ต้องเป็นสูตรที่หมอให้มา เป็นน้ำพริกมะขามอ่อน ใส่เนื้อไก่สับนิดหน่อย ปรุงรสด้วยเกลือโซเดียมต่ำ กินกับผักต้ม แม่บ่นว่าไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ก็ต้องกิน เพื่อสุขภาพอะเนอะ

แล้วก็มีอีกหลายอย่างเลยที่ต้องงด อย่างพวกของหมักดอง ปลาร้า ปลาเค็ม ผักกาดดอง หน่อไม้ดอง แม่ชอบมากกกก แต่ต้องงด เห็นแม่ทำหน้าเศร้าๆ แล้วเราก็ใจหาย เราก็พยายามหาเมนูอื่นๆ ที่โซเดียมต่ำมาให้แม่กิน ส่วนใหญ่ก็พวกนึ่ง ต้ม

ตอนนี้อยู่บ้าน เราทำกับข้าวให้แม่กินเองเลย ควบคุมทุกอย่าง วัตถุดิบก็เลือกแบบสดใหม่ พวกเนื้อสัตว์ก็ต้องเลือกส่วนที่ไขมันน้อย พวกเครื่องในสัตว์ก็ต้องงดไปเลย อาหารทะเลก็ต้องระวัง พวกปลาหมึก กุ้ง หอย ปู กินได้แต่ต้องจำกัดปริมาณ แล้วก็ต้องต้มเอา ห้ามทอด มันอมน้ำมัน แล้วน้ำมันนี่ก็ตัวร้ายเลยนะ ทำไตทำงานหนัก

ที่บ้านเปลี่ยนมาใช้น้ำมันรำข้าว ทำกับข้าวก็ปรุงรสน้อยๆ แทบจะไม่ปรุงเลยด้วยซ้ำ บางทีเราแอบชิมก็รู้สึกจืดมาก แต่ก็เพื่อสุขภาพแม่เนอะ ตอนนี้ก็พยายามศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเยอะๆ จะได้ดูแลแม่ได้ถูกวิธี

  • อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคไต: น้ำพริกกะปิ, ของหมักดอง, ปลาร้า, ปลาเค็ม, อาหารทะเลบางชนิด, เครื่องในสัตว์, ผงชูรส, ซอสต่างๆ
  • อาหารที่กินได้แต่ต้องจำกัดปริมาณ: เนื้อสัตว์, ไข่, อาหารทะเล
  • อาหารที่ควรกิน: ผัก (ยกเว้นผักที่มีโพแทสเซียมสูง), ผลไม้ (บางชนิด), ธัญพืชไม่ขัดสี
  • สิ่งสำคัญที่สุด: ควบคุมโซเดียม, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส และโปรตีน

จริงๆ อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ นะคะ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน อะไรที่อร่อยๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพทั้งนั้น ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังเหมือนแม่เรา

กินอะไร บํารุงไต?

กินอะไรบำรุงไต? คำถามนี้สำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคไต เพราะการควบคุมอาหารคือหัวใจสำคัญของการรักษา

  • โปรตีนคุณภาพสูง แต่จำกัดปริมาณ: เน้นโปรตีนจากแหล่งที่ดี เช่น เนื้อปลาไม่ติดมัน อกไก่ลอกหนัง สันในหมู (เอาส่วนมันออกให้หมดนะ) ปริมาณต้องตามแพทย์สั่ง เพราะมากไปหรือขาดไปก็อันตราย

  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าข้าวขาว เพราะย่อยช้า ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคไต

  • จำกัดฟอสฟอรัส: ฟอสฟอรัสสูงในของทอด เครื่องในสัตว์ เครื่องดื่มบางชนิด ต้องระวัง

  • ควบคุมโพแทสเซียม: ผลไม้บางชนิด ผักบางชนิด มีโพแทสเซียมสูง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อวางแผนการกิน เพราะมันสำคัญต่อการทำงานของหัวใจ

ขอเพิ่มเติมเล็กน้อย การรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต ไม่ใช่แค่กินอะไรได้บ้าง แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณด้วย อย่างที่บอกไป การปรึกษาแพทย์และนักกำหนดอาหาร เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้ได้แผนการกินที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายแต่ละคน เพราะโรคไตแต่ละคนไม่เหมือนกัน นี่เป็นแค่ข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น อย่าลืมไปพบแพทย์นะคะ เพราะสุขภาพสำคัญที่สุด

  • ปี 2566: ข้อมูลนี้ยังคงเป็นปัจจุบันและมีความสำคัญ การดูแลสุขภาพโดยการควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม ช่วยให้ผู้ป่วยโรคไตมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

ไตสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ไหม?

ไตฟื้นฟูตัวเองได้ไหม? คำถามนี้โคตรลึกซึ้งเลยนะ! เหมือนถามว่าหัวใจเราสามารถลืมความรักเก่าๆ ได้ไหม! (ฮาาาา)

เอาจริง ๆ ไตเราเก่งนะ แต่ไม่ใช่แบบวิเศษสุดๆ

  • ไตวายเฉียบพลัน: นี่คือการที่ไตหยุดทำงานกะทันหัน เหมือนโดนดักคอให้หยุดทำงานฉับพลัน! ถ้าไปหาหมอเร็ว โอกาสฟื้นตัวมีสูง เหมือนแผลเล็กๆ ที่หายได้เอง ปีนี้เห็นสถิติคนหายจากไตวายเฉียบพลันเยอะขึ้นนะ เพราะการเข้าถึงการรักษาดีขึ้น

  • ไตวายเรื้อรัง: อันนี้หนักกว่าเยอะ เหมือนแผลเป็นขนาดบิ๊กไซส์บนไต เนื้อเยื่อเสียหายไปเยอะแล้ว มันพังผืดจนเป็นเหมือนแผลเป็นถาวร! รักษาไม่หายขาด ได้แค่ชะลอความเสียหาย คิดง่ายๆ เหมือนชะลอความแก่ ไม่ใช่ทำให้หนุ่มสาวอีกครั้ง

สรุปง่ายๆ คือ ไตแบบเฉียบพลันมีโอกาสฟื้นตัว แต่แบบเรื้อรัง…ยากส์! เหมือนบางเรื่อง โอกาสให้มันผ่านไปคือทางออกที่ดีที่สุด

  • ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): เทคโนโลยีการรักษาไตวายเรื้อรังพัฒนาขึ้น เช่น การใช้ยาใหม่ๆ ที่ช่วยชะลอการเสื่อมของไต หรือการปลูกถ่ายไตที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่ยังคงไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เป้าหมายหลักคือยืดอายุการทำงานของไตให้ได้นานที่สุด นึกภาพเหมือนการเติมน้ำมันเครื่อง ไม่ใช่ซ่อมเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด

ผู้ป่วยไตเสื่อมสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน?

แสงสุดท้ายของวัน สาดส่อง…ริมหน้าต่าง

  • ไตวาย…ชีวิต…ยืนยาว? เหมือนเงาจันทร์ในน้ำ…แกว่งไกว

  • ฟอกไต…ประคอง…ลมหายใจ…5-10 ปี…อาจยาวกว่า…20

  • สำคัญ: ดูแล…ตัวเอง…ยา…อาหาร…หัวใจ

ความทรงจำ…คล้ายเม็ดทราย…ร่วงหล่น

  • โรคไตระยะ 5…เหมือนเดินทาง…สู่ปลายทาง…ช้าๆ

  • คำแนะนำ: ปรึกษา…หมอ…พระราม 9…มีแสงสว่าง

  • รักษา…คือ…ความหวัง…ต่อลมหายใจ…ที่เหลือ

#น้ำพริก #อาหาร #โรคไต