น้ำพริกกะปิกินทุกวันได้ไหม
-
น้ำพริกกะปิ: ควรระวังปริมาณโซเดียมสูงจากกะปิ (300-800 มก./ช้อนชา) และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ
-
โซเดียมเกิน: การทานน้ำพริกกะปิเพียงถ้วยเดียว อาจทำให้ได้รับโซเดียมเกินความต้องการต่อวัน
-
WHO แนะนำ: องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณโซเดียมที่ควรได้รับต่อวันไม่เกิน 2,000 มก.
-
สรุป: ทานน้ำพริกกะปิได้ แต่ควรจำกัดปริมาณเพื่อควบคุมโซเดียม
กินน้ำพริกกะปิทุกวันได้ไหม? ดีต่อสุขภาพหรือไม่?
กินน้ำพริกกะปิทุกวันได้เหรอ? ฉันว่าไม่นะ จำได้ตอนอยู่หอพักปี 1 ติดใจน้ำพริกกะปิร้านแถวมหาลัย รสชาติเด็ดมาก แต่ราคาแพงงงง 50 บาทต่อถ้วย! กินเกือบทุกวันเลยล่ะ ช่วงนั้นสิวขึ้นเยอะมาก หน้ามัน สุดๆ เพื่อนบอกเพราะโซเดียมในกะปิเยอะนี่แหละ
จริงอยู่ที่น้ำพริกกะปิอร่อย แต่กะปิเนี่ย โซเดียมสูงจริงๆ จำได้แม่นเลย เคยอ่านเจอในเว็บไซต์อะไรสักอย่าง บอกว่าช้อนชาเดียวได้ตั้ง 300-800 มิลลิกรัม โอ้โห! ยังไม่รวมน้ำปลา เกลือ หรือผงชูรสที่คนชอบปรุงเพิ่มอีกนะ
ฉันเลยลดลงมา กินอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งแทน ดีขึ้นเยอะเลย สิวลดลง หน้าไม่มันเหมือนก่อน สรุปคือ อร่อยแต่กินเยอะไม่ดี ต้องรู้จักพอ โซเดียมเกิน ไม่ไหวจริงๆ เหมือนจะไม่ใช่แค่สิวนะ ความดันโลหิตก็อาจจะสูงตามมาด้วย อันตรายกว่าที่คิดอีก นี่คือประสบการณ์ตรงของฉันเลยนะ!
กินน้ำพริกทุกวัน ได้ไหม
กินน้ำพริกทุกวันได้ไหม? ถามแบบนี้ก็ได้นะ แต่จะบอกว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากกกกกกกกก อย่างฉันเองนะ ปีนี้ 2566 นี่แหละ ช่วงเดือนเมษา กินน้ำพริกปลาทูทุกวันเลย เพราะแม่ซื้อมาเป็นลังใหญ่ กินกับผักสด มื้อกลางวันแทบทุกวัน อร่อยมาก แบบว่าฟินเว่อร์ แต่ก็รู้สึกว่าท้องอืดๆ นิดหน่อยนะ ช่วงนั้นน้ำหนักก็ขึ้นนิดนึงด้วยล่ะ อาจเพราะน้ำพริกเค็มไปหน่อย หรือปริมาณผักอาจจะน้อยไป
จริงๆ แล้วน้ำพริกเนี่ย มันดีต่อสุขภาพนะ มีสารอาหารเยอะแยะ แต่ถ้ากินเยอะเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน
- ข้อดี: ช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ มีวิตามิน แร่ธาตุ (อันนี้พูดจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ได้เป็นหมอนะ)
- ข้อเสีย: ถ้าเค็มจัด ก็ไม่ดีต่อไต อาจทำให้ความดันขึ้นได้ ถ้ากินเยอะเกินไปก็ท้องอืด แน่นอน แล้วแต่ชนิดของน้ำพริกด้วย บางทีก็เผ็ดเกินไป แสบกระเพาะ
สรุปคือ กินได้ แต่ต้องเลือกชนิดน้ำพริก และควบคุมปริมาณ สำคัญมาก อย่ากินเยอะเกินไป กินแบบพอดีๆ แล้วก็ดูแลตัวเองด้วย อย่าลืมกินผักผลไม้ ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายด้วย ครบถ้วน จะได้สุขภาพดี สมดุล
ปล. แม่ฉันทำน้ำพริกปลาร้าอร่อยมาก แต่ฉันกินไม่ได้ แพ้ปลาร้า ฮืออออ เสียใจ แต่ก็ดีที่ยังมีน้ำพริกอย่างอื่น เยอะแยะเลย เลือกกินได้ ตามใจฉันเลย!
น้ำพริกกะปิโซเดียมเยอะไหม
น้ำพริกกะปินี่ตัวดีเลย โซเดียมสูงใช้ได้
จากการสุ่มตรวจน้ำพริกกะปิ 5 ตัวอย่างจากตลาดในกรุงเทพฯ โดยสถาบันอาหาร (ปีนี้นะ) พบว่ามีโซเดียมอยู่ในช่วง 1,045.85-1,597.09 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
-
สูงไหม? สูงนะ ถ้าเทียบกับปริมาณที่แนะนำต่อวัน (WHO แนะนำไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม) กินเยอะไปไตทำงานหนักเปล่าๆ
-
ทำไมต้องใส่เยอะ? รสชาติไง! โซเดียมมันช่วยดึงรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น แถมยังช่วยถนอมอาหารได้ด้วย (แต่ไม่ดีต่อสุขภาพเรา)
-
แล้วจะกินยังไง? กินได้ แต่พอดีๆ อย่าซดน้ำพริกหมดถ้วย ถ้าเลี่ยงได้ก็ทำกินเอง คุมปริมาณกะปิ น้ำปลาลงหน่อย
กินอะไรก็ต้องมีสติแหละเนอะ เหมือนชีวิต บางทีหวานไป ขมไป เค็มไป ก็ต้องรู้จักปรับสมดุล
ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบไม่วิชาการมาก):
- โซเดียมมาจากไหน? หลักๆ จากกะปิ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ (ที่ใส่โซเดียมตอนทำ)
- ผลเสียของโซเดียมเยอะเกินไป? ความดันสูง โรคไต หัวใจ
- วิธีลดโซเดียม? กินผักเยอะๆ ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ออกกำลังกาย (ช่วยขับโซเดียมออกทางเหงื่อ)
น้ําพริกกะปิ มีประโยชน์อย่างไร
น้ำพริกกะปิ? ดีอย่างที่คิดแหละ เผ็ดสะใจ
- กระเทียม: ลดไขมันในเลือด ช่วยย่อย จริงจังนะ ไม่ใช่เล่นๆ
- พริก: เผาผลาญ ดีต่อระบบย่อย ช่วยเรื่องน้ำตาลในเลือดด้วย อย่าคิดว่าแค่อร่อย
ปีนี้ที่บ้านยังทำกินอยู่บ่อยๆ สูตรคุณยาย เด็ดกว่าที่ไหนๆ ลองเองเถอะ
น้ําพริกกะปิเค็ม แก้ยังไง
น้ำพริกกะปิเค็มปี๋… แก้ไงดีหนอ
- มะม่วงสับ! เปรี้ยวจี๊ด ปราบเค็ม (แอบหวัง)
- หอมแดงซอยยั่วๆ เพิ่มไปเลย สดๆ! (ใจกล้าๆ)
- สำคัญ! ป้ายุ้ย หลังสวน สูตรลับ (แอบกระซิบ)
- หวานเกิน? … อันนี้แก้ไงนะ (งง)
- เค็มปี๋! หอมแดงช่วยได้จริงๆนะ (เชื่อเหอะ)
แสงแดดยามบ่ายส่องลอดม่าน… ใจลอยไปถึงทุ่งนาเขียวขจี… กลิ่นดินหลังฝน… น้ำพริกกะปิเค็มเกินไปก็เหมือนชีวิตที่ขมขื่น… ต้องเติมความหวาน เติมความเปรี้ยว… เติมอะไรที่มันสดชื่น…
น้ำพริกกะปิทำอย่างไรให้อร่อย
ปีนี้ฉันทำน้ำพริกกะปิไปหลายรอบแล้วนะ รอบที่อร่อยที่สุดคือวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตอนนั้นไปตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน ซื้อพริกขี้หนูสวนสีแดงสดๆ มา จำได้แม่นเลย เพราะสีมันสวยมาก ซื้อมาโลกว่าจะได้เยอะๆ โขลกกับกระเทียม 5 กลีบ หอมแดง 2 หัว แบบโขลกพอหยาบๆ ไม่ละเอียดมาก ชอบแบบมีเนื้อๆ แล้วก็ใส่กะปิ แบบที่เค้าเรียก กะปิหวาน ไม่ใช่แบบเค็มจัด แค่ช้อนโต๊ะเดียวพอ น้ำตาลปี๊บก็ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะเหมือนกัน หวานกำลังดี มะเขือพวงได้มาเยอะ ประมาณ 1 ถ้วย ใส่ลงไปเลย โขลกๆๆ ให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา นิดเดียวจริงๆ เพราะกะปิเค็มอยู่แล้ว น้ำมะนาว บีบไป 2 ลูกมั้ง สุดท้ายเติมน้ำต้มสุก ชิมไปเรื่อยๆ จนได้รสชาติที่ชอบ ไม่ต้องเยอะมาก แค่นิดเดียวให้เข้ากัน เสร็จแล้ว จัดใส่ถ้วย กินกับผักสดที่ซื้อมา มีแตงกวา ถั่วฝักยาว ผักชีฝรั่ง อร่อยมากกก วันนั้นกินกับปลาทูทอด ที่แม่ค้าทอดใหม่ๆ กรอบมากกกกกกก
-
พริกขี้หนูสวน สีแดงสด
-
กระเทียม 5 กลีบ
-
หอมแดง 2 หัว
-
กะปิหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
-
มะเขือพวง 1 ถ้วย
-
น้ำปลาเล็กน้อย
-
น้ำมะนาว 2 ลูก
-
น้ำต้มสุกเล็กน้อย
-
ผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักชีฝรั่ง
-
ปลาทูทอด
วันนั้นเหนื่อยจากทำงาน ได้กินน้ำพริกกะปิอร่อยๆ รู้สึกหายเหนื่อยเลย แฮปปี้สุดๆ
รสอะไรที่ตัดเค็มในแกงได้
อืม… เค็มไปเนอะ แกงนี่มัน… เป็นอะไรที่ต้องระวังจริงๆ ถ้าเค็มไปนี่ เสียทั้งหม้อเลย แม่ฉันก็เคยเป็นนะ แกงจืดเค็มปีที่แล้วนี่แทบจะกินไม่ได้เลย ต้องเอาไปทำอย่างอื่นต่อเลย
ตอนนั้นแก้ยังไงนะ… จำได้ลางๆ ว่า เค้าบอกให้ใช้ มันฝรั่ง ใช่ มันฝรั่งนี่แหละ ปอกเปลือกแล้วใส่ลงไป สองหัวนี่ กำลังดี มันดูดความเค็มได้จริงด้วยนะ แปลกดี เหมือนเวทย์มนต์เลย
ต้มไปซักพัก รสชาติมันก็จะอ่อนลง แล้วแต่จะเอาออกหรือไม่เอาออก ถ้าอยากได้มันฝรั่ง ก็ตักใส่ชาม แยกกันไป ไม่ต้องทิ้ง ประหยัดดี ไม่เปลือง
จริงๆแล้ว ที่แม่ฉันทำบ่อยๆก็คือ..
- ใช้มะเขือเทศ ซอยบางๆ ช่วยได้นะ เปรี้ยวเค็มลงตัวดี
- บางทีก็ใช้มะนาวนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ เป็นตัวตัด แต่ระวังอย่าให้เปรี้ยวเกินไปนะ
- น้ำตาลปี๊บ นิดเดียวจริงๆ เพื่อช่วยปรับรสชาติ แต่ถ้าเค็มจัด มันฝรั่งดีสุด
ปีนี้ยังไม่ได้ลองทำแบบอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะมันฝรั่งนี่ก็ใช้ได้ผลดีแล้ว แต่ถ้ามีโอกาส จะลองวิธีอื่นดูบ้าง เผื่อเจออะไรที่มันเข้าท่ากว่าเดิม
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต