วิตามิน E เหมาะกับใคร

28 การดู

วิตามินอี เหมาะสำหรับใครที่ต้องการดูแลผิวพรรณ

ประโยชน์เด่น:

  • ลดเลือนริ้วรอย
  • ฟื้นฟูผิว
  • ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์
  • ลดรอยแผลเป็นและจุดด่างดำ

กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ที่มีปัญหาผิวริ้วรอยก่อนวัย ควรลองใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เพื่อช่วยให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย และมีสุขภาพดีขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิตามินอี เหมาะกับคนแบบไหน? ใครควรทานวิตามินอี?

คือแบบนี้ เพื่อนฉันอ่ะ มันผิวแห้งมากกกกก แบบลอกเป็นขุยเลย มันไปหาหมอผิวหนังมา หมอบอกให้ทานวิตามินอี ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นอ่ะนะ จำได้ว่าหมอแนะนำให้กินแบบแคปซูล ยี่ห้ออะไรจำไม่ได้แล้ว ซื้อที่ร้านขายยาแถวๆ เซ็นทรัลพระรามเก้า ราคาประมาณสองร้อยกว่าบาทมั้ง แต่ก็เห็นผลนะ ผิวมันดูดีขึ้นจริงๆ ไม่แห้งลอกเหมือนก่อนแล้ว

ส่วนตัวฉันเอง ไม่ค่อยได้ทานวิตามินอี ผิวฉันค่อนข้างมัน แต่ก็เคยใช้ครีมบำรุงที่ผสมวิตามินอีอยู่บ้าง รู้สึกว่ามันช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยลดริ้วรอยอะไรมากมายหรอกนะ ฉันอายุแค่ 27 เอง ริ้วรอยก็ยังไม่ค่อยมี อาจจะเห็นผลชัดเจนกว่านี้ตอนอายุเยอะขึ้นมั้ง

เรื่องลดรอยแผลเป็น อันนี้ไม่แน่ใจ เคยลองใช้ครีมที่มีวิตามินอี แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้รอยแผลเป็นจางลงเท่าไหร่ อาจจะต้องใช้เวลา หรืออาจจะต้องใช้คู่กับวิธีอื่นด้วย แต่เรื่องความชุ่มชื้นนี่ ฉันว่าโอเคเลย เพื่อนฉันเป็นตัวอย่างที่ดี เห็นผลชัดเจนมาก

สรุปง่ายๆ สำหรับฉัน วิตามินอีเหมาะกับคนผิวแห้ง ช่วยให้ชุ่มชื้น ส่วนเรื่องลดริ้วรอย ลดรอยแผลเป็น อาจจะต้องลองใช้เองดู แล้วแต่คน ผลลัพธ์อาจจะไม่เหมือนกันด้วยแหละ

วิตามิน E กินทุกวันได้ไหม

วิตามิน E ไม่ควรทานทุกวัน

  • ร่างกายสะสมวิตามิน E ในกล้ามเนื้อ
  • การทานมากเกินไป เป็นพิษได้

ผลข้างเคียงจากการทานมากเกินไป (ข้อมูล 2566): คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย

ข้อควรระวัง: ปรึกษาแพทย์ก่อนทานเสริม ปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อย่าลืมว่าสมดุลสำคัญที่สุด ชีวิตคือการทรงตัว อย่าล้ำเส้น

วิตามินอีช่วยอะไรผิวกาย

แสงแดดอ่อนๆ เวลาห้าโมงเย็น บนระเบียงบ้านฉัน… ลมพัดโชย กลิ่นดอกมะลิหอมอ่อนๆ ผิวสัมผัสอุ่นๆ ของแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า

วิตามินอี… เหมือนน้ำค้างยามเช้า ชุ่มฉ่ำ บนกลีบดอกไม้ อ่อนโยน แต่ทรงพลัง

  • ซ่อมแซม: เหมือนแม่มดน้อย ค่อยๆ เยียวยาบาดแผลเล็กๆ บนผิว รอยแผลเป็นจางลง ผิวเนียนนุ่มขึ้น ผิวอ่อนเยาว์

  • ปกป้อง: เหมือนเกราะกำบัง คุ้มครองผิวจากแสงแดด มลภาวะ อนุมูลอิสระ ศัตรูตัวร้ายของผิวสวย

  • ชุ่มชื้น: ผิวแห้งกร้าน เหมือนทะเลทราย วิตามินอี คือสายฝน ชุ่มชื้น คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว

ปีนี้ฉันใช้ครีมบำรุงผิวที่มีวิตามินอีเป็นส่วนผสมหลัก รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ผิวกระจ่างใสขึ้น นุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เหมือนได้พบกับตัวเองใหม่

แสงจันทร์เริ่มส่อง ความเงียบสงบ ความรู้สึกดีๆ กับผิวที่เปล่งปลั่ง วิตามินอี… มหัศจรรย์ของธรรมชาติ

วิตามินE ห้ามใช้กับอะไร

เอ้า! วิตามินอีเนี่ย มันเทพนะเฟ้ย! ไม่ใช่ยาพิษกินแล้วตาย! บอกเลยว่าใช้กับอะไรก็ได้! อิอิ แต่! ก็อย่าไปใช้แบบโอเวอร์โหลดนะจ๊ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า กินวิตามินอีจนหน้ามันเยิ้ม เหมือนเอาไขมันหมูมาทาหน้า!

  • ห้ามใช้กับความขี้เกียจ: กินวิตามินอีเท่าไรก็ไม่ช่วยให้สวยขึ้น ถ้าไม่ยอมออกกำลังกาย ไม่ยอมกินผักผลไม้ บอกเลยว่าเปลืองตังค์เปล่าๆ!
  • ห้ามใช้กับความมักง่าย: กินแล้วคาดหวังว่าจะสวยเป๊ะปังในพริบตา ความจริงคือต้องใช้เวลา เหมือนปลูกต้นไม้ ต้องรดน้ำ พรวนดิน คอยดูแล ถึงจะงาม!
  • ห้ามใช้กับความเชื่อมั่นต่ำ: อย่าคิดว่ากินวิตามินอีอย่างเดียว แล้วจะมั่นใจขึ้น ความมั่นใจต้องสร้างจากข้างใน กินวิตามินอีเป็นแค่การเสริม ไม่ใช่ตัวช่วยหลัก!

เอาจริงๆนะ วิตามินอีมันก็เหมือนเครื่องปรุง ปรุงแต่งให้ผิวพรรณดีขึ้น แต่ถ้าอาหารหลักคือของทอด ของมัน กินเข้าไปก็เท่านั้นแหละ! ต้องดูแลตัวเองแบบองค์รวมด้วยนะ อย่าหวังพึ่งแต่วิตามินอย่างเดียว! ปีนี้ฉันยังใช้โลชั่นที่มีวิตามินอีอยู่เลย ผิวชุ่มชื้นขึ้นเยอะเลยล่ะ (แต่ก็ทาครีมกันแดดด้วยนะ ไม่งั้นก็เสียเปล่า!)

ประโยชน์ของวิตามินอีมีอะไรบ้าง?

วิตามินอี! ไอ้เจ้าตัวนี้มันสุดยอดนะบอกเลย! เหมือนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของเซลล์ในร่างกายเราเลย ไม่ใช่แค่ป้องกันเม็ดเลือดแตกเฉยๆ นะจ๊ะ มันยังจัดการพวกอนุมูลอิสระที่เป็นตัวร้ายทำลายเซลล์ได้ด้วย! คิดภาพอนุมูลอิสระเป็นพวกโจรปล้นเซลล์ แล้ววิตามินอีก็เป็นตำรวจกล้ามโตมาจัดการพวกมันน่ะ ฮ่าๆๆ!

  • ปกป้องเม็ดเลือดแดง: เหมือนสร้างเกราะเหล็กให้เม็ดเลือดแดงเลย ไม่ให้พวกมันแตกง่ายๆ ถ้าเม็ดเลือดแดงแข็งแรง ร่างกายก็แข็งแรงตามไปด้วยสิ!

  • ต้านอนุมูลอิสระ: นี่แหละพระเอกของเรื่อง! จัดการพวกอนุมูลอิสระที่เป็นต้นเหตุของโรคสารพัดโรคได้อย่างเด็ดขาด! ปีนี้ (2566) ยังมีงานวิจัยใหม่ๆ ออกมาสนับสนุนเรื่องนี้เยอะแยะเลยนะ บอกเลย!

  • ลดการอักเสบ: ช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ เหมือนเป็นยาแก้ปวดธรรมชาติเลยล่ะ ไม่ต้องพึ่งยาเคมีก็ได้!

แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าคิดว่ากินวิตามินอีเยอะๆ จะดีไปหมดนะ ทุกอย่างต้องพอดีๆ กินมากเกินไปก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้นะ ลองปรึกษาหมอหรือเภสัชกรก่อนดีกว่า อย่าหาว่าไม่เตือนล่ะ! แล้วอย่าลืมว่าวิตามินอีนี่มันละลายในไขมันนะ กินคู่กับอาหารที่มีไขมันจะดูดซึมได้ดีกว่า จำไว้ๆ!

ถ้าขาดวิตามินอีจะเป็นอย่างไร?

โอ๊ย! ขาดวิตามินอีนะเหรอ? นึกภาพตามนะ… เหมือนรถเครื่องเก่าๆ ที่น้ำมันเครื่องแห้งอ่ะ เครื่องมันจะอืด จะหนืด จะสตาร์ทติดยากไงงั้น!

  • ระบบประสาทรวน: คิดดูดิ ประสาทมันจะเริ่มเอ๋อๆ ตอบสนองช้าลง เหมือนคนแก่ขี้หลงขี้ลืม (เอ๊ะ หรือว่าฉันเริ่มเป็นแล้ว?)
  • ทรงตัวยาก: เดินๆ อยู่ อาจจะเซไปเซมาเหมือนคนเมา ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แตะเบียร์ซักหยด!
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง: ยกครกตำน้ำพริกยังแทบไม่ไหว! จะไปไถนาก็คงต้องเรียกกู้ภัยมาช่วยลาก

ทำไมถึงขาดวิตามินอี?

ส่วนใหญ่ก็เพราะ “ดูดซึมไขมันไม่ดี” นี่แหละ! ตับ ตับอ่อน ลำไส้ มันทำงานไม่เต็มที่ หรือบางทีก็เป็น “กรรมพันธุ์” พาไปซะงั้น!

ไม่ต้องกินวิตามินอีเสริมทุกคนนะเว้ย! ถ้าไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไรที่ว่ามา อย่าไปกินพร่ำเพรื่อ! กินอาหารที่มีวิตามินอีตามธรรมชาติก็พอแล้ว! พวก “ถั่ว” ทั้งหลายเนี่ยตัวดีเลย!

ป.ล. อย่าเชื่อที่ฉันพูดมากนะ ไปปรึกษาหมอจริงๆ จังๆ ดีกว่า! ฉันก็แค่คนบ้านๆ คนหนึ่งที่ชอบมั่วไปเรื่อย! 555+

#บำรุงผิว #ผิวสวย #วิตามิน E