แอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยอะไร

23 การดู

สารต้านอนุมูลอิสระมีคุณสมบัติลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง โดยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการอักเสบและอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แอนตี้ออกซิแดนท์: เกราะปกป้องเซลล์จากความเสื่อม

แอนตี้ออกซิแดนท์เป็นสารประกอบที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลไม่เสถียรที่มีอิเล็กตรอนอิสระซึ่งสามารถทำปฏิกิริยากับเซลล์ที่สำคัญในร่างกายได้ ความเสียหายนี้สามารถนำไปสู่ความเสื่อมของเซลล์และโรคเรื้อรังต่างๆ

หน้าที่ของแอนตี้ออกซิแดนท์

แอนตี้ออกซิแดนท์ทำหน้าที่โดยการบริจาคอิเล็กตรอนให้อนุมูลอิสระเพื่อทำให้เป็นกลาง กระบวนการนี้ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระไม่ให้ทำปฏิกิริยากับเซลล์ที่สำคัญและก่อให้เกิดความเสียหาย

ประเภทของแอนตี้ออกซิแดนท์

มีแอนตี้ออกซิแดนท์หลายประเภท ได้แก่:

  • วิตามินซี: พบในผลไม้และผักเช่นส้ม สตรอเบอร์รี่ และบรอกโคลี
  • วิตามินอี: พบในถั่วเมล็ดแห้ง ผักใบเขียว และน้ำมันพืช
  • เบต้าแคโรทีน: พบในแครอท ฟักทอง และผักใบเขียว
  • ไลโคปีน: พบในมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ
  • โพลีฟีนอล: พบในผลเบอร์รี่ ชา และช็อกโกแลต

ประโยชน์ต่อสุขภาพของแอนตี้ออกซิแดนท์

แอนตี้ออกซิแดนท์มีความเกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ได้แก่:

  • ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของคอเลสเตอรอล LDL (“คอเลสเตอรอลเลว”)
  • ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งโดยป้องกันความเสียหายของ DNA ที่อาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ของเซลล์
  • ชะลอความเสื่อมของสมองที่เกี่ยวข้องกับอายุและลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
  • ปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยปกป้องเซลล์ภูมิคุ้มกันจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ

การรับแอนตี้ออกซิแดนท์

วิธีที่ดีที่สุดในการรับแอนตี้ออกซิแดนท์คือการบริโภคอาหารที่มีสารเหล่านี้เป็นประจำ เช่น ผลไม้ ผัก ถั่วเมล็ดแห้ง และธัญพืชเต็มเมล็ด นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมใดๆ

สรุป

แอนตี้ออกซิแดนท์เป็นสารประกอบที่จำเป็นที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมที่ดี