โรคหิดใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะหาย

19 การดู

ข้อมูลแนะนำใหม่:

หิดมักใช้เวลา 1 เดือนหลังการรักษาเพื่อหายสนิท สัปดาห์แรกอาจคันมากขึ้น แต่จะค่อยๆ ดีขึ้น หากยังคันอยู่หลัง 1 เดือน แสดงว่าอาจยังมีการติดเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม อย่าเกา เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคหิด: ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะหายสนิท และควรระวังอะไรบ้าง?

โรคหิด เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไรหิด (Sarcoptes scabiei) ซึ่งเป็นปรสิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเวลากลางคืน และมีผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย แม้ว่าการรักษาโรคหิดจะค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่การหายสนิทนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่ ไม่ใช่แค่เพียงการใช้ยาแล้วหายไปทันที

โดยทั่วไปแล้ว หลังจากได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าไรหิดที่เหมาะสม อาการคันและผื่นจะเริ่มดีขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม การหายสนิทของโรคหิดมักใช้เวลาประมาณ 1 เดือน นี่เป็นเพราะว่า วงจรชีวิตของไรหิด และไข่ที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนังยังคงต้องใช้เวลาในการกำจัดให้หมดสิ้น ในสัปดาห์แรกหลังการรักษา ผู้ป่วยอาจพบว่าอาการคันนั้นรุนแรงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติเนื่องจากการตายของไรหิด และการตอบสนองของร่างกายต่อสารที่ถูกปล่อยออกมาจากไรหิด อาการคันจะค่อยๆ ลดลงในสัปดาห์ต่อๆ ไป

หากอาการคันยังคงอยู่หรือแม้กระทั่งรุนแรงขึ้นหลังจากผ่านไป 1 เดือน หรือมีอาการอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น แผลติดเชื้อ ควรไปพบแพทย์ทันที แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อยืนยันว่าโรคหายสนิทแล้วหรือไม่ หรืออาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนจากการเกา ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม เช่น ยาปฏิชีวนะ

สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้คือ ห้ามเกา การเกาจะทำให้ผิวหนังอักเสบมากยิ่งขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย และอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ ควรใช้การประคบเย็นหรือทายาเพื่อบรรเทาอาการคันแทน การรักษาความสะอาดร่างกายและการเปลี่ยนชุดนอนบ่อยๆ ก็ช่วยลดการแพร่กระจายของไรหิดได้เช่นกัน

นอกจากนี้ การรักษาโรคหิดจำเป็นต้องทำอย่างครอบคลุม ทุกคนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยควรได้รับการตรวจและรักษาด้วย เพื่อป้องกันการกลับมาติดเชื้อซ้ำ และป้องกันการแพร่กระจายของโรคไปสู่ผู้อื่น

สรุปแล้ว แม้ว่ายาจะสามารถกำจัดไรหิดได้อย่างรวดเร็ว แต่การหายสนิทของโรคหิดนั้นต้องใช้เวลา และจำเป็นต้องมีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้หายจากโรคหิดอย่างสมบูรณ์และปลอดภัย