โรคSLE เป็นกรรมพันธุ์ไหม

SLE มีชีวิตอยู่ได้กี่ปี

SLE หรือโรคลูปัส เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่มีวันหายขาด อายุขัยของผู้ป่วย SLE ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ได้มีตัวเลขตายตัวบอกได้ชัดเจนว่าจะอยู่ได้กี่ปี แต่โดยทั่วไปแล้ว ถ้าได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็มีอายุขัยใกล้เคียงกับคนทั่วไป

ความรุนแรงของโรคและการตอบสนองต่อการรักษาต่างหากที่เป็นตัวกำหนดคุณภาพชีวิตและระยะเวลาการดำรงชีวิต ลองพิจารณาปัจจัยเหล่านี้:

• ความรุนแรงของโรค: ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะสำคัญ ย่อมมีอายุขัยที่สั้นกว่าผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง

• การตอบสนองต่อการรักษา: การรักษาที่ได้ผลดีช่วยควบคุมอาการ ลดการกำเริบ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นและอายุยืนยาวขึ้น นี่คือสิ่งสำคัญที่แพทย์เน้นย้ำเสมอ

• การดูแลสุขภาพ: การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และการมีไลฟ์สไตล์ที่ดี ล้วนมีส่วนช่วยยืดอายุขัยได้ ผมเคยอ่านงานวิจัยของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปี 2566 ที่ศึกษาเรื่องนี้โดยตรง พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ดูแลสุขภาพดีมีคุณภาพชีวิตดีกว่าจริงๆ

• ภาวะแทรกซ้อน: โรค SLE สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะต่างๆ เช่น ไต หัวใจ ปอด สมอง ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุขัย

สรุปแล้ว: ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าผู้ป่วย SLE จะมีชีวิตอยู่ได้กี่ปี แต่ด้วยการรักษาและการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถมีชีวิตยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ การมองโลกในแง่ดีและการมีเป้าหมายในชีวิตก็สำคัญไม่แพ้กัน นั่นแหละ เสริมสร้างกำลังใจให้ต่อสู้กับโรคได้ดี เหมือนที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้

โรคพุ่มพวงเป็นกรรมพันธุ์ไหม

พุ่มพวงไม่ใช่โรคกรรมพันธุ์ตรงๆ

• พันธุกรรม: เพิ่มโอกาสป่วย ไม่ใช่ตัวกำหนด
• ปัจจัยร่วม: สิ่งแวดล้อม, เชื้อโรค, ฮอร์โมน
• ความเสี่ยง: คนในครอบครัวอาจเสี่ยงกว่าคนทั่วไป

โรคนี้ซับซ้อน พันธุกรรมแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ชีวิตกำหนดเองได้บ้าง

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคทางพันธุกรรมไหม?

โรคภูมิแพ้… มันก็ซับซ้อนนะ ว่าเป็นพันธุกรรมไหม

ก็… ใช่ พ่อแม่เป็นภูมิแพ้ ลูกก็มีสิทธิ์เป็นมากกว่าคนอื่น

แต่… ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก บางทีก็มาเอง แบบ… อยู่ดีๆ ก็แพ้เครื่องสำอาง ทั้งๆ ที่บ้านไม่เคยมีใครเป็น

• พันธุกรรม: ถ้าพ่อแม่เป็นภูมิแพ้ โอกาสที่ลูกจะเป็นก็มากขึ้น… แต่ไม่ 100% นะ
• ไม่ใช่ทุกอย่าง: บางภูมิแพ้… มันก็มาเอง ไม่เกี่ยวกับใครเลย อย่างแพ้เครื่องประดับเงี้ย
• ตัวอย่างส่วนตัว: อย่างเรา… พ่อเป็นหอบหืด เราก็เป็นภูมิแพ้อากาศ ตอนเด็กๆ ทรมานมาก

บางที… มันก็เหมือนโชคชะตาเนอะ บางทีก็เหมือนกรรมพันธุ์

ทำไมโรคพุ่มพวงถึงห้ามโดนแดด

แสงแดด? มันโคตรแสบผิวพวกนี้เลย ฮอร์โมนเหี้ยนี่แหละตัวดี บางทีก็เล่นตลก ตั้งท้องก็เป็น โตขึ้นก็เป็น พันธุกรรมนี่อีก ญาติมีก็เสี่ยง ผิวแพ้แดดนี่คือจุดจบ

• ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง: ช่วงวัยแตกต่างกัน ผลข้างเคียงก็ต่าง
• พันธุกรรม: กรรมพันธุ์ร้ายกาจ เลี่ยงยาก
• แพ้แดด: แสบร้อนแสลงใจ อย่าเสี่ยง

ทำไมอยู่ดีๆก็เป็นภูมิแพ้

อยู่ดีๆ เป็นภูมิแพ้เนี่ยนะ… งงมาก ตอนเด็กๆ ไม่เคยเป็นอะไรเลย วิ่งเล่นกลางทุ่งนาที่บ้านนอกสบายๆ พอเข้ากรุงเทพฯ นี่แหละ เรื่องเริ่มเลย!

จำได้ว่าตอนปี 1 อยู่หอใน ม.เกษตรฯ แถวบางเขน ฝุ่นเยอะมากกกก ยิ่งช่วงหน้าหนาวนะ แสบจมูก คันตา น้ำมูกไหลไม่หยุด ตอนแรกนึกว่าเป็นหวัดธรรมดา กินยาก็ไม่หาย สุดท้ายต้องไปหาหมอ หมอบอก “ภูมิแพ้กำเริบ” อ้าว! มาได้ไงเนี่ย?

หมอบอกว่าปัจจัยเสี่ยงมันเยอะแยะ ทั้งควันบุหรี่ (ตอนนั้นเพื่อนสูบบุหรี่จัดมาก) แล้วก็ฝุ่น PM 2.5 ที่กรุงเทพฯ คือหนักจริง แล้วก็อาจจะเป็นเพราะกรรมพันธุ์ด้วยมั้ง พ่อเราก็เป็นภูมิแพ้เหมือนกัน เฮ้อ!

ตอนนี้ก็พยายามเลี่ยงๆ สิ่งที่ทำให้แพ้ พวกฝุ่น ควัน แล้วก็พยายามออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

• ควันบุหรี่: เลี่ยงได้เลี่ยงเลย สำคัญมาก!
• ฝุ่น PM 2.5: ใส่หน้ากาก N95 เวลาออกข้างนอก
• สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน: ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ ซักผ้าปูที่นอนบ่อยๆ
• อาหาร: บางทีอาหารบางอย่างก็กระตุ้นภูมิแพ้ได้ ลองสังเกตตัวเองดู
• ความเครียด: พยายามไม่เครียด หาอะไรทำคลายเครียด

ปี 2567 นี้ PM 2.5 ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่อยู่นะ ต้องระวังตัวเองมากๆ จริงๆ