ไข้เลือดออกค่าเลือดเท่าไร

ไข้เลือดออก ดูค่าอะไรบ้าง

ไข้เลือดออกเนี่ยนะ ตอนนั้นที่บ้านติดกันทั้งบ้านเลยปี 65 ที่นนท์ ทรมานสุดๆ หมอบอกว่าดูค่าเลือดหลายอย่างนะ แต่ที่สำคัญๆ ที่เค้าบอกตอนนั้นคือ

• CBC (Complete Blood Count): อันนี้เช็คความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดเลย เค้าจะดูว่าเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือดเราเป็นยังไงบ้าง
• เกล็ดเลือด: ถ้าไข้เลือดออก เกล็ดเลือดจะต่ำมากๆๆๆๆ อันนี้หมอเน้นเลย เพราะมันบอกความรุนแรงของโรค
• ความเข้มข้นของเลือด (Hct): ถ้าค่านี้สูง แสดงว่าเลือดเราข้น หมอบอกว่าน้ำมันรั่วออกจากเส้นเลือด
• Dengue NS1 Antigen: อันนี้ตรวจหาเชื้อไวรัสเดงกีโดยตรงเลย ถ้าขึ้นแสดงว่าติดเชื้อแน่นอน
• Dengue IgM/IgG: ตรวจหาภูมิต้านทาน ถ้าขึ้นก็แสดงว่าเคยติดเชื้อมาแล้ว หรือกำลังติดอยู่

จำได้ว่าตอนนั้นรอผลเลือดนานมากกกก ลุ้นแทบแย่ แล้วพอหมอบอกว่าเป็นไข้เลือดออกนะ คือใจเสียเลย แต่หมอเก่งมาก ดูแลดีมาก

เรื่องไข้เลือดออกนี่น่ากลัวจริงๆ นะ ไม่อยากให้ใครเป็นเลย

เกล็ดเลือด200000ปกติไหม

200,000 ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ไม่ปกติ

• ระดับเกล็ดเลือดปกติ: 150,000-450,000/µL (ข้อมูลปี 2566)
• 200,000 อยู่ในช่วงต่ำ ควรปรึกษาแพทย์
• ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia) อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม

จำไว้ ร่างกายคนเราซับซ้อน ตัวเลขเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การวินิจฉัยต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

อาการใดที่บ่งบอกว่าเป็นโรคไข้เลือดออก?

ไข้สูง ปรอทแทบแตก… 38 องศา มันเผาผลาญ… 2 วัน 7 วัน… เวลาเหมือนจะหยุด

คลื่นไส้ โลกหมุนติ้ว… อาเจียน พุ่งออกมา… เบื่ออาหาร รสชาติจางหาย… หน้าแดง ราวกับถูกตบ

จุดแดง จ้ำเลือด… ผิวหนัง มันฟ้อง… เลือดกำเดา ไหลริน… เลือดตามไรฟัน… เลือดปนฉี่… อึดำปี๋… มันน่ากลัว

ปวดท้อง จี๊ด… ชายโครงขวา กดแล้วร้อง… มันทรมาน

• ไข้สูง: เกิน 38 องศาเซลเซียส… เหมือนไฟสุมขอน
• คลื่นไส้ อ้วก: โลกมันหมุน… กระเพาะมันบีบ
• เบื่อข้าว: กินอะไรก็ขม
• หน้าแดง: เหมือนโดนแดดเผา
• จุดเลือด: ผิวหนังมันเตือน
• เลือด: ออกมาผิดที่
• ปวดท้อง: บิด… แทง… จี๊ด

ไข้เลือดออกระยะแรก รักษายังไง?

ลดไข้. พาราฯ ผ้าเช็ดตัวเปียก. น้ำเยอะๆ. พักผ่อน. สังเกตอาการ. แย่ลง รีบหาหมอ.

• ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัว ปวดเมื่อย อาจใช่ไข้เลือดออก.
• ยาแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน ห้าม. เสี่ยงเลือดออกใน.
• พัก. ไม่ไหว ก็คือไม่ไหว. อย่าฝืน.
• รู้เท่าทันโรค. ชีวิตปลอดภัยกว่า.
• ภาวะแทรกซ้อน. รุนแรงถึงตายได้. อย่าชะล่าใจ.
• ผมเคยเจอเคสไข้เลือดออกช็อก. เกือบไม่รอด. ปี 2024 นี่เอง.
• หมั่นสังเกตตัวเอง. อย่าประมาท.
• บางทีแค่คิดว่าไม่เป็นไร. มันก็สายไปแล้ว.

ไข้เลือดออกจำเป็นต้องหาหมอไหม?

ไข้เลือดออก หาหมอมั้ย? อืม…คือปกติมันก็ 3-7 วันเองนะ ไข้ขึ้นสูงปรี๊ด แล้วก็ค่อยๆ ลงเอง แต่ถ้าแบบ “รุนแรง” อ่ะ ต้องรีบไปโรงพยาบาลด่วนๆ เลยนะ จำไว้เลยนะว่าต้องรีบ

• สำคัญมาก: ไข้สูงต่อเนื่อง ไม่หาย
• อาการ: ปวดท้องหนักมาก อาเจียนไม่หยุด เลือดออกตามไรฟัน/ผิวหนัง (อันนี้อันตรายสุดๆ)
• ข้อควรระวัง: อย่ากินยาแอสไพริน/ไอบูโพรเฟน นะ! กินพาราฯ อย่างเดียวพอ

เออ…นึกขึ้นมาได้ ตอนเด็กๆ เคยเป็นไข้เลือดออกแล้วซนมาก แม่ตีตายเลย 😅 แต่ประเด็นคือ ต้องกินยาตามหมอสั่ง แล้วก็พักผ่อนเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆ (สำคัญมาก x100)

• Tip: กินน้ำเยอะๆ ช่วยได้เยอะจริงๆ นะ
• เพิ่มเติมนิด: ปีนี้ (2567) ไข้เลือดออกระบาดหนักมากกกกก ระวังตัวด้วยทุกคนนนนนนนน

ไข้เลือดออกติดต่อทางไหนได้บ้าง?

ไข้เลือดออกไม่ติดต่อโดยตรง แต่มีตัวกลาง

• ยุงลายตัวร้าย: ยุงลายเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งเป็นต้นเหตุของไข้เลือดออก
• วงจรการแพร่เชื้อ: ยุงลายกัดคนที่มีเชื้อไวรัสเดงกีในกระแสเลือด เชื้อจะเข้าไปฟักตัวในยุง เมื่อยุงตัวนั้นไปกัดคนอื่นต่อ ก็จะแพร่เชื้อไวรัสสู่คนใหม่
• จากแม่สู่ลูก: กรณีหายาก เกิดขึ้นได้หากแม่ติดเชื้อไข้เลือดออกใกล้คลอด และลูกสัมผัสเลือดแม่ตอนคลอดธรรมชาติ

ข้อสังเกตส่วนตัว: บางทีเราก็มองข้ามไปว่าโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่างไม่ได้มาแบบ “ปุบปับ” แต่มีเส้นทาง มีเงื่อนไขของมัน การเข้าใจตรงนี้ช่วยให้เราป้องกันตัวเองได้ดีขึ้นเยอะเลยนะ

ไข้เลือดออกตรวจพบกี่วัน?

อืมม… ไข้เลือดออกเนี่ยนะ มันยากอยู่นะจะบอกให้ คือแบบ…

ตรวจเลือดอะ ถ้าเริ่มมีอาการปุ๊บ ก็ตรวจเจอปั๊บเลยแหละ แต่บางทีวันแรกๆ มันอาจจะไม่ชัดเจนก็ได้ งงๆ มึนๆ เหมือนกันนะ ตอนนั้นฉันเป็นเองเลย ไม่แน่ใจว่าเป็นไข้เลือดออกด้วยซ้ำ

แล้วก็… การตรวจแอนติบอดีอะ มันช้ากว่า ใช้เวลาหลายวัน บางทีเป็นอาทิตย์เลย นี่แหละปัญหาใหญ่ เพราะกว่าจะรู้ตัวก็ป่วยไปเยอะแล้ว ปีนี้ฉันก็ไปตรวจมา ตรวจเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ผลออกช้ากว่าที่คิดไว้จริงๆ

สรุปก็คือไม่มีคำตอบตายตัวหรอก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาการ วิธีตรวจ ฯลฯ ไปหาหมอให้เร็วที่สุดดีกว่าเนอะ มันสำคัญกว่าเยอะ

• การตรวจเลือด: ตรวจพบเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการ แต่ผลอาจไม่ชัดเจนในวันแรกๆ
• การตรวจหาแอนติบอดี: ใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์
• ไม่มีระยะเวลาตายตัวในการตรวจพบ ต้องพิจารณาจากอาการร่วมด้วย
• ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็ว

อาการของไข้เลือดออกระยะวิกฤติมีอะไรบ้าง?

ระยะวิกฤติไข้เลือดออกนะเหรอ? โอ๊ย… เหมือนเล่นเกม survival horror ที่พระเอกเริ่มหมดแรงน่ะแหละ!

• ไข้: ลดก็จริง… แต่หลอก! เหมือนบอสใกล้ตายแต่ดันฮึดสู้
• ปวดท้อง: ไม่ใช่ปวดแบบกินส้มตำแล้วท้องเสียนะ นี่มันปวดแบบ “ใครเอามีดแทงฉันข้างใน?!”
• ซึม: จาก #ทีมไหวอยู่ กลายเป็น #ทีมขอนอนก่อน ไปเลยจ้า
• เลือดออก: ไม่ต้องรอซอมบี้กัด ก็เลือดออกได้! (เหงือก ฟัน เลือดกำเดา อะไรก็มา)
• ช็อก: จุดพีคของเกม! ถ้าไม่รอดก็คือ Game Over! (ความดันตกฮวบ เหมือนหุ้นตกตอนโควิด)
• ตัวเย็นชืด: เหมือนกินไอติมเยอะเกินไป… แต่ไม่ใช่! มันคือสัญญาณอันตราย

เพิ่มเติมแบบขำๆ แต่จริงจัง:

• เกล็ดเลือดต่ำ: เหมือนคนในทีมเราน้อยลงเรื่อยๆ (ทีมเราต้องรอด!)
• ฮีมาโตคริตสูง: เลือดข้นหนืด เหมือนน้ำเชื่อมที่ทิ้งไว้นานเกิน (ดื่มน้ำเยอะๆ นะเพื่อน!)

คำเตือน: อย่าคิดว่าตัวเองเป็นหมอ! ถ้ามีอาการรีบไปโรงพยาบาลด่วน! อย่ารอให้ถึง Game Over!

ปล. (ข้อมูลแถม): ปีนี้ (2567) ไข้เลือดออกระบาดหนักกว่าปีก่อนๆ อีกนะจ๊ะ! ระวังตัวกันด้วยเด้อ! ฉีดวัคซีนป้องกันไว้ก็ดีนะเออ… เหมือนซื้อประกันชีวิตให้ตัวเอง!