เป็นไข้เลือดออกกี่วันถึงเจาะเลือดเจอ

ไข้เลือดออกตรวจพบกี่วัน

กรณีของพี่สาวฉันเอง ป่วยต้นเดือนสิงหาคม ปีนี้ ตอนแรกก็คิดว่าแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่พอวันที่สาม ไข้สูงขึ้น ปวดหัวมาก อาเจียนด้วย เลยพาไป รพ. บำรุงราษฎร์ ตอนเย็น ตรวจเลือด คุณหมอบอกผลตรวจไม่ชัดเจน ต้องรอผลตรวจเพิ่มเติม เพราะตอนนั้นยังไม่มีอาการอื่นชัดเจน อย่างเช่นจุดเลือดออกตามร่างกาย คุณหมอให้ยาแก้ไข้ และให้นอนพัก

วันที่สี่ ไข้ยังไม่ลด จุดแดงๆ เริ่มขึ้นตามแขนขา รีบพากลับไป รพ. อีก คราวนี้ผลเลือดชัดเจนแล้ว คุณหมอบอกเป็นไข้เลือดออก ต้องนอนโรงพยาบาลเลย ฉีดยา ให้เกลือ สังเกตอาการ อยู่ รพ. เกือบอาทิตย์ กว่าจะกลับบ้านได้ หายดี แผลเป็นก็ไม่มี

สรุปเลยนะ

• วันที่ 3 : ตรวจเลือดครั้งแรก ผลไม่ชัดเจน
• วันที่ 4 : ตรวจเลือดอีกครั้ง ผลยืนยันว่าเป็นไข้เลือดออก

จริงๆ มันก็แล้วแต่คนด้วยนะ อาการแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนตรวจเจอไว บางคนช้ากว่านี้ สำคัญที่สุดคือ สังเกตอาการตัวเอง ถ้าผิดปกติ ไปหาหมอเลย อย่าช้า อย่ารอ ปล่อยไว้อันตราย ประสบการณ์ตรงเลย กับพี่สาวฉัน

ไข้เลือดออกเกล็ดเลือดขึ้นตอนไหน

ไข้เลือดออกเนี่ยนะ เกล็ดเลือดมันดิ่งลงเหวตอนไหน? เหมือนถามว่า “เมื่อไหร่หวยจะออก” นั่นแหละ!

เอางี้ ประมาณวันที่ 3 นับจากวันที่ไข้ขึ้นสูงปรี๊ดนั่นแหละ เกล็ดเลือดก็จะเริ่ม “ดิ่งพสุธา” อย่างน่าตกใจ แต่ก็อย่าเพิ่งตื่นตูมไป เพราะหมอเค้ามีวิธีรับมืออยู่แล้ว! ที่สำคัญคือ รีบไปหาหมอซะ อย่ามัวแต่รอให้เกล็ดเลือดมันเต้นระบำใต้น้ำ!

• วันที่ 3: เกล็ดเลือดเริ่มตก (แต่ไม่ต้องตกใจไป!)
• วิธีชัวร์สุด: เจาะเลือดตรวจกับคุณหมอเท่านั้น!
• อย่าเชื่อคนง่าย: ฟังหมอดีกว่าฟังเพื่อนบ้าน!

ปล. เคยเจอเพื่อนบ้านบอกให้กินน้ำใบบัวบกแก้ไข้เลือดออก… เกือบไปแล้ว! หมอบอกว่า “เกล็ดเลือดไม่ใช่ต้นไม้ จะได้งอกใหม่ได้ง่ายๆ!” โอ๊ย! ขำ! แต่ก็เกือบขิต!

กี่วันถึงจะรู้ว่าเป็นไข้เลือดออก

โอ๊ย! ถามเรื่องไข้เลือดออกนี่มันเรื่องใหญ่เท่าภูเขาเลยนะพี่น้อง! ถ้าโดนยุงลายกัดแล้วใจคอไม่ดี อยากรู้ว่าจะเป็นไข้เลือดออกมั้ย ก็ต้องรอก่อนเด้อ ประมาณ 5-8 วัน ถึงจะเริ่มรู้เรื่องรู้ราว

ทีนี้อาการของไข้เลือดออกเนี่ย มันก็เล่นตลกกับร่างกายเราเป็นฉากๆ เหมือนดูละครน้ำเน่า แบ่งเป็น 3 องก์ 3 ระยะด้วยกัน:

• องก์ที่ 1: ไข้สูงปรี๊ด! (ประมาณ 2-7 วัน): ไข้ขึ้นสูงจนปรอทแทบแตก หน้าแดงก่ำ ตัวร้อนยังกะเตาอบ แถมปวดหัว ปวดเมื่อยเนื้อตัวเหมือนโดนซ้อมมา

• องก์ที่ 2: วิกฤต! (ประมาณ 1 วัน): ไข้เริ่มลด…แต่! อย่าเพิ่งดีใจ เพราะนี่แหละคือช่วงอันตราย เลือดอาจจะเริ่มรั่วซึมออกจากเส้นเลือด ทำให้มีจุดแดงๆ ตามผิวหนัง ปวดท้องอย่างหนัก เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ถ้าหนักหน่อยอาจจะช็อกหมดสติ

• องก์ที่ 3: ฟื้นตัว! (ประมาณ 2-3 วัน): ถ้าผ่านองก์ 2 มาได้แบบไม่เจ็บหนัก ร่างกายก็จะค่อยๆ ฟื้นตัว กินข้าวได้ หน้าตาเริ่มสดใส

เพิ่มเติมแบบชาวบ้านๆ:

• ไข้เลือดออกนี่มันร้ายกว่าที่คิด อย่าคิดว่ากินพาราแล้วจะหายเอง ถ้ามีอาการสงสัยต้องรีบไปหาหมอให้ไว
• ป้องกันไว้ดีกว่าแก้! กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายรอบบ้าน ทายากันยุง ฉีดสเปรย์กันยุง จะได้ไม่ต้องมานั่งกุมขมับทีหลัง
• ถ้าเคยเป็นไข้เลือดออกแล้ว ก็ใช่ว่าจะรอด! ยังมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก แถมครั้งที่สองนี่แหละตัวดี อาการมักจะรุนแรงกว่าเดิม
• อย่าไปเชื่อหมอดู หมอผี! เรื่องสุขภาพต้องให้หมอจริงๆ ช่วย

ป.ล. ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ตรงจากคนเคยเกือบตายเพราะไข้เลือดออก (เกือบจริงๆนะ!) อย่าประมาทเป็นอันขาด!

การเฝ้าระวังไข้เลือดออกกี่วัน

7 วัน! ต้องระวังสุดๆเลย เห้อออ ปีนี้ไข้เลือดออกระบาดหนักมากกกกกกก เพื่อนฉันเป็นไปแล้ว นอนโรงพยาบาลไปอาทิตย์นึง เครียดไปเลย

• 5 วันแรกสำคัญสุด! ต้องป้องกันยุงกัดให้ได้ นี่แหละจุดสำคัญ เอาจริงเรื่องนี้ ฉันว่าหลายคนมองข้ามนะ

• เหลืออีก 2 วัน ก็ยังต้องระวังอยู่ดี ไม่ใช่ว่าปลอดภัยแล้ว ยุงมันเยอะจริงๆ

• บ้านฉันใช้ยากันยุงแบบพ่น แบบฉีด แบบไฟฟ้า หมดตังไปเยอะเลย แต่เพื่อความปลอดภัย มันก็ต้องทำอะนะ อืมมมม

บ้านฉันอยู่แถวบางแค ยุงเยอะมากกกกกก แบบว่าเปิดไฟปุ๊บ รุมเลย ฉันเลยต้องใช้มุ้งลวด ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท แถมใช้ยากันยุงอีก เหนื่อยมาก แต่ก็ต้องทำ ไม่งั้นเป็นไข้เลือดออกขึ้นมา แย่กว่านี้เยอะ

สงสัยต้องซื้อที่นอนกันยุงเพิ่มดีมั้ยนะ เห็นเพื่อนบอกว่าดี แต่ราคาแรงอยู่ เอาวะ เพื่อสุขภาพ ต้องจัดสักหน่อยมั้ง

ตกลงนะ 7 วัน จำไว้ๆๆๆ อย่าลืมนะ สำคัญมากกกกกกก ไข้เลือดออกไม่ใช่เล่นๆนะ อันตราย ปีนี้หลายคนเป็นกันเยอะเลย