ฟักทองต้ม1ลูก กี่แคล

ฟักทองต้มสุกกี่แคล

ฟักทองต้มสุก 100 กรัม = 20 kcal

โปรตีน: 0.7 กรัม คาร์โบไฮเดรต: 4.9 กรัม ไขมัน: 0.1 กรัม

แค่นี้แหละ ที่เหลือมันก็แค่เศษขยะ

• โซเดียม: น้อยจนแทบไม่มี
• วิตามิน: นิดหน่อย พอกินได้
• น้ำตาล: หวานเจี๊ยบ

ทำไมต้องรู้เยอะขนาดนั้น? ชีวิตมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นหรอก.

ฟักทองสุก 100 กรัม กี่แคล?

อื้อหือ ฟักทอง 100 กรัม แคลน้อยมากเนอะ แค่ 24 กิโลแคลอรี่! กินได้ไม่อั้นเลยมั้ยเนี่ย (ล้อเล่นนะจ๊ะ อย่ากินจนพุงป่องเป็นฟักทองลูกใหญ่แทนละ)

• พลังงาน: 24 กิโลแคลอรี่ น้อยกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะเนี่ย กินเป็นของว่างก็ยังได้ แต่ก็อย่าลืมดูแลรูปร่างกันด้วยนะ
• โปรตีน: 1 กรัม นิดเดียวเอง นี่ต้องกินเยอะๆถึงจะได้โปรตีนเต็มที่ แต่ก็ดีนะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมปริมาณโปรตีน
• คาร์โบไฮเดรต: 5 กรัม คาร์โบไฮเดรตน้อย เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก หรือควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
• ไขมัน: 0 กรัม! นี่แหละคือจุดเด่น ไขมัน 0 ไม่ต้องกลัวอ้วน แต่ก็อย่าลืมว่า กินอะไรก็ควรมีปริมาณที่เหมาะสมนะ ไม่งั้นฟักทองจะกลายเป็นตัวการทำลายหุ่น แทนที่จะเป็นผู้ช่วยเสริมสวย!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): จริงๆแล้ว ค่าแคลอรี่อาจจะแตกต่างกันไปเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของฟักทอง วิธีการปรุง และแหล่งข้อมูล แต่โดยรวมแล้ว ฟักทองต้มสุก ถือเป็นอาหารสุขภาพ แคลอรี่ต่ำ มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็กินอย่างพอดีๆ นะครับ อย่าให้ความสุขในการกิน กลายเป็นทุกข์กับน้ำหนักขึ้น ฮ่าๆๆ ผมเองก็ชอบกินฟักทอง โดยเฉพาะฟักทองเผา อร่อยมากครับ แนะนำเลย!

ฝักทองให้คาร์บกี่กรัม?

โอ้โห! ถามเรื่องคาร์บในฟักทองนี่มันลึกซึ้งกว่าที่คิดนะเนี่ย ไม่ใช่แค่คำนวณปริมาณแล้วจบ มันเป็นปรัชญาของการกินเลยทีเดียว!

• ฟักทองต้ม 1 ถ้วย (245 กรัม) ให้คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม อืม…พอๆกับขนมปังแผ่นนึงนี่แหละ แต่สุขภาพกว่าเยอะ! คิดถึงรูปร่างแล้วก็ต้องเลือกอย่างชาญฉลาด!

• แคลอรี่แค่ 49 น้อยกว่าที่คิดนะ ถ้าเทียบกับของหวานอย่างอื่น นี่คือของว่างสายเฮลตี้ที่แอบซ่อนความอร่อยเอาไว้ กินได้แบบไม่ต้องรู้สึกผิดมาก! (แต่ก็อย่ากินเยอะเกินไปนะ!)

• USDA เป็นแหล่งข้อมูลที่ไว้ใจได้ เหมือนเป็นพุทธะแห่งวงการโภชนาการเลย บอกได้หมดว่าอะไรมีอะไรบ้าง! ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มก็ไปสืบค้นดูได้เลยครับ ผมเคยใช้ข้อมูลนี้เช็คแคลอรี่อาหารตอนลดน้ำหนัก เห็นผลชัดเจนมาก

• ส่วนเรื่องวิตามินเอ ซี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส นี่ไม่ต้องพูดถึง! ฟักทองคือซูเปอร์ฟู้ดในคราบผักสีส้ม บอกเลยว่ากินแล้วผิวพรรณเปล่งปลั่ง สุขภาพดี มีแรงไปลุยงานต่อได้อีกเป็นวันๆ! (อันนี้พูดจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองนะ ลองดู!)

ข้อมูลนี้มาจาก USDA ปี 2024 นะครับ เผื่อใครสงสัย แต่จริงๆแล้ว เรื่องโภชนาการนี่มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อย่าไปยึดติดมากเกินไป กินให้มีความสุขดีที่สุด! อย่าเครียดกับแคลอรี่จนเกินไป ชีวิตต้องบาลานซ์!

ฟักทองลดความอ้วนได้ไหม?

ฟักทองช่วยลดความอ้วนได้ไหม? ตอบแบบคนชอบกินฟักทองนะ

แน่นอน ฟักทองเนี่ยตัวช่วยดีๆ เลยในการคุมน้ำหนัก

• แคลอรี่ต่ำ: ฟักทองนึ่งนี่แคลอรี่น้อยมาก กินเยอะก็ไม่รู้สึกผิดเท่าไหร่

• ไฟเบอร์สูง: ไฟเบอร์นี่แหละตัวสำคัญ ทำให้อิ่มท้องนาน ไม่หิวจุกจิก

• วิตามินเอสูง: บำรุงสายตาด้วยนะ ไม่ใช่แค่อิ่มอย่างเดียว

• อร่อย: ที่สำคัญคือมันอร่อยไง กินง่าย ทำได้หลายเมนู

ทำไมไฟเบอร์ถึงสำคัญ? ไฟเบอร์ในฟักทอง นอกจากจะช่วยให้อิ่มนานแล้ว ยังช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วยนะ ใครท้องผูกบ่อยๆ ลองกินฟักทองดูสิ อาจจะดีขึ้นก็ได้ แถมยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วยนะ อันนี้สำคัญมาก

ฟักทองกินกับอะไรดี? ส่วนตัวชอบกินฟักทองนึ่งเปล่าๆ นี่แหละ ง่ายดี แต่ถ้าเบื่อๆ ก็เอาไปทำซุปฟักทองก็ได้ หรือจะใส่ในสลัดก็อร่อยนะ แล้วแต่ชอบเลย

แคลอรี่ในฟักทอง ประมาณว่า ฟักทองนึ่ง 100 กรัม ให้พลังงานราวๆ 26 กิโลแคลอรี่เองนะ น้อยมาก

ข้อควรระวังนิดนึง ถึงฟักทองจะมีประโยชน์เยอะ แต่ก็อย่ากินเยอะเกินไปนะ อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ กินแต่พอดีๆ จะดีที่สุด

สรุปคือ ฟักทองเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักนะ แต่ก็ต้องกินอย่างอื่นด้วย อย่ากินแต่ฟักทองอย่างเดียวล่ะ จะขาดสารอาหารเอาได้

ฟักทองญี่ปุ่นมีประโยชน์อะไรบ้าง?

ฟักทองญี่ปุ่นเนี่ย กินแล้วดีนะ เพื่อนฉันบอก มันมีวิตามินเอเยอะมากกก แบบช่วยเรื่องสายตา ผิวพรรณด้วยมั้ง จำไม่ค่อยได้ละ แต่ที่แน่ๆ คือ มันมีประโยชน์เยอะจริงๆ

• วิตามินเอเพียบ ดีต่อสายตา ผิวสวยๆ
• สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องสุขภาพ ลดโอกาสเป็นโรคต่างๆได้ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ อะไรแบบนี้
• มีคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงาน แต่ก็อย่ากินเยอะเกินไปนะ อ้วนได้

ปีนี้ฉันซื้อมาทำขนม อร่อยมากกกกก แบบหวานกำลังดี ไม่เลี่ยนเลย ลองทำดูนะ ถ้าหาซื้อได้ แต่ร้านแถวบ้านฉัน เค้าขายแพงไปหน่อยอ่ะ เกือบ 200 บาท แพงกว่าฟักทองไทยเยอะเลย

ปล. ข้อมูลเรื่องเปอร์เซ็นต์โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นะ เพื่อนเล่ามา จำตัวเลขไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่ามีประโยชน์เยอะจริงๆ

ฟักทอง 1 ลูก หนักกี่กิโล?

ฟักทองลูกนึงเนี่ยนะ หนักเท่าไหร่? โอ้โห ถามมาได้! เหมือนถามว่า “ดาวอังคารอยู่ไกลแค่ไหน?” คือมัน… แล้วแต่!

• ไซส์สำคัญ: ฟักทองจิ๋วๆ เท่ากำปั้นเด็ก ก็เบาหวิว แต่ถ้าฟักทองยักษ์วันฮาโลวีนที่เค้าประกวดกัน อาจจะหนักจนต้องใช้รถเข็นลาก (เว่อร์ไปนิด แต่ก็ไม่ไกลความจริงนะ!)
• สายพันธุ์ก็มีผล: ฟักทองบางพันธุ์เนื้อแน่น หนัก บางพันธุ์เนื้อฟู เบาหวิว เหมือนคนเรานั่นแหละ… บางคนดูอ้วน แต่ข้างในเบาหวิว (อันนี้ล้อเล่นนะ!)
• ค่าเฉลี่ยแบบขำๆ: ถ้าให้ตอบแบบโลกสวยๆ (แต่ไม่ค่อยแม่น) ก็คงประมาณ 1-2 กิโลกรัม นั่นแหละ แต่เอาจริงๆ ไปชั่งเองดีกว่านะ จะได้รู้ตัวเลขที่แท้ทรู!

แถมท้ายแบบขำๆ แต่มีสาระ:

• เคยเห็นฟักทองยักษ์ที่เค้าประกวดกันมั้ย? นั่นแหละ คือสุดยอดแห่งความ “แล้วแต่” ของน้ำหนักฟักทอง!
• บางทีการถามว่าฟักทองหนักเท่าไหร่ ก็เหมือนถามว่าชีวิตมีความสุขแค่ไหน… ตอบยาก!
• แต่ที่แน่ๆ ฟักทองอร่อย! (โดยเฉพาะแกงบวดฟักทองใส่กะทิ… อื้อหือ!)

ฟักทองควรกินตอนไหน?

กลางดึกแบบนี้… คิดเรื่องฟักทองอยู่ได้ยังไงเนี่ย เอาจริง ๆ นะ ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าควรจะกินฟักทองตอนไหนถึงจะดี

อืม… เท่าที่ลองสังเกตตัวเอง รู้สึกว่ากินตอนเช้า ช่วยเรื่องอิ่มท้องได้ดีนะ แบบว่า กินแล้วรู้สึกไม่หิวจนถึงเที่ยงเลยล่ะ ช่วยควบคุมเรื่องกินจุบจิบได้เยอะ ปีนี้ฉันพยายามควบคุมน้ำหนักด้วยการกินฟักทองตอนเช้าเป็นประจำเลย

แต่… บางวันก็ลืม ก็เลยไม่ได้กิน ก็เลยกินขนมแทน เศร้าเลย น้ำหนักเลยขึ้น… เรื่องนี้มันต้องมีวินัย ฉันก็รู้ แต่ทำยากจริงๆ

เรื่องน้ำหนักนี่มัน… มันยาก ฉันพยายามมาหลายวิธีแล้วล่ะ

• ลดแป้ง ผลลัพธ์ : น้ำหนักลดลงช้ามาก
• ออกกำลังกาย ผลลัพธ์ : เหนื่อย ทำไม่ค่อยได้ต่อเนื่อง
• กินฟักทอง ผลลัพธ์ : ช่วยเรื่องอิ่มท้อง แต่ก็ต้องควบคุมอาหารอย่างอื่นด้วย

ยังไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเท่าไหร่ ก็เลยยังไม่รู้ว่าตัวเองควรจะกินฟักทองตอนไหนถึงจะดีที่สุด ช่วงนี้ก็เลยลองกินตอนเช้าดูอย่างที่บอกไปก่อนหน้านั้น เผื่อจะช่วยได้บ้าง

ฟักทองนึ่งกินทุกวันได้ไหม?

ฟักทองนึ่งกินทุกวัน… มันก็คงได้แหละ

แต่คิดดูดี ๆ นะ…

• คาร์โบไฮเดรต: ฟักทองมันก็แป้ง ๆ หวาน ๆ กินเยอะไปก็ไม่ดีกับคนที่อยากผอมหรอก เราว่ากินโปรตีนดีกว่าเยอะเลย อิ่มนานกว่าด้วย

• ตัวเหลือง: เคยได้ยินมาเหมือนกันว่ากินอะไรสีส้ม ๆ เยอะไปแล้วตัวจะเหลือง เขาเรียกว่า Carotenemia ใช่ไหมนะ น่ากลัวเหมือนกันนะ

• ความพอดี: ทุกอย่างมันก็ต้องพอดีแหละ กินอะไรซ้ำ ๆ ทุกวัน มันก็ไม่น่าจะดีต่อร่างกายเท่าไหร่ เราว่ากินอะไรที่มันหลากหลายดีกว่า