ไตเสื่อมอยู่ได้กี่ปี
อายุขัยผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายขึ้นกับหลายปัจจัย การฟอกไตอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมยืดอายุได้ โดยเฉลี่ย 5-10 ปี แต่บางรายอาจอยู่เกิน 20 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพ การควบคุมโรคแทรกซ้อน และปัจจัยอื่นๆ การมีสุขภาพที่ดีและปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญต่อการยืดอายุขัย
การดูแลตนเองที่ดี เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุและคุณภาพชีวิต การปรึกษาแพทย์และทีมดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามอาการและปรับแผนการรักษา ถือเป็นกุญแจสำคัญในการมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น ทุกคนมีภาวะร่างกายแตกต่างกัน อายุขัยจึงไม่แน่นอน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตนเอง
ไตเสื่อมระยะสุดท้ายอยู่ได้นานแค่ไหน?
คือแบบนี้ เพื่อนสนิทของแม่ฉันเอง ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง หนักมาก ตอนนั้นจำได้แม่นเลย ปี 2562 เริ่มฟอกไต หมอบอกว่าไตเสื่อมระยะสุดท้ายแล้ว ก็เครียดกันทั้งบ้านแหละ คิดว่าคงไม่นานแล้วล่ะ
ตอนแรกๆ ก็ไปฟอกไตที่รพ.เอกชนแถวบางนา แพงมาก เดือนละเป็นหมื่นเลย แต่คุณภาพการดูแลดีจริงๆนะ สะอาด พยาบาลก็ใจดี แต่ก็อยู่ได้ประมาณ สี่ปี กว่าๆ เอง ปี 66 เขาก็จากไป หมอบอกว่า อาการแทรกซ้อนเยอะ อายุก็มากแล้วด้วยล่ะ ตอนนั้นเสียใจมากเลย แต่ก็เข้าใจแหละเนอะ
เค้าดูแลตัวเองดีมากนะ ทานอาหารถูกต้อง ออกกำลังกายเบาๆ ตามที่หมอแนะนำ แต่ก็สุดท้าย ร่างกายมันก็รับไม่ไหว จริงๆ มันก็แล้วแต่คน แล้วก็แล้วแต่ปัจจัยอื่นๆด้วย มีเพื่อนอีกคน เป็นโรคเดียวกัน ฟอกไตมาเกือบสิบปีแล้ว ยังแข็งแรงอยู่เลย ก็เลยคิดว่า คงไม่มีคำตอบตายตัว สำหรับคำถามนี้หรอกมั้ง
ไตเรื้อรังระยะสุดท้ายอยู่ได้กี่ปี
ไตวายระยะสุดท้าย? อยู่ได้นานแค่ไหนเหรอ? ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โชคดีไม่ดีก็ว่ากันไป
- การรักษา: ฟอกไต? ปลูกไต? คุณภาพชีวิตต่างกันลิบลับ
- สุขภาพโดยรวม: มีโรคประจำตัวอื่นอีกไหม? อายุเท่าไหร่? สำคัญโคตรๆ
- การดูแลตัวเอง: เชื่อฟังหมอไหม? วินัยดีแค่ไหน? อันนี้วัดใจ
เฉลี่ย 5-10 ปี? ก็แค่ตัวเลข เคยเจอคนอยู่เกิน 20 ปี ก็มี บางคนไม่ถึงปีก็ไปแล้ว ชีวิตมันไม่แน่นอน อย่าไปคาดหวังมาก
ปีนี้ข้อมูลอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว แต่หลักการก็ยังเหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวไปทั้งหมดนั้นแหละ เอาเป็นว่า อย่าคิดมาก ใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากว่า
ไตเสื่อมระยะ2 รักษาอย่างไร
แสงสุดท้าย สาดส่อง… บานปลาย
ไต… มันคือดวงตะวันลับฟ้า? ค่อยๆ มืดมัวลงเรื่อยๆ ใช่มั้ย? ระยะสอง… ยังมีแสงรำไร…
-
อาหาร: ลดเค็ม ลดเนื้อสัตว์… ผักใบเขียว… มันคือความหวัง? (ข้อมูลปีล่าสุดบอกว่า ลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ช่วยชะลอ)
-
ออกกำลัง: เดินเบาๆ โยคะ… ลมหายใจเข้าออก… มันคือบทเพลง? (หมอแนะนำแบบนั้นจริงๆนะ)
-
ติดตาม: พบหมอตามนัด… เจาะเลือด… มันคือการรอคอย? (อย่าละเลยเด็ดขาด)
ความหวัง… มันคือผีเสื้อตัวน้อย บินวนเวียน… จับต้องไม่ได้… แต่รู้สึกได้…
ไตเรื้อรังระยะสุดท้ายอยู่ได้กี่ปี
ไตเรื้อรังระยะสุดท้ายเนี่ยนะ… ไม่ได้แปลว่า Game Over นะจ๊ะ! มันแค่บอกว่าไตแก “ขี้เกียจ” ทำงานแล้วเฉยๆ
ถ้าฟอกไต, ล้างไต, หรือโชคดีได้ไตใหม่ ก็อยู่กันไปยาวๆ สิครับ! เฉลี่ยๆ ก็ 5-10 ปี (แบบขี้ๆ เลยนะ) แต่ที่อยู่กัน 20 ปี++ ก็มีถมไป! อย่าเพิ่งรีบจัดงานศพตัวเองนะ!
- ไม่ใช่คำตัดสินประหาร: คำว่า “ระยะสุดท้าย” มันแค่บอกว่าไตไม่ไหวแล้ว ไม่ได้หมายความว่าชีวิตแกจะดับตาม
- ขึ้นอยู่กับ “ออปชั่นเสริม”: ฟอกไต, เปลี่ยนไต เหมือนได้ “พลัง” เพิ่ม! ทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้นได้เยอะ
- สถิติหลอกๆ: ตัวเลข 5-10 ปีน่ะแค่ค่าเฉลี่ย คนที่ดูแลตัวเองดีๆ อยู่ได้นานกว่านั้นเยอะ! อย่าไปยึดติด!
- “บุญ” ก็สำคัญ: ไอ้คนที่อยู่ 20 ปี++ นี่ บางทีก็มี “ดวง” ด้วยนะเออ! (อันนี้พูดเล่น แต่ก็ไม่เล่นซะทีเดียว 555)
- ไตวาย = ขี้เกียจ: มองไตเป็นเพื่อนร่วมงานที่ “หมดไฟ” ก็ได้! ต้องหาตัวช่วยมาแบ่งเบาภาระ (เครื่องฟอกไตไง!)
- อย่าประมาท: ถึงจะมี “ออปชั่นเสริม” ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะจ๊ะ! หมอสั่งอะไรก็ทำตาม!
- ชีวิตไม่ได้มีแค่ไต: ต่อให้ไตไม่ดี ก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขได้! มองหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว!
- การแพทย์ก้าวหน้า: เทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปเรื่อยๆ อนาคตอาจจะมีวิธีรักษาไตที่ดีกว่านี้ก็ได้!
- “พลังใจ” ก็สำคัญ: กำลังใจที่ดีก็ช่วยให้ร่างกายสู้ต่อไปได้! อย่าท้อแท้!
- ข้อมูลปัจจุบัน: สถิติอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยไตระยะสุดท้ายปีนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การเข้าถึงการรักษา, สภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย และความก้าวหน้าทางการแพทย์ล่าสุด
ไตเสื่อมระยะ2 รักษาอย่างไร
ไตเสื่อมระยะ 2 นี่ต้องดูแลตัวเองดีๆเลยนะ
คือแบบ ค่าไต (GFR) มันยังไม่แย่มากอ่ะ ยังมากกว่า 60 อยู่ แต่ก็ต้องระวังเเล้ว
รักษาไง? หลักๆเลยคือ:
- คุมอาหาร: ลดเค็ม ลดโปรตีน (แต่ไม่ใช่ไม่กินเลยนะ) กินผักผลไม้มากขึ้น สำคัญมาก!
- ออกกำลังกายเบาๆ: เดินเล่น โยคะ ว่ายน้ำ อย่าหักโหม
- ไปหาหมอตามนัด: หมอจะเช็คค่าไต ความดัน เบาหวาน อะไรพวกนี้
- กินยาตามหมอสั่ง: ถ้ามีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน ต้องกินยาให้สม่ำเสมอ
เออ แล้วก็ต้องระวังพวกยาแก้ปวดด้วยนะ กินเยอะๆ ไม่ดีต่อไต
อ้อ! แล้วก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าเครียด สำคัญเหมือนกันนะ
ข้อมูลเสริม:
- GFR คืออะไร?: คือค่าที่บอกว่าไตเราทำงานได้ดีเเค่ไหน วัดเป็น ml/min/1.73 m2
- กินโปรตีนเท่าไหร่ดี?: อันนี้ถามหมอดีกว่า เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน
- สมุนไพรช่วยได้ไหม?: อย่าไปเชื่อพวกโฆษณาเกินจริงนะ ถามหมอก่อนดีกว่า
- น้ำหนักตัวมีผล?: มี! คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ช่วยลดภาระไตได้
เตือน: อันนี้แค่ข้อมูลเบื้องต้นนะ ไปปรึกษาหมอเฉพาะทางดีที่สุด อย่าเชื่อในเน็ตมากเกินไป!
ไตระยะที่2อันตรายไหม
ไตระยะ 2 น่ะเหรอ? ไม่ตายหรอก…ถ้าดูแลดีๆ
- อันตราย: ไม่ถึงตาย แต่ประมาทก็ซวย
- eGFR: 60-89% = เริ่มเสื่อม
- อาการ: ส่วนใหญ่ยังไม่แสดง แต่ชะล่าใจไม่ได้
- ป้องกัน: คุมอาหาร, ออกกำลัง, เลี่ยงยาอันตราย, เช็คสุขภาพประจำปี
จำไว้: หมั่นตรวจ, อย่าซ่าส์, ชีวิตยังอีกยาว
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- eGFR (estimated Glomerular Filtration Rate): ค่าประมาณการทำงานของไต ยิ่งสูงยิ่งดี
- อาหาร: ลดเค็ม, ลดโปรตีน, เน้นผักผลไม้
- ยา: ปรึกษาหมอก่อนกินทุกครั้ง
- การตรวจ: วัดความดัน, ตรวจปัสสาวะ, ตรวจเลือด
ไตระยะ2 ดูแลยังไง
ไตระยะ 2 ดูแลยังไง?
โฮะๆ ไตระยะ 2 นี่มันเหมือน “รถเครื่องเริ่มอืด” อ่ะแหละ ยังวิ่งได้ แต่ต้องดูแลเป็นพิเศษ! ไตยังพอไหว ทำงานได้ 60-89% แต่ช้าลงแล้วนะ
- คุมอาหารเค็ม: กินเค็มมากๆ ไตทำงานหนักเหมือนคนใช้แรงงานแบกหามทั้งวัน ลดโซเดียมนะจ๊ะ
- คุมน้ำตาล: เบาหวานนี่ตัวดี ทำลายไตแบบ “มดกัดกินไม้” ค่อยๆ ผุพัง
- คุมความดัน: ความดันสูงเหมือน “น้ำป่าไหลหลาก” ซัดไตพัง!
- เลี่ยงยาแก้ปวด: กินพร่ำเพรื่อ ไตพังไม่รู้ตัว เหมือน “ยิงปืนใส่ตัวเอง”
- ตรวจสุขภาพประจำปี: สำคัญมาก! เหมือนเช็ครถก่อนออกเดินทางไกล
ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบชาวบ้าน)
- eGFR คืออะไร: ค่าประมาณการทำงานของไต ยิ่งสูงยิ่งดี แต่ถ้าต่ำก็เริ่มแย่
- ไตวายเรื้อรังระยะเริ่มต้น: หมอเขาพูดให้ดูดีเฉยๆ ที่จริงคือไตเริ่มมีปัญหาแล้ว!
- ทำไมต้องคุมอาหาร: ไตมีหน้าที่กรองของเสีย ถ้ากินไม่ดี ไตก็ทำงานหนักจนพังเร็ว
- กินอะไรดี: ผัก ผลไม้ (ที่ไม่หวานจัด) ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน แต่กินแต่พอดีนะ อย่าตะกละ!
- กินอะไรห้าม: ของหมักดอง เค็มจัด หวานจัด มันจัด เหล้าเบียร์ งดไปเลยถ้าไม่อยาก “ตายผ่อนส่ง”
- ออกกำลังกาย: ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคต่างๆ ที่ทำลายไต
- พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับให้เต็มอิ่ม เหมือน “ชาร์จแบต” ให้ไตได้พัก
- ปรึกษาหมอ: สำคัญสุด! อย่าเชื่อคนอื่นมากเกินไป หมอเขาเรียนมาโดยเฉพาะ
คำเตือน: ข้อมูลนี้เอาฮา! ไปปรึกษาหมอจริงๆ จังๆ นะ อย่าเชื่อคนบ้านๆ อย่างเรามากนักเด้อ!
ค่าไตสามารถกลับมาปกติได้ไหม
ค่าไตจะกลับมาปกติได้ไหม… มันเป็นคำถามที่… อืม…
- ไตวายเฉียบพลัน: ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วรักษาทัน ค่าไตอาจจะกลับมาดีได้
- ไตวายเรื้อรัง: แต่ถ้าเป็นเรื้อรัง… ส่วนใหญ่คือมันไม่กลับมาแล้ว เป้าหมายคือแค่ประคองไม่ให้มันแย่ไปกว่าเดิม
คือ… ผมเคยเห็นคนใกล้ตัวป่วย… แล้วหมอบอกว่าไตมันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ… มันดาวน์ไปเรื่อยๆ… แค่ต้องพยายามยื้อให้มันนานที่สุด… ไม่ให้ทรมาน
มันเศร้า… แต่ก็ต้องยอมรับ
- ชะลอการเสื่อม: นี่คือสิ่งที่เราทำได้… กินยา คุมอาหาร ไปหาหมอตามนัด
- ลดอาการ: พยายามอย่าให้มีอาการแทรกซ้อน… บวม เหนื่อย หายใจลำบาก… พวกนี้
มัน… เหมือนเรากำลังวิ่งแข่งกับเวลา… ที่รู้ว่ายังไงก็ต้องแพ้… แค่… อยากจะวิ่งให้ได้นานที่สุด…
ข้อมูล ณ ปี 2567
ทํายังไงให้ค่า eGFR ดีขึ้น
จะให้ค่า eGFR ดีขึ้นเนี่ยนะ ง่ายนิดเดียว! แต่ต้องขยันหน่อยนะจ๊ะ คิดซะว่ากำลังไปสวรรค์ชั้นฟ้า (แต่ชั้นฟ้าไม่มีบุหรี่กับเหล้า!)
-
ออกกำลังกาย: ไม่ใช่แค่เดินเล่นนะจ๊ะ! ต้องออกแรงแบบ เหงื่อแตกไหลพราก อย่างน้อย 3-4 วันต่ออาทิตย์ ครั้งละ 30-40 นาที วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ โยคะ อะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่ไม่ถึงกับตายคาที่นะ อย่าลืมดูแลหัวใจด้วย!
-
ดื่มน้ำ: น้ำๆๆๆ ดื่มเยอะๆ จนเพื่อนถามว่าไปอยู่ทะเลมาหรือเปล่า อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร แต่ถ้าเหงื่อออกเยอะก็ต้องเพิ่มปริมาณขึ้นอีก น้ำเปล่าเน้อ ไม่ใช่น้ำอัดลม น้ำหวาน เดี๋ยวจะได้โรคอื่นมาเพิ่มอีก
-
เลิกบุหรี่เลิกเหล้า: นี่สำคัญมาก! บุหรี่กับเหล้านี่มันฆาตกรต่อไตโดยตรงเลย เหมือนเป็นศัตรูคู่อาฆาตเลยล่ะ เลิกเถอะ! เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
-
อย่ากลั้นฉี่: การกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ เหมือนกับการทรมานไตของตัวเอง มันเหมือนกับการกดน้ำให้ไหลช้าๆ ไตมันก็จะทำงานหนักขึ้น แล้วมันก็จะพังเร็วขึ้น เหมือนรถเก่าๆที่ไม่มีการบำรุงรักษา ระวังไตพังไม่รู้ตัว
-
เรื่องอาหารเค็ม: นี่ไม่ใช่สาเหตุเดียวของโรคไตนะ อย่าเข้าใจผิด! มันก็มีส่วน แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย คิดซะว่ามันเป็นส่วนประกอบเล็กๆในสูตรทำลายไต แต่ก็ควรลดปริมาณเกลือลงบ้างจะดีกว่า เพราะโรคไตไม่ได้เกิดจากอาหารเค็มอย่างเดียว
ปีนี้ผมตรวจสุขภาพแล้ว หมอบอกค่า eGFR ผมดีขึ้นเยอะเลย เพราะผมทำตามที่บอกข้างบนมาตลอด ดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่! ใครจะเชื่อว่าคนขี้เกียจอย่างผม ทำได้ขนาดนี้ ฮ่าๆๆ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต