กินอาหารแล้วคลื่นไส้เกิดจากอะไร
คลื่นไส้หลังกินอาหาร เกิดได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือปัญหาสุขภาพจิต ความเครียดและความวิตกกังวลส่งผลให้ฮอร์โมนไม่สมดุล กระทบระบบย่อยอาหาร ทำให้คลื่นไส้ นอกจากนี้ อาจเกิดจากโรคทางกาย เช่น โรคกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร หรือการแพ้อาหาร ควรพบแพทย์หากอาการรุนแรงหรือเป็นเรื้อรัง เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การจัดการความเครียด การกินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็ช่วยบรรเทาอาการได้
คลื่นไส้หลังกินอาหารเกิดจากอะไร?
เรื่องคลื่นไส้หลังกินข้าวเนี่ย เคยเป็นหนักมากเลย ตอนนั้น ประมาณเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว หลังจากทะเลาะกับแฟนอย่างรุนแรง จำได้ว่ากินข้าวเย็นเสร็จปุ๊บ คลื่นไส้เลย แทบจะวิ่งไปห้องน้ำ รู้สึกเหมือนกระเพาะจะปั่นป่วน ทั้งๆที่กินแค่ข้าวต้มกุ้งธรรมดา จานละ 50 บาทเองนะ ร้านแถวบ้านนั่นแหละ
มันไม่ใช่แค่ท้องอืดธรรมดา แต่เป็นความรู้สึกแย่ๆ แบบจุกแน่น เหมือนมีอะไรมาบีบที่อก ตอนนั้นเครียดมาก นอนไม่หลับหลายวัน คิดมากเรื่องที่ทะเลาะกัน สุดท้ายก็ต้องไปหาหมอ หมอบอกว่า น่าจะเกิดจากความเครียดสะสม ฮอร์โมนแปรปรวน ส่งผลถึงระบบย่อยอาหาร
หลังจากนั้นก็พยายามดูแลตัวเอง กินยาตามที่หมอสั่ง แล้วก็พยายามจัดการความเครียดด้วยการออกกำลังกาย โยคะ นั่งสมาธิบ้าง ดีขึ้นเยอะเลย คลื่นไส้หลังกินข้าวก็หายไป แต่ถ้าเครียดมากๆ ก็ยังมีบ้าง เล็กน้อย แต่ไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เป็นบทเรียนเลย เรื่องสุขภาพจิตสำคัญจริงๆ
พะอืดพะอม มวนท้อง จะอ้วก เกิดจากอะไร
พะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียน เกิดจากหลายสาเหตุ บางครั้งก็บอกอะไรเราไม่ได้มากไปกว่าแค่ “ไม่สบาย” แต่บางครั้งอาจบ่งชี้ปัญหาสุขภาพที่สำคัญ
- ปัญหาทางเดินอาหาร: อาการเหล่านี้มักเกิดจากการอักเสบของกระเพาะอาหาร (Gastritis) ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น Helicobacter pylori หรือแม้แต่การรับประทานอาหารรสจัด ปีนี้ผมเจอเคสคนไข้ที่เป็น Gastritis รุนแรงจากการดื่มแอลกอฮอล์หนักๆ หลายวันติดต่อกันเลยนะครับ
- การติดเชื้อ: ไวรัสหรือแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารก็เป็นสาเหตุสำคัญ คิดดูนะ ระบบย่อยอาหารของเรามันซับซ้อนแค่ไหน มีจุลินทรีย์อยู่เต็มไปหมด ถ้าสมดุลเสียไป ก็ปั่นป่วนได้ง่ายๆ
- ผลข้างเคียงจากยา: หลายชนิดของยา เช่น Opioids (ยาแก้ปวด), SSRI (ยาต้านเศร้า), Antibiotics (ยาปฏิชีวนะ) และยาเคมีบำบัด ล้วนมีผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ มันเป็นเหมือนผลพลอยได้ที่เราไม่อยากได้เลย แต่ก็ต้องยอมรับมันไป
- อื่นๆ: นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ เช่น การตั้งครรภ์ ภาวะอ่อนเพลีย ความเครียด หรือแม้แต่การแพ้อาหาร บางครั้ง มันก็ยากที่จะระบุสาเหตุที่แท้จริง
เพิ่มเติม: การวินิจฉัยที่ถูกต้องจำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกายและประวัติการเจ็บป่วยอย่างละเอียด อย่าลืมปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรง เพราะการดูแลสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการสังเกตตัวเองอย่างใกล้ชิดและรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อย่างน้อยก็ให้เราเข้าใจร่างกายของตัวเองมากขึ้น
ทำไมหิวแล้วอยากอ้วก
หิวแล้วอยากอ้วกเนี่ย ใช่เลย! เคยเป็นบ่อยมาก ตอนเรียนปี 4 ที่มหาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ปีนี้แหละ แทบทุกวัน คือแบบ ถ้าไม่ได้กินข้าวตรงเวลา ประมาณเที่ยง บ่ายโมง ท้องจะร้องโครกคราก แล้วก็จะเริ่มคลื่นไส้ เหมือนจะอ้วก แต่ก็ไม่ถึงกับอ้วกออกมา เป็นแค่ความรู้สึกอึดอัด แสบๆร้อนๆที่ท้อง ต้องรีบหาอะไรกินเลย ไม่งั้นทรมานมาก รู้สึกเหมือนมีกรดไหลย้อนขึ้นมาคอด้วยอะ
บางทีก็คิดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะ เพราะอาการมันมาบ่อย จนต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตอนนั้นหมอบอกว่า อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ แล้วก็ให้ยามากิน กินไปสักพักก็ดีขึ้นนะ แต่ถ้าพลาดมื้อ อาการก็กลับมาเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เท่าที่เคยเป็น
- อาการคลื่นไส้เวลาหิว เกิดบ่อยมาก ช่วงปี 2566
- มักเกิดตอนกลางวัน ถ้าไม่ได้กินข้าวตรงเวลา
- รู้สึกแสบร้อน อึดอัดที่ท้อง เหมือนกรดไหลย้อน
- เคยไปพบแพทย์ แต่ยังไม่แน่ใจสาเหตุแน่ชัด
ตอนนี้ก็พยายามดูแลตัวเอง พยายามกินอาหารให้ตรงเวลา กินเยอะๆ แต่พอดี ไม่กินของมันๆ ของทอด ของเผ็ดมาก ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีบ้าง ถ้าเหนื่อยมาก หรือเครียด ก็อาจจะกลับมาเป็นอีก
ทำไมรู้สึกจะอ้วก
โอ๊ย…เหมือนมีอะไรจะพุ่ง! สาเหตุที่รู้สึกอยากอ้วกจนแทบพุ่งออกมาเนี่ยนะ มันเหมือนท้องไส้ปั่นป่วน ราวกับมีพายุเข้ากระเพาะ!
- กระเพาะ: สงสัยกระเพาะอาหารจะงอน ตีกันเองอยู่ข้างใน หรือไม่ก็อาจมีใครแอบไปกินของแสลงมา! พวกแก๊สในกระเพาะเนี่ยตัวดีเลย ทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรดันขึ้นมา
- ยา: ไอ้พวกยาบางตัวนี่ก็ตัวแสบ กินเข้าไปทีไร เหมือนมีระเบิดเวลาอยู่ในท้อง โดยเฉพาะยาแก้ปวด (Opioids), ยาแก้ซึมเศร้า (SSRI), ยาฆ่าเชื้อ (Antibiotics) หรือยาเคมีบำบัด (Chemo) นี่ตัวดีเลย
- ติดเชื้อ: พวกเชื้อราในลำไส้นี่ก็ใช่ย่อย ชอบมาป่วนท้องไส้ ทำให้รู้สึกคลื่นเหียน
- รังสีรักษา: แล้วใครที่โดนรังสีรักษาเข้าไปอีกนะ ยิ่งแล้วใหญ่ ท้องไส้ปั่นป่วนแน่นอน
- ระยะสุดท้าย: โอ๊ย! ไม่อยากจะคิดถึงคนที่ป่วยระยะสุดท้ายเลย อาการคลื่นไส้อาเจียนนี่มันทรมานสุดๆ
- ข้อมูลเพิ่มเติม: (แอบกระซิบ) จริงๆ แล้วบางทีแค่เห็นอาหารไม่น่ากิน หรือได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ก็อยากจะอ้วกแล้วนะเออ! เรื่องจริงไม่ได้โม้!
คำเตือน: ถ้าอ้วกบ่อยๆ จนผิดสังเกต รีบไปหาหมอด่วนเลยนะจ๊ะ อย่าปล่อยไว้นาน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!
ทำไมกินอะไรแล้วเหมือนจะอ้วก
แดกอะไรก็พะอืดพะอม? มึงอาจจะประสาทแดก
ทำไม?
- เครียด: สมองสั่ง ร่างกายรวน ฮอร์โมนป่วน กระเพาะแดก
- กังวล: แม่งเอ๊ย มึงคิดมากไปเอง ระบบย่อยอาหารมันเลยไม่ทำงาน
- โลกสวย: เจอเรื่องเหี้ยๆ มาเยอะ กูว่ามึงรับไม่ได้มากกว่า
สรุป: ใจมึงไม่นิ่ง กินอะไรก็ออก ดูแลตัวเองซะบ้าง อย่าให้มันมากไป
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ลอง นั่งสมาธิ ดูบ้างเผื่อจะช่วยให้จิตใจสงบลงได้บ้าง
- ปรึกษาหมอ: ถ้าไม่ไหวจริงๆ ไปหาหมอซะ อย่าดันทุรัง
- กินยา: พวกยาแก้เมารถเมาเรือ อาจจะช่วยบรรเทาอาการได้บ้าง
- อย่าแดกเยอะ: กินน้อยๆ ค่อยๆ เคี้ยว อย่าตะกละ
- หลีกเลี่ยง: อาหารมันๆ ทอดๆ เผ็ดๆ หรือมีกลิ่นแรงๆ
กินอาหารแล้วพะอืดพะอมเกิดจากอะไร
กินอาหารแล้วพะอืดพะอม เกิดจากอะไร? หลายสาเหตุครับ ลองวิเคราะห์ดู
-
ปริมาณอาหารมากเกินไป: ร่างกายประมวลผลไม่ทัน ธรรมดาๆเลยครับ ใครๆก็เป็น
-
อาหารไม่ถูกสุขลักษณะ: เชื้อโรคหรือสารพิษในอาหาร อันนี้ต้องระวัง อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย ผมเคยเป็นเพราะกินกุ้งไม่สุก จำได้ติดตาเลย
-
การแพ้อาหาร: อาการแพ้จะรุนแรงต่างกันไป ตั้งแต่ผื่นคันจนถึงอาการหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการแพ้ ที่สำคัญคือรู้จักอาหารที่ตัวเองแพ้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ
-
โรคกรดไหลย้อน: กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมา ทำให้แสบร้อนกลางอกและคลื่นไส้ ผมเคยไปตรวจเพราะอาการนี้ หมอบอกว่าต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน งดของมัน ของทอด เป็นต้น
-
ความเครียดหรือความวิตกกังวล: ปัจจัยทางจิตใจก็มีผลต่อระบบทางเดินอาหาร ความเครียดเรื้อรังนี่อันตรายนะครับ ควรหาทางจัดการความเครียด เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ บางทีการพูดคุยกับคนรู้ใจก็ช่วยได้
-
โรคอื่นๆ: เช่น โรคกระเพาะอักเสบ โรคตับอักเสบ แม้กระทั่งโรคหัวใจ อันนี้ต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย อย่าละเลยนะครับ สุขภาพสำคัญที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):
การแพ้อาหารในปัจจุบันพบว่ามีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น มีการศึกษาใหม่ๆ เกี่ยวกับการตอบสนองของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร และมีการพัฒนาวิธีการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำมากขึ้น เช่น การตรวจเลือด การทดสอบผิวหนัง เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
ทำไมกินอะไรแล้วจะอ้วก
กินอะไรแล้วจะอ้วกเหรอ? อื้อหือ…นี่มันดราม่าในกระเพาะอาหารชัดๆ!
อาจจะไม่ได้ท้องนะ (แอบกระซิบ) แต่เป็นเรื่องของใจล้วนๆ เลยพี่น้อง! ความเครียดนี่ตัวร้ายเบอร์หนึ่ง ชอบทำตัวเป็นมาเฟียคุมฮอร์โมนในร่างกาย พอฮอร์โมนป่วน ระบบย่อยอาหารก็เอ๋อแดก สรุปคือ กินอะไรเข้าไปก็เหมือนโดนบีบให้อ้วกออกมา
- ฮอร์โมนป่วน: เหมือนวงดนตรีเล่นไม่เข้าขากัน ยิ่งเครียด ฮอร์โมนยิ่งตีกันมั่วซั่ว
- ระบบย่อยอาหารเอ๋อแดก: จากเชฟมิชลิน กลายเป็นเด็กฝึกงานทำอาหารไหม้
- ใจล้วนๆ: ใจมันสั่งมา…ให้ระบบพัง! (ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเพลงนะ แค่คล้องจองเฉยๆ)
แต่ถ้ายังไม่หาย ไปหาหมอเหอะ อย่ามัวแต่เดา! หมอเค้ามีเครื่องมือไฮเทค ไม่ใช่แค่เดาแบบเราๆ 😉
อาการกินข้าวแล้วอ้วกเกิดจากอะไร
กินข้าวแล้วอ้วก… มันเป็นอะไรที่ทรมานนะ
- เครียด: บางทีใจมันเครียดเกินไป ร่างกายเลยรับไม่ไหว เหมือนมันต่อต้านทุกอย่างที่เข้าไป
- วิตกกังวล: กังวลนู่นนี่เต็มไปหมด กินอะไรก็ไม่ลง กลัวไปหมด จนมันออกมา
- ฮอร์โมน: พวกฮอร์โมนนี่ตัวดีเลย เวลาเครียดมันก็ปั่นป่วนไปหมด ส่งผลไปทั่ว
มันเหมือนร่างกายมันบอกว่า “ไม่ไหวแล้ว” อ่ะ ทั้งที่ใจเราอาจจะยังอยากกินอยู่แท้ๆ
ทำไมกินข้าวแล้วรู้สึกจะอ้วก
ทำไมกินข้าวแล้วรู้สึกจะอ้วก… มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากเลยนะ ตอนที่ร่างกายมันปฏิเสธสิ่งที่เรากินเข้าไป ทั้งๆ ที่เราก็หิวแทบตาย
บางที… มันอาจจะไม่ได้อยู่ที่อาหารอย่างเดียวก็ได้มั้ง
- ความเครียด: บางทีวันที่แย่ๆ หรือเรื่องที่คิดไม่ตก มันก็ทำให้กินอะไรไม่ลงจริงๆ เหมือนร่างกายมันปิดรับทุกอย่าง
- วิตกกังวล: ยิ่งถ้ามีเรื่องให้กังวลมากๆ ระบบย่อยอาหารมันก็จะรวนๆ ไปหมด คลื่นไส้เป็นเรื่องปกติเลย
- ฮอร์โมน: เคยอ่านเจอว่าเวลาเครียดมากๆ ฮอร์โมนในร่างกายมันจะสวิง ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ
แล้วจะทำยังไงดี…
- หายใจลึกๆ: พยายามตั้งสติ หายใจเข้าออกช้าๆ มันอาจจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง
- หากิจกรรมเบี่ยงเบน: ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ทำให้เครียด
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ถ้าอาการมันไม่ดีขึ้น หรือเป็นบ่อยๆ อาจจะต้องไปปรึกษาหมอ หรือนักจิตวิทยาดูบ้างนะ
- กินแต่น้อย: เปลี่ยนจากกินเยอะ ๆ เป็นกินทีละนิด ค่อย ๆ จิบน้ำตามไปด้วย
- อาหารอ่อน: เลือกกินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือซุป
- พักผ่อน: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ สำคัญมากๆ
บางที…ร่างกายมันก็แค่พยายามบอกอะไรเราบางอย่าง เราอาจจะต้องลองฟังมันดูบ้าง
ข้อมูลเพิ่มเติม: อาการคลื่นไส้หลังทานอาหารอาจมีสาเหตุอื่น ๆ นอกเหนือจากความเครียดและวิตกกังวล เช่น อาหารเป็นพิษ, กรดไหลย้อน, หรือโรคกระเพาะ หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
กินแล้วอวกออกเกิดจากอะไร
กินแล้วอ้วก! ไม่ใช่แค่ท้องเสียธรรมดาเนอะ บางทีมันอาจเป็นสัญญาณเตือนร่างกายก็ได้นะ (แบบว่าร่างกายส่ง SMS มาบอกว่า “ช่วยด้วย! ฉันไม่ไหวแล้ว!”) นอกจากโรคประจำตัวอย่างที่ว่ามาแล้ว ปีนี้ผมเจอเคสเพื่อนกินกุ้งเผาแล้วอ้วก ซวยไปหน่อย แพ้กุ้งโดยไม่รู้ตัว! ฮาไหมล่ะ!
- เบาหวาน: ระดับน้ำตาลพุ่งปรี๊ด! ร่างกายรับมือไม่ไหว เลยอ้วกออกมาเป็นการแสดงออก (เหมือนเครื่องยนต์รถ น้ำมันเบนซินคุณภาพต่ำ ดับกลางอากาศเลย!)
- โรคถุงน้ำดี/ตับอ่อนอักเสบ: อวัยวะภายในนี่สำคัญนะ ถ้ามันบวมหรืออักเสบ ก็จะส่งผลให้กินอะไรไม่ค่อยลง อาเจียนได้ง่าย (เหมือนบ้านรั่ว ซ่อมด่วนเลย!)
- เมารถเมาเรือ: นี่คืออาการคลาสสิก! สมองสับสน ระบบประสาทไม่บาลานซ์ (เหมือนเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ ขึ้นๆ ลงๆ มึนหัวเลย!)
- แพ้ท้อง: สาวๆ ตั้งครรภ์เข้าใจดี ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง กินอะไรก็ไม่ลง (เหมือนร่างกายกำลังสร้างบ้านหลังใหม่ เลยเหนื่อยหน่อย!)
- ยาบางชนิด: ผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิด! อ่านฉลากยาให้ดีๆ (อย่าลืมดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นะ!)
เมื่อไหร่ควรไปหาหมอ?
- อ้วกบ่อยๆ ไม่หายสักที
- อ้วกแล้วมีเลือดปน
- มีไข้สูง ปวดท้องอย่างรุนแรง
- อ้วกจนขาดน้ำ อ่อนเพลียมาก
อย่ามัวแต่ทน ไปหาหมอดีกว่า ร่างกายเราล้ำค่า อย่าปล่อยให้มันร้องขอความช่วยเหลือโดยเปล่าประโยชน์ (ชีวิตนี้สั้นนัก ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ!)
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): ผมเองเป็นคนหนึ่งที่เคยมีประสบการณ์กินอาหารทะเลแล้วเกิดอาการแพ้ (ไม่ใช่กุ้งเผา เป็นหอยนางรม!) ปรากฎว่าอาการค่อนข้างรุนแรงเลยต้องรีบไปพบแพทย์ ทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ และการรู้จักร่างกายตนเองมากขึ้น ถึงแม้จะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ควรมองข้าม
พะอืดพะอม มวนท้อง จะอ้วก เกิดจากอะไร
อื้อหือ… เมื่อวานนี่หนักเลย ตอนเย็นๆ ประมาณหกโมงกว่าๆ กินข้าวเสร็จปุ๊บ รู้สึกจุกๆที่ท้อง แล้วก็เริ่มคลื่นไส้ แบบว่าไม่ใช่แค่จุกนะ มันเป็นความรู้สึกเหมือนท้องมันจะปลิ้นออกมาเลย อยากอ้วกมาก วิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน อาเจียนออกมาเป็นน้ำสีเหลืองๆ จนหมดแรง สงสัยคงเพราะกินกุ้งเผาไปเยอะไปหน่อย ที่ร้านแถวตลาดนัดหน้าบ้านอะ ร้านป้าเล็ก อร่อยนะแต่เผ็ดไปหน่อยสำหรับฉัน หลังจากนั้นก็มึนๆ หัวเบาๆ ทั้งวันเลย นอนไปพักนึงก็ดีขึ้นนะ แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
สาเหตุที่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะกุ้งเผา เพราะปกติฉันไม่ค่อยมีอาการแบบนี้ แต่ถ้ากินอาหารทะเลเยอะๆ บางทีก็มีอาการคล้ายๆกันบ้าง แต่ไม่รุนแรงขนาดนี้
- กินกุ้งเผาเยอะมาก ที่ร้านป้าเล็ก ตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน วันที่ 25 ตุลาคม 2566
- อาการเริ่มประมาณ 18:30 น.
- อาเจียนเป็นน้ำสีเหลือง
- มีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง มึนหัว
ตอนนี้ก็หายแล้วนะ แต่ก็ยังระวังเรื่องอาหารอยู่ กินอะไรก็ต้องดูๆหน่อย กลัวจะเกิดอาการแบบนี้อีก นี่ขนาดกินแค่กุ้งเผา ถ้ากินอย่างอื่นที่ไม่สะอาดละก็… คิดแล้วก็ยังขนลุกอยู่เลย
ทำไมถึงกินอะไรไปก็คลื่นไส้
ทำไมกินไรก็คลื่นไส้? เออ นั่นดิ ทำไม?
- กินเยอะไปป่ะ? แบบจุกๆ อะ
- แพ้อะไรแอบแฝงรึเปล่า? นมวัว? กลูเตน?
- อาหารเป็นพิษ? เช็ควันหมดอายุด่วน!
- ไวรัสลงกระเพาะ? ตัวร้อนมั้ย?
- กรดไหลย้อน? แสบร้อนอกป่ะ?
- ลำไส้แปรปรวน? ท้องเสีย/ผูก สลับๆ?
- ถุงน้ำดีมีปัญหา? เจ็บท้องด้านขวา? (อันนี้ไม่แน่ใจนะ ไปหาหมอดีสุด)
- เครียด? จิตใจส่งผลต่อร่างกายจริงๆ นะ
- ติดเชื้อ: อาจมีอะไรซ่อนอยู่ ตรวจสุขภาพบ้างเหอะ
คลื่นไส้เนี่ย โคตรทรมานเลยนะ อ้วกอีกยิ่งแย่… เอ๊ะ หรือเราท้องวะเนี่ย? บ้าจริง!
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- อาหารเป็นพิษปีนี้: ระวังอาหารทะเลนะ ช่วงนี้อากาศร้อน แบคทีเรียโตไวมาก
- กรดไหลย้อน: ลองกินมื้อเย็นก่อนนอน 3 ชม. อย่ากินเสร็จแล้วนอนเลย
- ลำไส้แปรปรวน: ลองจดบันทึกว่ากินอะไรแล้วเป็น จะได้เลี่ยงถูก
- เครียด: หาไรทำคลายเครียดบ้าง ดู Netflix ฟังเพลง ออกกำลังกาย
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต