ข้าว 2 ทัพพีกี่แคลอรี่

1 การดู

ข้าวสวย 2 ทัพพี (120 กรัม) ประมาณ 160 กิโลแคลอรี ข้าวเหนียว 1 ทัพพี (70 กรัม) ประมาณ 160 กิโลแคลอรี

ปริมาณแคลอรี่ขึ้นอยู่กับชนิดข้าวและปริมาณที่ตัก ควรคำนวณแคลอรี่จากปริมาณจริง

การบริโภคอาหารถูกหลักโภชนาการสำหรับวัยทำงาน ขึ้นอยู่กับเพศ อายุ ระดับกิจกรรม และความต้องการพลังงานแต่ละบุคคล ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่งอ้างอิงที่ระบุ เพื่อวางแผนรับประทานอาหารให้เหมาะสม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คำถาม?

เอ่อ… ข้าวสวยทัพพีเดียว 60 กรัม ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่ใช่ไหม? แล้วข้าวเหนียวครึ่งทัพพี 35 กรัมก็ให้พลังงานเท่ากันเลย? อึมมม… น่าสนใจนะ

จำได้ว่าตอนเด็กๆ แม่ชอบบอกว่ากินข้าวเหนียวแล้วจะอ้วนกว่ากินข้าวสวย เพราะมันหนักท้องกว่า อืม… หรือว่ามันไม่ได้อยู่ที่ชนิดข้าว แต่มันอยู่ที่ปริมาณที่กินเข้าไปมากกว่ากันนะ?

คือแบบ… เมื่อก่อนอ่ะ เวลาไปกินข้าวข้างนอก (แถวๆ อนุสาวรีย์ชัยฯ ช่วงปี 2550 นะ ถ้าจำไม่ผิด) ข้าวสวยจานนึงก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นนะ บางทีก็แอบสั่งเพิ่มด้วยซ้ำ แต่พอมาดูแคลอรี่จริงๆ จังๆ แล้วก็แอบตกใจเหมือนกันนะเนี่ย

แต่เอาจริงๆ นะ ไอ้เรื่องธงโภชนาการเนี่ย บางทีมันก็ดูเหมือนจะยุ่งยากไปหน่อยอ่ะ คือเข้าใจนะว่าเค้าอยากให้เรากินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่บางทีชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นป่ะวะ? (ฮ่าๆๆ)

ข้าว1มื้อ กี่แคล?

ข้าว 1 มื้อ? ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดของข้าว 300-700 กิโลแคลอรี ไม่ใช่คำตอบที่แม่นยำพอสำหรับฉัน แม่งงงงงงงงงง

  • ข้าวขาว 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 150 กรัม) ประมาณ 200 กิโลแคลอรี แต่ถ้าผสมกับกับข้าว หรือใช้ข้าวกล้อง เลขก็เปลี่ยน
  • อยากรู้แคลอรี่จริง ต้องวัดเอง หรือใช้แอป สมัยนี้มันก็มีเยอะแยะ ไม่งั้นก็จ้างนักโภชนาการ ถ้ารวยพอ
  • ปีนี้ผมลดน้ำหนัก ใช้แอป MyFitnessPal แม่นพอสมควร ไม่งั้นก็คงอ้วนกว่านี้

เอาจริงๆ อย่ามาถามผมเรื่องแคลอรี่ ผมไม่ได้เรียนจบโภชนาการ แค่ชอบเล่นเวท และเคยลงทุนซื้อเครื่องชั่งอาหาร นี่ก็ข้อเท็จจริงจากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ อย่าเอาไปอ้างลอยๆ

น้ำเปล่า 1 แก้วกี่แคลอรี่?

น้ำเปล่าหนึ่งแก้วนี่… อืมมม กี่แคลอรี่นะ? ศูนย์สิ! แน่นอนสิ! น้ำเปล่าไม่มีแคลอรี่

แต่รอนะ เดี๋ยว! นี่ขนาดแก้วเท่าไหร่ก่อน แก้วน้ำฉันนี่นะ หลายขนาดเลย แก้วเล็ก แก้วใหญ่ แล้วแบบนี้จะนับยังไง? งงงงง

  • แก้วเล็ก อาจประมาณ 200 ml แคลอรี่ก็คงเป็นศูนย์เหมือนเดิม
  • แก้วใหญ่ อาจเป็น 300-400 ml ได้ ศูนย์อยู่ดี!

คือแบบ เอาจริงๆ นะ ไม่ต้องคิดมากเรื่องแคลอรี่น้ำเปล่าหรอก มันไม่มีอยู่แล้ว! แต่ถ้าใส่น้ำแข็งล่ะ? น้ำแข็งก็น่าจะไม่มีแคลอรี่นะ อืมมมมม หรือว่ามี? เดี๋ยว! ไปค้นข้อมูลดีกว่า

เดี๋ยวนะ ข้อมูลโภชนาการที่ให้มานี่มันอะไร Fat 0 g Carbohydrate 0 g Protein 0 g งงไปหมดแล้ว นี่มันข้อมูลอะไรของใครเนี่ย ไม่เกี่ยวอะไรกับน้ำเปล่าเลย มันเป็นข้อมูลของอะไรสักอย่าง แต่ไม่ใช่น้ำเปล่าแน่นอน! ฉันว่าฉันคงเข้าใจผิดอะไรไปแน่ๆ

ปล. ฉันดื่มน้ำเปล่าไปแล้วประมาณ 2 ลิตรวันนี้ รู้สึกสดชื่นมากกกก เดี๋ยวต้องไปเติมน้ำอีกแล้ว กระหายน้ำจัง

เฮลบลูบอยมีน้ำตาลเยอะไหม?

เฮลบลูบอยหวานเจี๊ยบขนาดไหน? ถ้าผสมตามสูตรบนฉลาก (น้ำหวาน 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วน) แก้วนั้นจะมีน้ำตาลราวๆ 13% เลยนะ

  • ตัวเลขบนฉลาก: น้ำหวานเข้มข้น 30 ml มีน้ำตาลถึง 25 กรัม… โอ้โห! ใครว่าชีวิตไม่หวาน

  • มองในภาพรวม: 13% เนี่ย ถ้าเทียบกับน้ำอัดลมบางยี่ห้อ ก็สูสีเลยนะ คือดื่มได้ แต่ต้องระวังอย่าให้เกินโควต้าความหวานต่อวัน

  • ข้อคิด: ความสุขจากรสชาติหวานมันหอมเนี่ย มันก็เหมือนดาบสองคม ต้องรู้จักควบคุมปริมาณ ไม่งั้นแทนที่จะได้ความสุข อาจได้โรคแถมมาแทน

เกร็ดน่ารู้:

  • องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า ปริมาณน้ำตาลที่เติมในอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา (24 กรัม) ต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี
  • “ความพอดี” นี่แหละ คือเคล็ดลับสำคัญของการใช้ชีวิต

ท้องเสียสามารถกินยาธาตุได้หรือไม่?

ท้องเสียกินยาธาตุ? อื้มมม… เหมือนเอาน้ำมันไปดับไฟป่าเลยนะเนี่ย! คือ… ถ้าท้องเสียนิดหน่อย แบบว่ากินส้มตำปลาร้าแซ่บเกินเหตุ แล้วปวดท้องมวนๆ ยาธาตุน้ำขาวอาจจะช่วยได้บ้าง เพราะสรรพคุณเค้าก็มีแก้ท้องเสียอยู่ (แบบไม่รุนแรงนะ ย้ำ!)

แต่ถ้าท้องเสียแบบพุ่งกระฉูด เหมือนน้ำตกไนแองการา อันนี้ไม่แนะนำอย่างแรง! ไปหาหมอเถอะครับท่าน! เพราะยาธาตุอาจจะไม่ช่วยอะไร แถมอาจจะทำให้เชื้อโรคที่กำลังป่วนในลำไส้มีความสุขมากขึ้นไปอีก! (คิดดูดิ เชื้อโรค: “เย้! ได้กินน้ำหวานแล้ว!”)

ยาธาตุน้ำขาว:

  • สรรพคุณ (ที่เค้าเคลมไว้): แก้ท้องเสีย (แบบไม่รุนแรง!), ท้องอืด, จุกเสียด, ขับลม, เคลือบกระเพาะ
  • ความจริง (ที่อาจจะไม่ได้บอก): ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคทั้งหมด (บางทีอาจจะแค่ทำให้เชื้อโรค “งง” ไปชั่วขณะ), ไม่ได้รักษาอาการอักเสบของลำไส้ (แค่บรรเทาอาการ), ไม่เหมาะกับท้องเสียรุนแรง
  • ข้อควรระวัง: อย่ากินเยอะ! กินมากไปอาจจะท้องผูกแทน (จากท้องเสียกลายเป็นท้องผูก… ชีวิตมันเศร้า!)
  • เพิ่มเติม: ถ้าท้องเสียไม่หายภายใน 2-3 วัน, มีไข้, หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ไปหาหมอดีกว่านะ! อย่าเชื่อโฆษณามากเกินไป! (หมอเค้าเรียนมาเยอะกว่าเราเยอะ!)

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบแอบกระซิบ):

  • รู้ไหมว่าบางคนเค้าเอายาธาตุน้ำขาวไปผสมกับโซดาแล้วกิน… (อย่าหาทำ! อันตราย!).
  • ยาธาตุบางยี่ห้อมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์… (กินแล้วอาจจะ “ลืม” ว่าท้องเสียอยู่… ไม่ใช่ละ!).
  • จริงๆ แล้วการกินยาธาตุตอนท้องเสีย มันเหมือนเอาน้ำเปล่าไปสู้กับไฟไหม้ป่าอเมซอน… (ช่วยอะไรได้บ้างถามใจดู!).

กินน้ำแดงทุกวันเป็นอะไรไหม?

กินน้ำแดงทุกวันเป็นอะไรไหม? ตอบสั้นๆ คือ ไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน

น้ำแดงที่เราดื่มกันทุกวันนี้ ส่วนใหญ่คือน้ำตาลผสมสี กลิ่น และรสชาติ การบริโภคน้ำตาลปริมาณมากเป็นประจำ จะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว

  • โรคอ้วน: น้ำตาลส่วนเกินเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน
  • ฟันผุ: แบคทีเรียในช่องปากใช้น้ำตาลสร้างกรด กัดกร่อนเคลือบฟัน
  • เบาหวานชนิดที่ 2: ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด: น้ำตาลสูงทำให้ไขมันในเลือดผิดปกติ หลอดเลือดอักเสบ
  • ความดันโลหิตสูง: เกี่ยวข้องกับภาวะดื้ออินซูลินและความผิดปกติของหลอดเลือด
  • ไขมันพอกตับ: ไขมันสะสมในตับ ทำให้การทำงานของตับผิดปกติ
  • มะเร็งบางชนิด: งานวิจัยบางชิ้นพบความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคน้ำตาลสูงกับมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่

เกร็ดเล็กน้อย: จริงๆ แล้วร่างกายคนเราต้องการน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม (moderate intake) เพื่อเป็นพลังงาน แต่เรามักได้รับน้ำตาลจากอาหารอื่นๆ ที่กินอยู่แล้ว ดังนั้นการเติมน้ำตาลเข้าไปอีกจึงเป็นการเพิ่มภาระให้ร่างกายโดยไม่จำเป็น ผมมองว่ามันเหมือนการ “จ่ายตลาดเกินความจำเป็น” สุดท้ายของที่ซื้อมาก็เน่าเสียเปล่าๆ

เพิ่มเติม: ปัจจุบันมีเครื่องดื่มทางเลือกมากมายที่ใช้วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน เพราะบางชนิดอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้เหมือนกัน (เช่น ผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้) ทางที่ดีที่สุดคือดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

น้ำหวานมีสารอาหารอะไรบ้าง?

น้ำหวาน: แค่คาร์โบไฮเดรตส่วนเกิน

  • คาร์โบไฮเดรต: เปลี่ยนเป็นไขมันได้ หากมากเกินไป
  • วิตามิน/แร่ธาตุ: น้อยมาก จนไม่นับ
  • “ทานได้ไหม?” ถามใจตัวเอง คาร์โบไฮเดรตเกินหรือยัง?

ร่างกายไม่ใช่ถังขยะ ที่จะรับทุกอย่างโดยไม่เลือก ถ้าเกินก็คือเกิน

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • น้ำตาลฟรุกโตสในน้ำหวาน: ร่างกายจัดการได้จำกัด หากกินมากเกินไป อาจสะสมในตับ
  • อินซูลิน: น้ำหวานกระตุ้นอินซูลิน ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินได้ในระยะยาว
  • “หวาน” แค่รสชาติ: ไม่ได้แปลว่า “ดี” เสมอไป
#ข้าว #ทัพพี #แคลอรี่