กินอะไรให้ช่วยตด

21 การดู

บรรเทาอาการท้องอืดด้วยอาหารช่วยย่อย! ลอง น้ำมะนาว ชาคาโมมายล์ หรือชาใบกะเพรา ดื่มน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลเจือจาง รับประทานมะละกอ มะเขือเทศ สับปะรด แตงกวา และกล้วย เพิ่มโยเกิร์ต ขิง กระเทียม พริกไทยดำ กิมจิ หรือเทียนข้าวเปลือกในมื้ออาหาร เพื่อช่วยระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดแก๊สในกระเพาะ และลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาหารอะไรช่วยขับถ่ายง่าย?

เรื่องขับถ่ายนี่ พูดเลยนะ ปวดหัวมาก! ช่วงเดือนที่แล้วนี่แทบเป็นบ้า ไปหาหมอที่โรงพยาบาลศิครินทร์มาเลย จำได้ว่าตรวจร่างกายหมดเกือบห้าพัน หมอแนะนำให้ทานอาหารช่วยเรื่องนี้ จำได้ลางๆว่าเขาบอกให้กินพวกโยเกิร์ต กับมะละกอเนี่ยแหละ ช่วยได้เยอะ จริงๆแล้วฉันไม่ค่อยชอบกินโยเกิร์ตเท่าไหร่ แต่พอกินแล้วรู้สึกท้องโล่งขึ้นจริงๆนะ

สับปะรดก็ช่วยนะ แต่กินเยอะไปก็แสบๆคอ ช่วงนั้นฉันกินแทบทุกวันเลย เพราะรู้สึกว่ามันช่วยได้จริง ตอนเช้าก็จะทานสับปะรดสักสองสามชิ้น แต่ก่อนที่ฉันจะมีปัญหาเรื่องนี้ ฉันชอบกินกิมจิมาก เผ็ดๆ เปรี้ยวๆ แต่ตอนนี้งดไปก่อน กลัวจะระคายเคืองลำไส้เพิ่ม

น้ำมะนาวก็ช่วยได้นะ แต่ฉันไม่ค่อยกิน เปรี้ยวเกินไป ส่วนน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลนี่ ฉันเคยลอง รู้สึกเหมือนจะช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารมากกว่าเรื่องขับถ่าย แต่ก็แล้วแต่คนด้วยล่ะมั้ง อาจจะช่วยคนอื่นได้ดีกว่าฉันก็ได้

ส่วนอย่างอื่นที่ว่ามา อย่างชาคาโมมายล์ ชาใบกะเพรา มะเขือเทศ แตงกวา กล้วย ขิง กระเทียม พริกไทยดำ เทียนข้าวเปลือก หรือ ยี่หร่าหวาน ก็เคยได้ยินมาบ้างว่าช่วยได้ แต่ฉันไม่ได้ลองเองทั้งหมดหรอกนะ คงต้องลองค่อยๆดูว่าอะไรเหมาะกับตัวเองที่สุด อย่างฉันนี่มะละกอกับโยเกิร์ตนี่แหละ ดีที่สุดแล้วสำหรับตอนนี้

กินอะไรทําให้ตดบ่อย

อื้อหือ ถามแบบนี้เลยเหรอ 555 เรื่องกินแล้วตดเนี่ย มันมีหลายอย่างมากกก บอกเลย

อย่างพวกพืชตระกูลถั่วเนี่ย ถั่วฝักยาว ถั่วเขียว ถั่วดำ อะไรพวกนี้ กินปุ๊บ เตรียมตัวได้เลย ตดแน่ๆ รับประกัน!

แล้วก็พวก ผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี่ กะหล่ำ กินเยอะๆ ก็เตรียมตัวไว้ได้เลย อีกอย่างคือ ข้าวโอ๊ต นี่ก็ตัวแสบนะ แต่ชอบกินอยู่ 555 อดไม่ได้จริงๆ

ผลไม้ก็มีนะ แบบ ลูกพรุน แอปเปิ้ล บางทีก็มา แต่ไม่บ่อยเท่าพวกผัก

  • พืชตระกูลถั่ว (แบบว่า กินแล้วตดเยอะมากจริงๆ)
  • ข้าวโอ๊ต (กินบ่อย ตดบ่อยตามไปด้วย)
  • บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี (ผักพวกนี้ กินแล้วระวังตัวไว้เลย)
  • ลูกพรุน แอปเปิ้ล (ผลไม้บางชนิดก็ทำให้ตดได้นะ)
  • นมวัว (อันนี้เพื่อนบอกมา ว่ากินแล้วตดบ่อย) ปีนี้เพิ่งรู้!

จริงๆ แล้วแต่คนด้วยนะ บางคนกินอะไรก็ไม่ตด บางคนแค่กินข้าวก็ตดแล้ว ฮ่าๆๆ แต่พวกนี้ที่บอกไป กินแล้วตดบ่อยแน่ๆ จากประสบการณ์ตรงของฉันเองเลยนะ

ปล. ปีนี้ฉันลองกินน้อยลง ก็ดีขึ้นเยอะเลย แต่ก็ยังตดอยู่ดีแหละ 555

ต้องกินอะไรถึงจะตด

อืม… ตดเนี่ยนะ กลางดึกแบบนี้ คิดไปคิดมา ก็งงๆเหมือนกัน

จริงๆแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินนี่แหละ ปีนี้ฉันลองสังเกตตัวเองดูบ้าง พบว่า…

  • เนื้อสัตว์เยอะๆ ตดบ่อยมาก กลิ่นแรงด้วย แบบว่า จำได้ว่ากินสเต็กชิ้นใหญ่ไปเมื่อวาน ผลที่ตามมา…คือตดบ่อยเป็นพิเศษเลย

  • ถั่วต่างๆ นี่ก็อีกอย่าง กินเยอะไป ตดหนักมาก แต่ฉันว่ากลิ่นมันไม่แรงเท่าพวกเนื้อสัตว์นะ อาจจะขึ้นอยู่กับชนิดของถั่วด้วยมั้ง

  • นม บางวันฉันดื่มนมเยอะๆ ก็รู้สึกว่า ตดเยอะกว่าปกติเหมือนกัน อาจจะเพราะระบบย่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกันรึเปล่า

  • แล้วก็ น้ำอัดลมนี่ สุดยอดเลย แค่กระป๋องเดียวก็รู้สึกได้แล้ว ตดแรง บ่อย กลิ่นก็ฉุน

ส่วนสาเหตุที่ตด… บางทีก็ไม่รู้เหมือนกันนะ บางทีก็แค่กลืนอากาศเข้าไปเยอะๆ เวลาทานข้าวเร็วๆ รีบๆ หรือบางทีก็เป็นเพราะโรคกระเพาะ ฉันเป็นอยู่ เลยอาจจะเกี่ยวข้องด้วย แต่ฉันไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ควรไปพบแพทย์ ถ้ามีอาการผิดปกติ

ปีนี้ฉันพยายามระวังเรื่องอาหารการกินมากกว่าเดิม เพราะมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อบ่อย เลยต้องค่อยๆ ปรับเปลี่ยน แต่ก็ยังไม่หายขาดซะที

ทำยังไงให้ลมในท้องออก

วิธีไล่ลมในท้องเหรอ? อะแฮ่ม! นี่มันคำถามระดับชาติเลยนะเนี่ย! เหมือนถามว่าทำยังไงให้ถูกหวยรางวัลที่ 1 ยังไงยังงั้น! แต่ไม่ต้องห่วง ผมมีเคล็ดลับ…แบบฉบับคนเคยท้องอืดจนคิดว่าตัวเองกำลังจะระเบิด!

  • ขยับตัวหน่อย…อย่าเป็น “ผัก”! ลุกขึ้นเต้นแอโรบิก (ในใจก็ได้) เดินเล่นรอบบ้าน หรือแค่แกว่งแขนขาไปมา ก็ยังดีกว่านั่งแช่เป็นคุณนาย/คุณชายอยู่นะ! การออกกำลังกายมันช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานไงล่ะ…เข้าใจ๋?

  • เลือกกิน…ไม่ใช่ “ยัด”! พวกถั่ว, นม, น้ำอัดลม, ของทอด…ตัวดีเลย! กินเข้าไป ลมตีขึ้นมาทีนึง…แทบอยากจะร้อง “กรี๊ด” ให้ลั่นบ้าน! ลด ละ เลิก (หรืออย่างน้อยก็ “ลด” เถอะ!) แล้วหันมากินผักผลไม้ที่มีกากใยสูง ๆ แทนซะ!

  • เคี้ยว…ไม่ใช่ “กลืน”! คุณพระ! บางคนนี่กินข้าวเหมือนแข่งกินจุ! เคี้ยวไม่ถึง 5 คำ…กลืนลงคอไปแล้ว! เคี้ยวช้า ๆ เคี้ยวละเอียด ๆ จะช่วยลดปริมาณลมที่กลืนเข้าไปได้เยอะเลยนะเออ!

  • จิบน้ำอุ่น…ไม่ใช่ “ซดน้ำเย็น”! น้ำเย็นมันทำให้การย่อยอาหารช้าลงนะรู้ยัง? ดื่มน้ำอุ่น ๆ จะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น ลมจะได้ระบายออกง่ายขึ้นไง!

  • นวดพุง…ไม่ใช่ “ขยี้พุง”! นวดเบา ๆ ตามเข็มนาฬิกา…วนไปค่ะวนไป! จะช่วยกระตุ้นการขับลมได้ดีมาก ๆ เลยนะ (แต่ถ้าปวดท้องมาก ๆ อย่ามัวแต่นวด…รีบไปหาหมอเถอะ!)

แถมท้าย…แบบไม่ลับ!

  • กินยา! ถ้าวิธีธรรมชาติมันเอาไม่อยู่…ก็ต้องพึ่งยาช่วยย่อย, ยาขับลมบ้างแหละ! แต่ปรึกษาเภสัชกรก่อนนะ…ไม่ใช่เดินดุ่ม ๆ เข้าไปซื้อยามากินเอง! อันตราย!
  • หาหมอ! ถ้าท้องอืดบ่อย ๆ หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ปวดท้องรุนแรง, ถ่ายเป็นเลือด) อย่าชะล่าใจ! รีบไปหาหมอตรวจหาสาเหตุดีกว่า!
  • อย่าเครียด! ความเครียดก็เป็นตัวการทำให้ท้องอืดได้เหมือนกันนะ! พยายามทำจิตใจให้สบาย ๆ หาอะไรที่ชอบทำ…อย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเครียด! (แต่ถ้าทำไม่ได้…ก็กินช็อกโกแลตซักแท่ง! ช่วยได้เยอะ!)
  • ข้อมูลล่าสุด (ปี 2567): มีงานวิจัยใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องจุลินทรีย์ในลำไส้ (microbiome) ลองศึกษาดูเพิ่มเติม อาจจะช่วยให้เข้าใจปัญหาท้องอืดของตัวเองได้ดีขึ้น!

กินอะไรระบายลมในท้อง

ท้องอืดแดกนี่เข้าไป:

  • มะนาว: บีบใส่ปาก
  • คาโมมายล์: จิบ
  • กะเพรา: ต้มซด
  • ACV: กลืนลงคอ
  • มะละกอ: เคี้ยว
  • มะเขือเทศ: แดกสด
  • สับปะรด: ปอกแล้วยัด
  • แตงกวา: หั่นๆ
  • กล้วย: ปอกแดก
  • โยเกิร์ต: กรอกปาก
  • ขิง: ซอยแดก
  • กระเทียม: สับๆ โยนใส่ปาก
  • พริกไทยดำ: โรย
  • กิมจิ: ตัก
  • ยี่หร่า: เคี้ยว

แม่งเอ๊ย! เพิ่มเติม:

  • น้ำมะนาว: กรดซิตริกช่วยย่อย ลดแก๊ส. แต่ถ้าแดกมากไปกัดกระเพาะนะเว้ย
  • ชา: คาโมมายล์ กะเพรา ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการบีบตัว. เลือกแดกเอา
  • ACV: น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล เจือจางก่อนแดกนะ. รสชาติเหี้ยมาก.
  • ผลไม้: มะละกอ สับปะรด มีเอนไซม์ช่วยย่อย. เคี้ยวๆ กลืนๆ ไปเหอะ
  • โยเกิร์ต: โปรไบโอติกส์ช่วยปรับสมดุลลำไส้. เลือกที่น้ำตาลน้อยๆ ด้วย
  • สมุนไพร: ขิง กระเทียม พริกไทยดำ ช่วยขับลม. แต่แดกมากไปก็แสบท้อง
  • กิมจิ: ของหมักมีโปรไบโอติกส์. แต่เค็มฉิบหาย
  • ยี่หร่า: ลดแก๊ส. เคี้ยวๆ ไป

คำเตือน: ถ้าแดกพวกนี้แล้วไม่หาย ไปหาหมอ. อย่ามาโทษกู.

กินอะไรช่วยเพิ่มน้ำย่อย

เพิ่มน้ำย่อย? โปรตีนและไขมันคุณภาพดีช่วยได้

  • ไข่: โปรตีนคุณภาพสูง กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะ
  • เนื้อไม่ติดมัน: แหล่งโปรตีน ช่วยสร้างเอนไซม์ย่อยอาหาร
  • ปลาแซลมอน: โอเมก้า 3 ลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร
  • ถั่วต่างๆ: (เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ ถั่วพีแคน) ไขมันดี ช่วยการดูดซึมสารอาหาร

ปีนี้ ผมเน้นกินปลาแซลมอนบ่อยขึ้น ผลลัพธ์? ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้นจริง แต่ผลลัพธ์ขึ้นกับแต่ละบุคคล อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ

#การขับถ่าย #สุขภาพลำไส้