น้ำมันหมูทำยังไงไม่ให้เหม็นหืน

เคล็ดลับน้ำมันหมูหอมเจียวเอง: หอมนาน ไม่เหม็นหืน กลิ่นไม่กวนใจ

น้ำมันหมูเจียวเองเป็นวัตถุดิบที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผัด ทอด หรือแม้แต่ใช้คลุกข้าวสวยร้อนๆ แต่ปัญหาที่หลายคนพบเจอคือ น้ำมันหมูที่เจียวไว้ มักจะเหม็นหืนอย่างรวดเร็ว ทำให้เสียรสชาติและกลิ่นหอมที่ควรจะเป็น บทความนี้จะมาเผยเคล็ดลับการทำน้ำมันหมูเจียวเองที่บ้าน ให้หอมนาน ไม่เหม็นหืน และกลิ่นไม่กวนใจ รับรองว่าคุณจะได้น้ำมันหมูคุณภาพดี ไว้ใช้ปรุงอาหารได้อย่างอร่อยถูกใจ

1. หัวใจหลักอยู่ที่การเลือกวัตถุดิบ:

• เลือกส่วนผสมที่ใช่: ส่วนที่นิยมนำมาเจียวเป็นน้ำมันหมูคือ มันหมูแข็ง (มันเปลว) และ มันหมูสามชั้น เพราะมีปริมาณไขมันสูง เหมาะสำหรับนำมาเจียว แต่เคล็ดลับอยู่ที่การผสมสัดส่วนที่พอเหมาะ ถ้าใช้มันหมูแข็งอย่างเดียว น้ำมันที่ได้อาจจะแข็งตัวเร็วเกินไป ส่วนมันหมูสามชั้นจะให้กลิ่นหอมและน้ำมันที่เหลวขึ้น ดังนั้นลองผสมกันในสัดส่วน 2:1 (มันหมูแข็ง : มันหมูสามชั้น) จะได้น้ำมันหมูที่มีคุณภาพดี
• ความสดใหม่สำคัญที่สุด: เลือกซื้อหมูจากแหล่งที่เชื่อถือได้ สังเกตสีของมันหมู ต้องมีสีขาวสะอาด ไม่มีกลิ่นคาว หรือกลิ่นผิดปกติ หากซื้อมาแล้ว ควรนำมาเจียวทันที หรือเก็บไว้ในตู้เย็นไม่เกิน 1-2 วัน

2. เตรียมพร้อมก่อนลงมือเจียว:

• ล้างและทำความสะอาดอย่างหมดจด: นำมันหมูมาล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ รอบ ขัดสิ่งสกปรกออกให้หมด หากมีขนหมูติดอยู่ให้ดึงออกให้เกลี้ยง การล้างให้สะอาดจะช่วยลดกลิ่นคาว และทำให้ได้น้ำมันหมูที่ใส
• หั่นเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะ: การหั่นมันหมูเป็นชิ้นขนาดเล็กจะช่วยให้ไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น และสม่ำเสมอ โดยขนาดที่แนะนำคือประมาณ 1-2 เซนติเมตร
• เคล็ดลับดับกลิ่นคาว: ก่อนนำไปเจียว ให้คลุกมันหมูด้วยเกลือเล็กน้อย ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก เกลือจะช่วยดูดซับกลิ่นคาว และทำให้ได้น้ำมันหมูที่หอมยิ่งขึ้น

3. เทคนิคการเจียวที่ถูกต้อง:

• ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง: การใช้ไฟแรงจะทำให้มันหมูไหม้ และน้ำมันที่ได้จะมีกลิ่นเหม็นไหม้ ควบคุมไฟให้คงที่ จะช่วยให้น้ำมันค่อยๆ ออกมาอย่างสม่ำเสมอ
• เติมน้ำเล็กน้อย: ในช่วงแรกของการเจียว ให้เติมน้ำลงไปเล็กน้อย (ประมาณ 1/4 ถ้วยตวง) น้ำจะช่วยป้องกันไม่ให้มันหมูติดก้นหม้อ และช่วยให้ไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น เมื่อน้ำแห้งแล้วค่อยๆ เคี่ยวต่อไป
• คนอย่างสม่ำเสมอ: หมั่นคนเป็นระยะ เพื่อให้มันหมูสุกทั่วถึงกัน และป้องกันไม่ให้ติดก้นหม้อ
• สังเกตสีและกลิ่น: เมื่อมันหมูเริ่มมีสีเหลืองทอง และมีกลิ่นหอม ให้ค่อยๆ ตักกากหมูออก กากหมูที่เหลือจากการเจียว สามารถนำไปทำเมนูต่างๆ ได้ เช่น กากหมูเจียวพริกเกลือ หรือใส่ในก๋วยเตี๋ยว
• กรองให้สะอาด: เมื่อเจียวเสร็จแล้ว ให้กรองน้ำมันหมูด้วยผ้าขาวบาง หรือกระชอนตาถี่ เพื่อกำจัดเศษเล็กๆ ที่อาจจะหลุดรอดมา การกรองจะช่วยให้น้ำมันหมูใส และมีคุณภาพดี

4. การเก็บรักษาที่เหมาะสม:

• รอให้น้ำมันเย็นสนิท: ก่อนบรรจุลงในภาชนะ ควรปล่อยให้น้ำมันหมูเย็นสนิทก่อน เพื่อป้องกันไอน้ำสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมันเหม็นหืนเร็วขึ้น
• เลือกภาชนะที่สะอาดและแห้ง: ควรใช้ภาชนะแก้ว หรือภาชนะที่ทำจากวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำมัน และต้องมั่นใจว่าภาชนะนั้นสะอาดและแห้งสนิท
• ปิดฝาให้สนิท: ปิดฝาภาชนะให้สนิท เพื่อป้องกันอากาศ และความชื้น ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้น้ำมันเหม็นหืน
• เก็บในตู้เย็น: การเก็บน้ำมันหมูในตู้เย็น จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น น้ำมันหมูที่เก็บไว้ในตู้เย็น อาจจะแข็งตัวเล็กน้อย แต่เมื่อนำออกมาตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องก็จะกลับมาเหลวเหมือนเดิม

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• เติมสมุนไพรเพิ่มความหอม: ในขณะที่เจียว อาจจะเติมสมุนไพรต่างๆ ลงไป เช่น กระเทียม รากผักชี หรือใบเตย เพื่อเพิ่มความหอมให้กับน้ำมันหมู
• หลีกเลี่ยงการใช้กระทะเคลือบ: กระทะเคลือบอาจจะไม่ทนต่อความร้อนสูง และสารเคลือบอาจจะหลุดลอกออกมาปนเปื้อนกับน้ำมัน
• อย่าเจียวจนกากหมูไหม้: กากหมูที่ไหม้ จะทำให้น้ำมันมีกลิ่นเหม็นไหม้ และมีรสชาติขม

ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณก็สามารถทำน้ำมันหมูหอมๆ ไว้ใช้ปรุงอาหารได้เองที่บ้าน มั่นใจได้ในคุณภาพและความสะอาด แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ!