ตู้เย็น 10 คิวกินไฟวันละกี่บาท

ตู้เย็น 10 คิว กินไฟวันละกี่บาท

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกครัวเรือน โดยขนาดความจุของตู้เย็นที่นิยมใช้งานกันทั่วไปคือ 10 คิว ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เรามักสงสัยกันอยู่เสมอว่าตู้เย็น 10 คิว จะกินไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด และค่าใช้จ่ายในการใช้งานแต่ละวันเป็นเท่าไร

การคำนวณอัตราการกินไฟฟ้า

อัตราการกินไฟฟ้าของตู้เย็นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดความจุ ประเภทของคอมเพรสเซอร์ และคุณสมบัติต่างๆ โดยทั่วไป ตู้เย็น 10 คิว จะมีอัตราการกินไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 200 วัตต์

การคำนวณค่าใช้จ่ายในการใช้งาน

เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายในการใช้งานตู้เย็น 10 คิว เราต้องทราบอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยเสียก่อน ในประเทศไทย อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 4 บาทต่อหน่วย

โดยสูตรคำนวณค่าใช้จ่ายมีดังนี้

ค่าใช้จ่าย (บาท) = กำลังไฟ (วัตต์) x จำนวนชั่วโมงที่ใช้งาน (ชั่วโมง) x อัตราค่าไฟฟ้า (บาท/หน่วย) / 1,000

โดยปกติ ตู้เย็นจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น จำนวนชั่วโมงที่ใช้งานจึงเท่ากับ 24 ชั่วโมง

ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับตู้เย็น 10 คิว ที่มีกำลังไฟ 200 วัตต์

ค่าใช้จ่าย (บาท) = 200 วัตต์ x 24 ชั่วโมง x 4 บาท/หน่วย / 1,000
= 1,920 วัตต์-ชั่วโมง / 1,000
= 1.92 หน่วย
= 1.92 หน่วย x 4 บาท/หน่วย
= ประมาณ 7.68 บาท

ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการใช้งานตู้เย็น 10 คิว ที่มีกำลังไฟ 200 วัตต์ โดยประมาณอยู่ที่ 7.68 บาทต่อวัน

ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการกินไฟฟ้า

นอกจากกำลังไฟแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ส่งผลต่ออัตราการกินไฟฟ้าของตู้เย็น ได้แก่

• อุณหภูมิที่ตั้งค่า การตั้งอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปจะทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้อัตราการกินไฟฟ้าสูงขึ้น
• ปริมาณอาหาร การแช่อาหารมากเกินไปจะทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในตู้เย็น
• การเปิด-ปิดประตู การเปิด-ปิดประตูบ่อยๆ จะทำให้ความเย็นภายในรั่วไหลออกไป ทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้น
• อายุการใช้งาน ตู้เย็นที่ใช้งานมานานอาจมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นลดลง ทำให้อัตราการกินไฟฟ้าสูงขึ้น

การลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานตู้เย็น

• ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม ช่องแช่เย็นควรตั้งไว้ที่ 3-5 องศาเซลเซียส และช่องแช่แข็งควรตั้งไว้ที่ -15 ถึง -18 องศาเซลเซียส
• จัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการแช่อาหารมากเกินไป และเว้นช่องว่างระหว่างอาหารเพื่อให้ความเย็นหมุนเวียนได้ดี
• หลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดประตูบ่อยๆ หยิบอาหารที่ต้องการใช้ครั้งเดียวให้ออกมาพร้อมกัน
• เลือกตู้เย็นรุ่นประหยัดไฟ ตู้เย็นรุ่นใหม่ๆ มักมีเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ดีกว่ารุ่นเก่า
• บำรุงรักษาทู้เย็นเป็นประจำ การทำความสะอาดขดลวดคอนเดนเซอร์อยู่เสมอจะช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น