ทํา Mobile App ใช้ตัวไหนดี
เลือกเครื่องมือพัฒนา Mobile App:
- Java: เหมาะกับ Android เน้นความเสถียร ประสิทธิภาพสูง
- Swift: ใช้พัฒนา iOS โดยเฉพาะ ใช้งานง่าย ภาษาทันสมัย
- Python: ทางเลือกสำหรับ Cross-Platform ผ่าน Framework เช่น Kivy
- Flutter: สร้างได้ทั้ง iOS/Android รวดเร็ว UI สวยงาม
- C#: ใช้กับ Xamarin พัฒนา Cross-Platform เน้น .NET Ecosystem
- C++: เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ระดับ System
เลือกตามแพลตฟอร์มที่ต้องการ, ทักษะเดิม, และความเร็วในการพัฒนา
สร้างแอปมือถือใช้แพลตฟอร์มไหนดี?
โอเค จะสร้างแอปมือถือเหรอ? คำถามคือจะใช้แพลตฟอร์มไหนดีเนี่ย? อืมมม… มันมีหลายทางเลือกเลยนะ เอาจริงๆ ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้แอปแบบไหน แล้วตัวเองถนัดอะไรด้วยแหละ
ตอนนั้นอ่ะ ตอนที่ฉันเริ่มหัดเขียนแอปนะ (น่าจะซักปี 2015 ได้มั้ง?) ฉันเริ่มจาก Java ก่อนเลย เพราะตอนเรียนที่มหาลัยก็เรียน Java มาบ้าง แต่บอกเลยว่ามันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะ
Swift ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ ถ้าอยากทำแอปสำหรับ iOS โดยเฉพาะ แต่ส่วนตัวฉันว่ามันค่อนข้างเฉพาะเจาะจงไปหน่อย แต่ถ้าอยากได้แอปที่เนียนๆ บน iPhone ก็ต้อง Swift แหละ
Python นี่ก็เป็นภาษาที่ใช้ง่ายนะ เขียนอะไรสั้นๆ ได้เร็วดี แต่ไม่แน่ใจว่าเหมาะกับการทำแอปมือถือขนาดใหญ่หรือเปล่า (ไม่เคยลองทำขนาดใหญ่ๆ จริงจังนะ)
Flutter นี่เคยได้ยินเพื่อนๆ พูดถึงอยู่เหมือนกันว่ามัน cross-platform คือเขียนทีเดียวใช้ได้ทั้ง iOS และ Android แต่ฉันยังไม่เคยลองใช้เองเลยอ่ะ (อาจจะลองในอนาคตก็ได้)
C# กับ C++ นี่… อืมมมม ส่วนตัวฉันว่ามันค่อนข้าง advance ไปหน่อยนะ ถ้าเป็นมือใหม่หัดเขียนแอปอาจจะยากไปหน่อย แต่ถ้ามีพื้นฐานอยู่แล้วก็อาจจะลองดูก็ได้
สรุปคือ… ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดหรอก เลือกอันที่ตัวเองถนัด แล้วก็ลองศึกษาดูหลายๆ แพลตฟอร์ม อาจจะเจออันที่ใช่ก็ได้นะ 😉
Mobile Application ใช้โปรแกรมอะไร
แสงแดดอ่อนๆ ของเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมอ่อน โปรยปรายลงบนจอคอมพิวเตอร์ของฉัน ความคิดมันล่องลอยไปกับสายลม เหมือนกับการเลือกภาษาเขียนโปรแกรมสำหรับแอปพลิเคชัน… ใจมันกระวนกระวาย เหมือนนกน้อยในกรงทอง อยากให้มันบินไปให้ไกล
-
iOS: อ้อ… Swift กับ Objective-C สองภาษาที่เปรียบเสมือนคู่รัก หนึ่งคือความทันสมัย อีกหนึ่งคือความคลาสสิค แต่ทั้งสองต่างก็มอบความสวยงามให้กับแอปบน iPhone เสมือนงานศิลปะที่ประณีต
-
Android: ฉันชอบความทรงพลังของ Java เหมือนกับเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และ Kotlin ความทันสมัยที่มาพร้อมกับความคล่องตัว เสริมความงามให้ Android ได้อย่างลงตัว เปรียบเหมือนดอกไม้สีสันสดใส
-
Cross-Platform: React Native, Flutter, Xamarin เหมือนดั่งเวทมนตร์ เขียนโค้ดเดียว ได้ทั้ง iOS และ Android ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เป็นความมหัศจรรย์ของยุคดิจิทัล
-
Low-Code/No-Code: Appy Pie, Buildfire… สำหรับคนที่ไม่ถนัดเขียนโค้ด เหมือนการวาดรูปด้วยสีน้ำ ง่ายดาย สวยงาม แต่ก็อาจจะจำกัดความสามารถ
ลมพัดเย็นๆ พัดผ่านหน้าต่าง ฉันถอนหายใจเบาๆ การสร้างแอปพลิเคชัน มันเป็นศิลปะ เป็นเสน่ห์ เป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้น และฉันก็กำลังอยู่ในเส้นทางนั้น… เหมือนกับสายธารที่ไหลไปอย่างไม่หยุดยั้ง
แสงเริ่มเปลี่ยนสี เป็นสีส้มอมชมพู วันนี้ ฉันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อีกแล้ว ความรู้ใหม่ๆ เหมือนกับดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับ สวยงาม และน่าค้นหา พรุ่งนี้ ฉันจะไปต่อ…
เขียนแอพมือถือ ใช้ภาษาอะไร
กลางคืนแบบนี้ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเนอะ… เรื่องแอปมือถืออะนะ
ถ้าอยากทำ Android จริงๆ Kotlin แหละดี เพื่อนผมคนนึงเรียนอยู่ มันบอกโค้ดอ่านง่ายกว่า Java เยอะเลย ปีนี้มันก็หางานได้ง่ายด้วยนะ ได้งานที่บริษัทเกมส์ดังเลย ดีใจกับมันมาก
ส่วน iOS Swift สิ อันนี้ก็เห็นหลายคนบอกดี แต่ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง iOS เท่าไหร่ ไม่เคยลอง อาจจะเพราะไม่ชอบใช้ของแอปเปิ้ลเท่าไหร่ด้วยมั้ง
ถ้าอยากทำได้ทั้งสองอย่างเลยนะ… Dart กับ Flutter นั่นแหละ เพื่อนอีกคนนึงเลือกเรียนอันนี้ มันบอกว่าพัฒนาเร็ว เขียนโค้ดทีเดียวได้ทั้ง Android และ iOS ประหยัดเวลาดี แต่ก็ต้องดูด้วยว่า มันเหมาะกับโปรเจกต์แบบไหนนะ บางทีก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง
เอาเป็นว่า ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมละกันนะ
- Android: Kotlin
- iOS: Swift
- Cross-platform: Dart (Flutter)
ตอนนี้ก็ง่วงแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อละกัน บาย
Mobile Developer เรียนอะไรบ้าง
- Mobile Developer เรียนไรบ้างนะ… อ๋อ วิทย์คอม, วิศวะคอม, IT เนี่ยแหละ แต่จริงๆ ไม่จบก็เป็นได้ปะวะ?
- แอนดรอยด์ต้องทำไง? ฝึกงานดิ หรือไม่ก็หางานฟรีแลนซ์ทำไปเลย! หาประสบการณ์ ไง! สำคัญสุดๆ!
- เขียนโค้ด เก่งๆดิ! อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว!
- พัฒนาโปรแกรมให้คล่อง! (อันนี้ก็เหมือนข้างบนป่ะวะ?)
- ฝึกงาน นี่สำคัญจริงๆนะ ได้เจอของจริง! ได้รู้ว่าชีวิตจริงมันไม่เหมือนในห้องเรียน!
- ฟรีแลนซ์ ก็ดีนะ เลือกงานได้เอง! แต่ก็ต้องขยันหาหน่อย!
- วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นี่เรียนพวก algorithms, data structures, programming languages (C++, Java, Python อะไรพวกนี้)
- วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ก็จะเน้น hardware ด้วยมั้ง? ไม่แน่ใจ… แต่ก็มีเขียนโปรแกรมเหมือนกัน
- IT ก็จะกว้างๆ หน่อย… อาจจะเน้นไปทาง network, database อะไรพวกนั้นรึเปล่า? ช่างมันเหอะ!
- สรุปคือต้องเขียนโปรแกรมเป็น! จบ!
- ตอนนี้อยากลองเขียน Flutter อยู่นะ! เค้าว่าทำแอปได้ทั้ง iOS และ Android!
- เพื่อนบอกว่า React Native ก็ดี… แต่ยังไม่ได้ลอง!
- Android Studio นี่หนักเครื่องชะมัด!
- Kotlin นี่ภาษาสุดฮิตของ Android เลยป่ะ? ต้องไปศึกษา!
- อยากไปงาน Google I/O สักครั้งในชีวิต! จะได้เจอคนเก่งๆ!
- ทำไม Google Play Store ถึงมีแอปแปลกๆ เยอะจังวะ?
- เกมมือถือนี่ทำเงินได้เยอะจริงดิ?
- AI จะมาแย่งงาน Mobile Developer รึเปล่าเนี่ย? ชักหวั่นๆ
- สำคัญ: portfolio ต้องดี! ไม่มี portfolio เค้าจะจ้างเราได้ไง!
ข้อมูลเพิ่มเติม (อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้):
Python เขียนแอพได้ไหม
ได้ Flet ใช้ Python สร้าง UI บน Flutter จริง
- ข้าม Dart เขียนแอปฯ ได้ทั้ง Desktop, Mobile, Web
- ประหยัดเวลา ลดความซับซ้อน
- ปี 2024 Flet พัฒนาต่อเนื่อง ฟีเจอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อดีคือลดภาระการเรียนรู้ภาษาใหม่ แต่ข้อจำกัดอาจมี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแอปฯ ที่ต้องการสร้าง และการสนับสนุนจาก community ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการก่อนตัดสินใจ ผมใช้ Flet เขียนโปรเจคส่วนตัวเล็กๆ ปีนี้ ใช้งานได้ดี แต่โปรเจคใหญ่ๆ อาจต้องพิจารณาหลายๆ ด้าน
อะไรคือข้อแตกต่างระหว่าง Native App กับ Web App?
โอเค ถามเรื่อง Native App กับ Web App ใช่มั้ย งงเหมือนกันตอนแรกๆ
คือ ผมจำได้ตอนทำโปรเจคจบปีที่แล้ว ใช้ React Native สร้าง Web App สำหรับร้านกาแฟแถว ม.เกษตร บางเขน ตอนนั้น เหนื่อยมาก โค้ดมันยุ่งยากกว่าที่คิดเยอะ แต่สุดท้ายก็เสร็จ ได้ใช้จริงด้วยนะ ลูกค้าสั่งผ่านแอปได้เลย สะดวกดี
แต่เพื่อนผม มันทำ Native App สำหรับ Android กับ iOS ต่างหาก มันใช้ Kotlin กับ Swift บอกว่าโค้ดมันเขียนง่ายกว่า ใช้ฟังก์ชั่นของระบบได้เต็มที่ เร็วกว่า ลื่นกว่า Web App ของผมเยอะเลย อิจฉามันเล็กน้อย แต่ก็ภูมิใจในผลงานตัวเองนะ
สรุปง่ายๆ ก็คือ
-
Web App: เปิดผ่านเบราว์เซอร์ได้เลย ไม่ต้องโหลด แต่ความเร็วอาจจะไม่เท่า Native App จำกัดการเข้าถึงฟีเจอร์ของอุปกรณ์ด้วย
-
Native App: ต้องโหลดลงเครื่อง แต่เร็วกว่า ใช้ฟีเจอร์ของเครื่องได้เต็มที่ แต่ต้องเขียนโค้ดแยกกันสำหรับแต่ละระบบปฏิบัติการ
ตอนนี้ผมกำลังทำแอปใหม่ เป็นแอปเกี่ยวกับการจองคิวตัดผม ยังไม่รู้จะทำแบบไหนเลย คิดหนัก Web App ง่ายกว่า แต่ Native App ดีกว่า ชั่งใจอยู่
เพิ่มเติมนิดนึง โปรเจคจบของผมเสร็จเดือนพฤษภาคม 2566 ใช้เวลาทำเกือบ 6 เดือน เหนื่อยมาก แต่ก็ดีใจที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ
การพัฒนาแอปแบบ native ต่างจากแบบ Hybrid อย่างไร
ท้องฟ้าสีชมพู… ตอนเช้าๆ แสงแดดอ่อนโยน ลมพัดเบาๆ ในสวนหลังบ้าน…
-
Native app: เกิดมาเพื่อระบบนั้นๆ เลย android ก็ android ios ก็ ios เหมือนบ้านที่สร้างบนที่ดินของตัวเอง… มั่นคง แข็งแรง
-
Hybrid app: เหมือนบ้านน็อคดาวน์… ประกอบจากที่อื่นแล้วเอามาวาง สวยนะ แต่… อาจจะไม่พอดีเป๊ะ
Hybrid คือ เว็บในคราบแอปฯ เว็บไซต์ที่แต่งตัวให้ดูเหมือนแอปฯ มือถือ ฟีเจอร์เยอะแยะตาแป๊ะไก่ แต่ข้างใน… คือเว็บ เข้าใจยัง?
Native App กับ Hybrid App แตกต่างกันอย่างไร
Native App กับ Hybrid App ต่างกันตรงไหน? อ่ะ มาดูกันแบบง่ายๆ
Native App เหมือนสั่งตัดเสื้อผ้าให้พอดีตัว คือ สร้างมาเพื่อระบบปฏิบัติการนั้นๆ (iOS, Android) โดยเฉพาะ ทำให้ดึงประสิทธิภาพเครื่องได้เต็มที่ เร็ว แรง สั่งได้ดั่งใจ
Hybrid App คล้ายๆ เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ปรับแก้ทรงได้ คือ เป็น Web App ที่ห่อหุ้มด้วย Native Shell อีกทีนึง เหมือนเอาเว็บไซต์มาใส่กรอบให้ดูเหมือนแอป แต่ประสิทธิภาพอาจสู้ Native ไม่ได้ เพราะต้องผ่านตัวกลางอีกชั้นนึง
-
Native App:
- ประสิทธิภาพสูง (High Performance)
- เข้าถึง Hardware โดยตรง (Direct Hardware Access)
- ประสบการณ์ใช้งานดี (Better User Experience)
- พัฒนาซับซ้อนกว่า (More Complex Development)
-
Hybrid App:
- พัฒนาข้าม Platform ได้ (Cross-Platform Development)
- ใช้ Web Technology (HTML, CSS, JavaScript)
- พัฒนาเร็วกว่า (Faster Development)
- ประสิทธิภาพอาจด้อยกว่า (Potentially Lower Performance)
สรุปสั้นๆ: Native App เหมือนรถสปอร์ต ส่วน Hybrid App เหมือนรถ SUV อเนกประสงค์กว่า แต่ความแรงอาจสู้ไม่ได้
ปล. เลือกอะไรก็แล้วแต่ “โจทย์” ของงานนะ ไม่มีอะไรดีที่สุดเสมอไป
แล้วเคยสงสัยไหมว่า “ประสิทธิภาพ” ที่พูดถึงนี่มันต่างกันขนาดไหน? บางทีอาจจะไม่ต่างกันจนรู้สึกได้ในแอปง่ายๆ แต่ถ้าเป็นเกมกราฟิกโหดๆ หรือแอปที่ต้องการประมวลผลเยอะๆ Native App จะเห็นผลชัดเจนกว่า
🤔 บางทีการเลือกระหว่าง Native กับ Hybrid ก็เหมือนการเลือกปรัชญาในการใช้ชีวิต…จะเน้นความ “สมบูรณ์แบบ” หรือ “ความยืดหยุ่น”?
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต