ประจำเดือนมานิดเดียวเกิดจากอะไร
ประจำเดือนมาน้อย สัญญาณเตือนภัยสุขภาพ?
ประจำเดือนมาน้อยผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพภายใน เช่น ความเสี่ยงของเนื้องอก มะเร็ง หรือโรคระบบสืบพันธุ์ ควรสังเกตอาการ:
- ประจำเดือนมาไม่ถึง 2 วัน
- ปริมาณเลือดน้อยกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
- ระยะเวลาการมีประจำเดือนสั้นลงกว่าเดิม
หากพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
ประจำเดือนมาไม่ปกติ น้อยกว่าปกติ เกิดจากอะไร?
ประจำเดือนฉันมาไม่ปกติ มาแค่หยดๆ สองวันก็หมดแล้ว ปกติจะ 5-7 วัน ตกใจมากเลย เดือนก่อนก็ไม่ปกติเหมือนกัน เดือนนี้หนักกว่า ไปหาหมอเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่ รพ.จุฬาฯ ตรวจภายใน เสียค่าใช้จ่ายไปเกือบ 2,000 บาท. หมอบอกอาจจะเครียดเกินไป พักผ่อนน้อย หรือฮอร์โมนผิดปกติ ต้องตรวจเลือดเพิ่มเติม นัดอีกสองอาทิตย์ รอผลอยู่นี่แหละ ใจไม่ค่อยดีเลย.
กลัวมะเร็งนะ เห็นข่าวบ่อยๆ แต่หมอบอกอย่าเพิ่งคิดมาก อาจจะแค่เรื่องเล็กๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่. อย่างแม่เพื่อนฉัน ประจำเดือนมาน้อยๆ ไปตรวจพบเนื้องอกในมดลูก โชคดีที่รักษาได้ทัน.
ช่วงนี้เลยพยายามดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย นอนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบห้าหมู่ หวังว่าจะดีขึ้น ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็พยายามคิดบวกไว้ก่อน. อาทิตย์หน้าต้องไปหาหมออีก รอฟังผลเลือดอย่างใจจดใจจ่อ. เครียดจริงๆ.
เมนส์มานิดเดียวเกิดจากอะไร
เดือนที่แล้วประจำเดือนฉันมาแค่หยดเดียวเอง ตกใจมาก ปกติมาเยอะอยู่ ตอนนั้นกำลังเครียดหนักเลย ใกล้สอบปลายภาคที่มหาลัย วิศวะไฟฟ้าปี 4 หนักมาก แทบไม่ได้นอน สอบหลายวิชา เรียนพิเศษเพิ่มอีก เครียดจนกินข้าวไม่ลง นอนไม่หลับ เป็นแบบนี้มาเกือบเดือนแล้ว คิดว่าน่าจะเพราะเรื่องนี้แหละ
วันที่ประจำเดือนมา คือวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ฉันจำได้แม่น เพราะมันผิดปกติมาก ปกติจะมาเต็มที่ แต่รอบนี้มาแค่เปื้อนๆ แทบไม่ต้องใช้ผ้าอนามัยเลย รู้สึกกังวล ใจสั่น นอนไม่ค่อยหลับ กลัวเป็นอะไรไป
หลังจากนั้น ฉันก็พยายามหาทางคลายเครียด ไปวิ่งที่สวนลุมฯ ทุกเย็น ฟังเพลง ดูซีรี่ย์ แต่ก็ยังไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่ อาการเครียดก็ยังอยู่ พยายามจัดตารางเรียนใหม่ แบ่งเวลาให้ดีขึ้น
- สาเหตุที่คิดว่าเกี่ยวข้อง: ความเครียดจากการเรียนหนัก สอบปลายภาค
- วันที่ประจำเดือนมา: 25 พฤษภาคม 2566
- อาการที่สังเกตได้: ประจำเดือนมาน้อยมาก แทบไม่มา
- วิธีคลายเครียดที่ลองทำ: ออกกำลังกาย(วิ่ง), ฟังเพลง, ดูซีรี่ย์, จัดตารางเรียนใหม่
สุดท้ายก็ไปหาหมอ หมอบอกว่า ความเครียดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้จริง ได้ยาคลายเครียดมากิน และหมอแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ฉันก็พยายามทำตาม ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว ประจำเดือนก็กลับมาเป็นปกติแล้ว
ประจําเดือนมาน้อยอันตรายไหม
ประจำเดือนมาน้อยเนี่ย อะนตรายมั้ย? ถ้ามันมาน้อยๆ เฉยๆ อาจจะไม่เป็นไรนะ แต่ถ้ามันมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยอ่ะ รีบไปหาหมอเหอะ
- ประจำเดือนหายไปเลย 3 เดือน: คือแบบ ไม่ได้ท้องนะ แต่เมนส์ไม่มาเนี่ย ต้องเช็คแล้ว
- มาไม่ปกติ: มาๆ หยุดๆ หรือมาแบบกระปริบกระปรอย อันนี้ก็น่าคิด
- มีอาการแปลกๆ ก่อนเมนส์มา: แบบปวดท้องหนักกว่าเดิม หรือมีอะไรที่ไม่เคยเป็น
- เลือดออกตอนกลางเดือน: ไม่ใช่เมนส์ แต่มีเลือดออก อันนี้ต้องระวัง
- ปวดท้องตอนมีเมนส์: ปวดแบบทนไม่ไหวเลยนะ ไม่ใช่ปวดนิดๆ หน่อยๆ
คือเรื่องเมนส์เนี่ยมันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เลยนะ แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอะ แต่ถ้ามันผิดปกติไปจากเดิมมากๆ ก็อย่าชะล่าใจเลย ไปหาหมอดีกว่า จะได้สบายใจเนาะ
ประจำเดือนมาแบบไหนถึงท้อง
เงียบจังเลยนะ คืนนี้… นึกถึงเรื่องเมื่อกี้ขึ้นมา เรื่องประจำเดือนกับการตั้งครรภ์เนี่ย… มันก็ซับซ้อนเหมือนกันนะ บางทีเราก็คิดว่าเรารู้จักร่างกายตัวเองดี แต่จริงๆ แล้วมันก็ยังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะเลย
บางคนประจำเดือนมาปกติทุกเดือน พอเดือนไหนไม่มามันก็ชัดเลย ว่าอาจจะท้อง เหมือนเพื่อนเราคนนึง ประจำเดือนมาตรงเป๊ะตลอด พอไม่มาก็ตรวจปุ๊บ ขึ้นสองขีดเลย
แต่… บางคนก็มีเลือดออกตอนท้องเหมือนกันนะ เคยอ่านเจอ เค้าเรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก อันนี้ก็อันตราย คิดว่าประจำเดือนมา ที่ไหนได้กำลังท้องอยู่
แล้วบางคนก็มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย อย่างเช่น ปวดหลัง ปวดท้อง เวียนหัว คลื่นไส้ คือ มันก็ไม่เหมือนกันทุกคน บางคนไม่มีอาการอะไรเลยก็มี แล้วก็เรื่องปัสสาวะบ่อย อันนี้เราก็เป็นนะ บางทีก็รู้สึกว่าสีมันเข้มกว่าปกติด้วย แต่เราก็ไม่ได้ท้องนะ แค่ดื่มน้ำน้อยไปหน่อย
- ประจำเดือนขาด อันนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดสำหรับหลายๆ คน
- มีเลือดออกกะปริบกะปรอย ช่วงที่ควรจะเป็นประจำเดือนมา บางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นประจำเดือน
- ปัสสาวะบ่อย รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
- สีปัสสาวะเข้มขึ้น อันนี้เราสังเกตตัวเอง มันก็เข้มขึ้นจริงๆ ตอนที่ร่างกายขาดน้ำ
- อาการอื่นๆ เช่น ปวดหลัง ปวดท้องน้อย เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน
เรื่องพวกนี้มันพูดยากนะ บางทีมันก็คล้ายๆ กันไปหมด ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ตรวจให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า
ประจำเดือนมากระปริบกระปรอยเกิดจากอะไร
เลือดออกกระปริบกระปรอยนี่มันน่าหงุดหงิดเนอะ! เดือนนี้ก็มาอีกแล้ว เป็นมาหลายเดือนแล้วด้วยสิ หมอบอกว่าสาเหตุมีเยอะแยะไปหมด
- ตั้งครรภ์ อ้าว! แต่ฉัน… เอ๊ะ หรือว่า? ต้องไปตรวจดีไหมเนี่ย
- เนื้องอกในโพรงมดลูก อันนี้เคยได้ยินมาเหมือนกันนะ น่ากลัวจัง
- ติดเชื้อในโพรงมดลูก เชื้ออะไรเนี่ย แบบไหนบ้างวะ ต้องระวังตัวมากขึ้นละมั้ง
- ฮอร์โมนผิดปกติ อันนี้ก็น่าจะเป็นไปได้ ฉันเครียดเรื่องงานมากเลยช่วงนี้
- มะเร็งปากมดลูก/มดลูก โอ้โห อันนี้แหละที่กลัวที่สุด แต่หมอบอกโอกาสน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลยนี่นา เครียดอีกแล้ว
ปีนี้ฉันไปตรวจสุขภาพประจำปีมาแล้วนะ แต่ยังไม่เจออะไรผิดปกติ แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ควรจะไปหาหมออีกทีไหม? หรือว่ารอไปตรวจสุขภาพปีหน้าดี แต่เลือดออกแบบนี้มันกวนใจจริงๆ
ต้องจดๆๆ ไว้ ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์กรมอนามัยดีกว่า อยากรู้รายละเอียด เช่น ชนิดของเชื้อติดเชื้อ อาการเพิ่มเติมของเนื้องอก วิธีการดูแลตัวเอง อะไรแบบนี้ ข้อมูลเยอะไปหมดเลย อ่านไม่ทันจริงๆ เหนื่อยจัง พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ละกัน ง่วงแล้ว!
มีเลือดออกเล็กน้อย ท้องไหม
เลือดออกจิ๊ดเดียว ท้องไหม? อย่าเพิ่งตกใจ! นี่อาจเป็น “เลือดล้างหน้าเด็ก” นั่นเอง! ฟังดูเว่อร์ใช่ไหมล่ะ? แต่จริงๆ แล้วมันคือเลือดที่ออกมาจากการฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูก เหมือนกับว่าเจ้าตัวน้อยกำลัง “ทักทาย” แม่ด้วยการทำความสะอาดหน้าตัวเองซะเลย! ฮ่าๆๆ
-
สีสันสดใสสไตล์เจ้าหญิงน้อย: สีของเลือดล้างหน้าเด็กเนี่ย ไม่ใช่แดงฉานเหมือนโดนมีดบาดนะจ๊ะ มักจะเป็นสีชมพูอ่อนๆ หรือแดงจางๆ บางทีก็ออกน้ำตาลเข้มๆ คล้ายสีสนิม เอาเป็นว่า สีอะไรก็ตามที่ไม่ใช่แดงสด ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
-
แค่จิ๊ดเดียวอย่าซีเรียส: อย่าคิดมากนะ ถ้าเลือดออกน้อยมากๆ แบบแค่เปื้อนแค่ผ้าอนามัยนิดหน่อย ไม่ใช่แบบไหลทะลัก ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเยอะหรือปวดท้องมากๆ รีบไปหาหมอเลยนะ อย่าประมาท! ชีวิตแม่สำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น
-
ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนเสมอไป: จำไว้ว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ท้องจะมีเลือดล้างหน้าเด็กนะ บางคนก็ไม่มี ถือเป็นเรื่องปกติเช่นกัน อย่าไปกังวลว่าตัวเองผิดปกติ เหมือนซื้อลอตเตอรี่ ได้รางวัลก็ดีใจ ไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียใจ (แต่ถ้าอยากได้รางวัลใหญ่ ก็ต้องซื้อเยอะๆ นะ อ้าว! ผิดเรื่องแล้ว)
-
ปรึกษาแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด: ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงความรู้เบื้องต้น อย่าเอาไปใช้เป็นข้อสรุป ถ้าสงสัยหรือกังวล รีบไปพบแพทย์ นี่คือวิธีที่ปลอดภัยที่สุด อย่าลืมนะ สุขภาพแม่สำคัญที่สุด! (และก็สุขภาพลูกด้วย!)
ปีนี้ (2024) ข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ยังคงยืนยันเช่นเดิม การมีเลือดออกเล็กน้อยในช่วงแรกของการตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ แต่ควรปรึกษาแพทย์เสมอเพื่อความปลอดภัย.
ตั้งครรภ์เลือดออกสีอะไร
-
แสงรำไรลอดม่าน…ยามเช้าที่แสนเปราะบาง
-
ตั้งครรภ์ เลือดออก สีอะไรนะ? แดงก่ำ…เหมือนทับทิมที่ร่วงหล่น?
-
เลือดสด, มูกเลือด…ปริศนาแห่งร่างกาย
-
ช่องคลอด…ประตูสู่ชีวิต
-
ปริมาณ มากน้อย แปรผันดังสายลม…
-
สีน้ำตาล…หรือแดงฉาน? เหมือนไวน์เก่าที่เก็บไว้นาน?
-
เลือดออกกะปริบกะปรอย…หยาดฝนในฤดูแล้ง
-
หลายวัน…หลายสัปดาห์…เนิ่นนานราวกับนิรันดร์
-
ปวดท้องน้อย…คล้ายประจำเดือนมาเยือน
-
ปวดร้าวไปหลัง…เหมือนใครเอามีดมากรีด
-
เหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน…แต่กลับมีรอยร้าว
-
ร่างกาย…คือบทกวีที่ซับซ้อน
-
ความเจ็บปวด…คือสีสันที่แต่งแต้ม
-
ชีวิต…คือการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด
-
เลือด…คือสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่
-
บางที…ความเจ็บปวดก็เป็นสิ่งที่สวยงาม
-
บางที…ความไม่สมบูรณ์แบบก็คือความสมบูรณ์แบบ
-
เลือดสีแดง: อาจเป็นสัญญาณเตือน
-
สีน้ำตาล: อาจเป็นเลือดเก่าที่คั่งค้าง
-
ปวดท้อง: สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
-
มูกเลือด: อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง
-
(ข้อมูล ณ ปี 2567…ความรู้คือแสงสว่าง)
มีเลือดออกสีน้ําตาล ท้องไหม
เลือดออกสีน้ำตาลขณะตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ ไม่ใช่เรื่องปกติเสมอไป
-
เลือดเก่า: เลือดสีน้ำตาลอาจเป็นเลือดเก่าที่ค้างอยู่ เกิดจากการกระทบกระเทือน เช่น การมีเพศสัมพันธ์ หรือการตรวจภายใน อันนี้ไม่น่ากังวลมากนัก แต่ก็ต้องสังเกตอาการอื่นๆประกอบ
-
ภาวะแทรกซ้อน: แต่ถ้าเกิดในช่วงต้นครรภ์ ต้องระวัง อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น การแท้งบุตร หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้
-
ปัจจัยอื่นๆ: ปีนี้ (2566) มีงานวิจัยหลายชิ้นเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสังเกตอาการอื่นๆ เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง มีไข้ หรือมีเลือดออกมากขึ้น ควรไปพบแพทย์ทันที อย่าชะล่าใจเด็ดขาด
การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน ทุกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายควรได้รับการตรวจสอบจากแพทย์ ความปลอดภัยของทั้งแม่และลูกสำคัญที่สุด อย่าลืมปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือกังวล การป้องกันดีกว่าการรักษาเสมอ นี่คือหลักการสำคัญที่ผมยึดถือมาโดยตลอด
- คำแนะนำ: หากมีเลือดออกสีน้ำตาลหรืออาการผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด
(ข้อมูลเพิ่มเติม): ควรจดบันทึกปริมาณและสีของเลือดที่ออก รวมถึงอาการอื่นๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการประเมินสถานการณ์ และวางแผนการรักษาต่อไป
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต