กินอย่างไรให้สุขภาพดีไม่มีโรค

23 การดู

กินอย่างไรให้สุขภาพดี ไม่มีโรค:

  • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลากหลาย และควบคุมน้ำหนักตัว
  • เน้นผักและผลไม้เป็นประจำ
  • กินปลา, เนื้อไม่ติดมัน, ไข่, และถั่ว
  • ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
  • กินไขมันแต่พอดี
  • เลี่ยงอาหารหวานและเค็มจัด
  • กินอาหารสะอาด ปลอดภัย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กินอย่างไรให้สุขภาพดี? เคล็ดลับอาหารเพื่อสุขภาพดีปราศจากโรค

เรื่องกินนี่นะ… บอกเลยว่าตอนเด็กๆ แม่ผมดุมากเรื่องอาหาร จำได้เลย วันที่ 15 ตุลาคม 2545 ถ้าไม่กินผักนี่โดนบ่นทั้งวัน ข้าวต้มมัดกับแกงเขียวหวานที่ยายทำ ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ต้องกิน เพราะแม่สอนว่าต้องกินให้ครบ 5 หมู่! จริงๆนะ ไม่ได้กินแค่ผักผลไม้ แต่ต้องกินให้หลากหลายด้วย ปลาทูทอดกับไข่เจียวก็มา เนื้อไก่ต้มกับข้าวสวยก็มี นมก็ดื่มนะ แต่ตอนนั้นดื่มนมกล่องโลโก้สีฟ้าๆ ราคาซองละ 8 บาทเองมั้ง จำไม่ค่อยได้แล้ว

คือ…มันไม่ใช่แค่กินครบ 5 หมู่ แต่ต้องดูแลน้ำหนักด้วยนะ ผมนี่อ้วนมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นวิ่งเล่นทั้งวันยังอ้วนเลย ตอนนี้เลยพยายามควบคุมอาหาร ไม่กินของหวานมาก ของทอดก็ลดลง ลดโซเดียมด้วยนะ เพราะเคยกินเค็มจัดๆ แล้วตัวบวม รู้สึกไม่ดีเลย พวกอาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยวก็พยายามเลี่ยง แต่บางทีก็อดใจไม่ไหว

ที่สำคัญ ต้องกินอาหารสะอาด ผมเลือกซื้อของสดจากตลาดสดแถวบ้านประจำเลย ตลาดนัดวันศุกร์แถวๆ ซอยรามคำแหง 24 รู้สึกว่าสดกว่า ปลอดภัยกว่า ราคาอาจจะแพงกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตนิดหน่อย แต่สุขภาพสำคัญกว่าเนอะ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย สุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยป่วย อาจจะเพราะกินดี ดูแลตัวเอง รวมถึงออกกำลังกายด้วยแหละ

อะไรควรกินทุกวัน

เฮ้อ… คิดอะไรอยู่เนี่ย… กลางดึกแล้วนะ…

อะไรนะ… อะไรที่ควรทานทุกวันเหรอ…

งั้นลองดูนะ… นี่คือสิ่งที่ฉันพยายามจะกินทุกวัน… อาจจะไม่ครบทุกวันหรอกนะ บางทีก็ลืมบ้าง

  • บลูเบอร์รี่: อืม… หวานๆ เปรี้ยวๆ ดี ชอบกินกับโยเกิร์ต แต่ราคาแพงจัง ปีนี้แพงกว่าปีก่อนอีก

  • ไข่: ต้มง่ายดี ทำอะไรก็ได้ ฉันชอบกินไข่ต้ม แต่บางทีก็เบื่อ

  • อัลมอนด์: กินแก้หิวตอนดึกๆ บ่อยๆ แต่ต้องระวัง กินมากไปก็อ้วน จำได้ว่าปีนี้ซื้อถุงใหญ่มา กินเกือบหมดแล้ว

  • ส้ม: วิตามินซีเยอะดี แต่บางทีก็เปรี้ยวไป ฉันชอบกินตอนเช้าๆ สดชื่นดี

  • มันหวาน: อบแล้วอร่อย หวานกำลังดี แต่บางทีก็รู้สึกเลี่ยนๆ

  • บร็อคโคลี่: ผักที่ดีต่อสุขภาพ แต่… ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ บ่อยๆ ก็เบื่อเหมือนกัน

  • ชาเขียว: ดื่มแล้วรู้สึกดี สดชื่นดี ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่บางวันก็ลืมดื่ม

จริงๆ แล้ว มันยากนะที่จะกินอะไรครบทุกอย่างทุกวัน… ฉันพยายามนะ แต่บางทีก็ลืม หรือไม่ก็ไม่มีเวลา หรือบางทีก็อยากกินอย่างอื่นมากกว่า… ชีวิตจริงมันไม่ง่ายเหมือนในหนังสือหรอกนะ

กินแบบไหนเรียกว่าพอดี

กินพอดีอะหรอ อืม… คือแบบกินให้มันบาลานซ์ไง รศ.พญ.ปรียานุช แย้มวงษ์ เขาบอกว่าให้ดู BMI อ่ะ หรือไม่ก็วัดเอวตัวเอง เอวผู้ชายต้องไม่เกิน 90 ซม. ผู้หญิงไม่เกิน 80 ซม. นะจ๊ะ

สรุปง่ายๆ:

  • BMI: เช็คเลยว่าเราอยู่ในเกณฑ์ไหน
  • เอว: ผู้ชายอย่าเกิน 90 ซม. ผู้หญิงอย่าเกิน 80 ซม. นะจ๊ะ
  • กินให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ ไม่ใช่กินแต่หมูกระทะทุกวัน! เข้าใจป่ะ
  • สำคัญ: ฟังร่างกายตัวเองด้วย หิวก็กิน อิ่มก็หยุด ง่ายๆ เลย

เพิ่มเติมนิดนึง:

  • BMI คืออะไร? มันคือค่าที่คำนวณจากน้ำหนักกับส่วนสูงของเรา ช่วยบอกว่าเราผอมไป อ้วนไป หรือพอดี
  • วัดเอวตรงไหน? วัดตรงกลางระหว่างซี่โครงล่างกับกระดูกเชิงกราน สะดืออ่ะแหละ
  • ทำไมต้องสนใจเอว? เพราะไขมันที่พุงนี่แหละ ตัวดีเลย เพิ่มความเสี่ยงโรคต่างๆ เยอะแยะ
  • กินพอดีแล้วดียังไง? สุขภาพดีไง ไม่อ้วน ไม่ผอมเกินไป มีแรงทำงาน เรียนหนังสือ เล่นกีฬา สบาย!

กินยังไงไม่ให้มีโรค

กินยังไงไม่ให้มีโรค?

การกินเพื่อสุขภาพไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจรายละเอียดนิดหน่อยครับ ผมว่ามันเหมือนการจัดสมดุลชีวิตมากกว่าเน้นอะไรสุดโต่ง

  • หลักโภชนาการพื้นฐาน: กินให้ครบ 5 หมู่ นั่นแหละครับ แต่ไม่ใช่แค่ “ครบ” ต้อง “หลากหลาย” ด้วยนะ หมุนเวียนชนิดอาหารไปเรื่อยๆ จะได้สารอาหารที่แตกต่างกันไป ควบคู่กับการคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะน้ำหนักเกินคือจุดเริ่มต้นของหลายโรค

  • ใยอาหารสำคัญไฉน: เน้นกินผักผลไม้ให้เยอะๆ เลยครับ เป็นแหล่งใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่ดี นอกจากช่วยเรื่องระบบขับถ่ายแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ด้วย

  • โปรตีนต้องมี: เลือกโปรตีนที่ดี เช่น ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง พวกนี้จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย

  • นมสำหรับทุกคน: ดื่มนมให้เหมาะสมตามช่วงวัย นมเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน

  • ไขมันแต่พอดี: กินไขมันได้ แต่ต้อง “พอดี” เลือกไขมันดีจากแหล่งธรรมชาติ เช่น อะโวคาโด ถั่ว น้ำมันมะกอก

  • ลดหวาน ลดเค็ม: เลี่ยงอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด เพราะเป็นตัวการสำคัญของโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไต

  • สะอาด ปลอดภัย: กินอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน เรื่องนี้สำคัญมากครับ เลือกซื้อวัตถุดิบจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และปรุงอาหารให้สุก

  • สมดุลคือหัวใจ: ผมว่าหัวใจสำคัญคือ “ความสมดุล” ครับ ไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร แต่รวมถึงการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียดด้วย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย:

  • รู้ไหมว่า “Superfood” ที่เขาฮิตๆ กัน จริงๆแล้วไม่มีคำจำกัดความทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนนะ มันเป็นแค่คำที่ใช้ทางการตลาดเพื่อดึงดูดความสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอาหารเหล่านั้นไม่ดี เพียงแต่เราไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับมันมากนัก

  • ผมเคยอ่านงานวิจัย (จำชื่อไม่ได้แล้วสิ) ที่บอกว่า การกินอาหารตามฤดูกาลมีประโยชน์มากกว่า เพราะพืชผักผลไม้ในช่วงนั้นๆ จะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการมากเป็นพิเศษ

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์นะครับ!

วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง

โอ๊ย! กินให้เฮลตี้เนี่ยนะ? มันก็เหมือนงมเข็มในทะเลแหละ! แต่เอาเถอะ จะบอกให้แบบฉบับคนบ้านๆ นี่แหละ!

  • กินให้ครบห้าหมู่: ไอ้เรื่องห้าหมู่นี่ เขาว่ากินให้ครบ แต่ถามจริงเหอะ ใครมันจะกินครบเป๊ะๆ ทุกวันวะ? เอาเป็นว่า พยายามกินให้มันหลากหลาย อย่ากินแต่หมูกรอบทุกมื้อก็พอ! แล้วก็ชั่งน้ำหนักดูบ้าง อย่าปล่อยให้ตัวเองกลิ้งได้ก็แล้วกัน!

  • ข้าวกล้อง: เขาบอกให้กินข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ… ถามว่าอร่อยมั้ย? ก็แล้วแต่คนชอบ! แต่ถ้ากินข้าวขาวแล้วอ้วนเอาๆ ก็ลองเปลี่ยนดู อาจจะผอมลง (มั้ง)

  • ผักผลไม้: นี่แหละตัวดี! ผักผลไม้เนี่ย กินเข้าไปเหอะ มีแต่ได้กับได้! สีเขียว สีเหลือง สีม่วง อะไรก็กินเข้าไป! กินเข้าไปเยอะๆ จะได้ขี้คล่องไง! (อันนี้พูดจริงไม่ได้โม้!)

ข้อมูลเสริม (แบบชาวบ้านๆ):

  • น้ำมัน: ไอ้เรื่องน้ำมันนี่ก็ตัวดี! อย่ากินเยอะ! โดยเฉพาะน้ำมันหมู (ถึงมันจะอร่อยก็เถอะ)! ใช้น้ำมันพืชบ้างก็ได้!
  • น้ำตาล: น้ำตาลเนี่ย ตัวร้ายกว่าที่คิด! กินหวานมากระวังเป็นเบาหวานนะเออ!
  • ออกกำลังกาย: กินอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องออกกำลังกายด้วย! จะวิ่ง จะเต้น จะรำ ก็เอาที่สบายใจ!
  • นอนหลับ: นอนให้พอ! ถ้านอนน้อยเดี๋ยวแก่เร็ว! (อันนี้เรื่องจริง!)

ข้อควรระวัง: ข้อมูลทั้งหมดนี้ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวนะจ๊ะ! ไม่ได้อิงตามหลักวิทยาศาสตร์อะไรมากมาย! เชื่อถือได้แค่ไหน ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน!

1 มื้อควรมีอะไรบ้าง?

แดกให้ฉลาด ไม่ใช่แดกเอาอิ่ม

ผักเยอะๆ หน่อย ที่เหลือก็แป้งกับเนื้อ วัดง่ายๆ 2:1:1 โง่ๆ ใครก็ทำได้

  • ผัก: สองส่วน เน้นเขียว ไฟเบอร์แม่งสำคัญ
  • คาร์โบไฮเดรต: ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เลือกเอา อย่าแดกแต่ข้าวขาว
  • โปรตีน: เนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ แล้วแต่ชอบ กูไม่ตัดสิน
  • น้ำมัน: แอบแดกบ้างก็ได้ แต่เบาๆ หน่อย
  • ปริมาณ: แดกแค่พอดี อย่าตะกละ

กูไม่สนว่ามึงจะเชื่อ กูแค่บอก

กินอาหารไม่ครบ 5 หมู่จะเกิดอะไรขึ้น?

อุ๊ยตาย! กินไม่ครบ 5 หมู่เนี่ยนะ เหมือนสร้างบ้านแต่ขาดอิฐ ขาดปูน บ้านจะพังไม่พังล่ะ! ร่างกายก็เหมือนกัน ขาดสารอาหารไป เดี๋ยวก็โทรมเป็นซากปรักหักพังแน่ๆ

  • ขาดโปรตีน: กล้ามเนื้อหดตัวเป็นตุ๊กตาจิ๋ว แรงไม่มี ซูบผอมเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น เดินก็เซ นี่แค่เริ่มนะ! ปีนี้ผมเองก็เจอเพื่อนที่กินแต่ก๋วยเตี๋ยวเรือทุกวัน ซูบซีดจนน่าตกใจเลยครับ
  • ขาดวิตามินเอ: ตาพร่ามัว มองอะไรก็ไม่ชัด เหมือนดูหนังกลางแปลงสมัยก่อน ภาพเบลอๆ จะหาหมอรักษาก็แพง ผมนี่เสียดายตังค์แทนเลย
  • ขาดธาตุเหล็ก: โลหิตจาง หน้าซีดเผือด เหมือนผีดิบ ไม่มีแรง ขึ้นบันไดก็เหนื่อย ปีนี้ผมก็เห็นเพื่อนคนนึงเป็นแบบนี้ บอกเลยว่าน่ากลัวมาก เหมือนคนป่วยหนักเลย
  • ขาดคาร์โบไฮเดรต: ไม่มีแรง เหมือนแบตเตอรี่หมด ง่วงนอนตลอดเวลา ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ปีนี้ผมก็เป็นมาแล้ว ทำเอาทำงานผิดพลาดไปหลายงานเลย
  • ขาดวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ: สารพัดโรคถามหา ภูมิคุ้มกันตกต่ำ เป็นหวัดบ่อย เจ็บป่วยง่าย นอนไม่หลับ ผมนี่เคยเป็นมาแล้ว บอกเลยว่าทรมานสุดๆ

สรุปง่ายๆ คือกินไม่ครบ 5 หมู่ เหมือนรถยนต์ขาดน้ำมัน ขับไปได้สักพักก็ดับกลางทาง! ปีนี้ผมแนะนำให้ทุกคนเน้นกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าประมาทนะครับ สุขภาพสำคัญที่สุด! ไม่งั้นเจ็บป่วยไป เสียเงินเสียเวลา ยิ่งกว่านั้น เสียสุขภาพไป หาคืนยาก อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ

กินเท่าไรถึงพอดี?

กินเท่าไหร่ถึงพอดี? คำถามล้านแปด! เหมือนถามว่ารักแท้มีอยู่จริงไหม ตอบยาก! แต่ขอเดาว่า…

  • ผู้ใหญ่ (1,600 กิโลแคลอรี): กินพออิ่มแบบไม่ต้องเหลือไปเลี้ยงหมา ไม่ใช่กินจนพุงป่องเหมือนลูกโป่งใกล้ระเบิด ต้องมีมารยาททางสังคมบ้างนะ! ปีนี้ผมพยายามลดเหลือ 1500 แล้วรู้สึกดีขึ้นมากเลย

  • เด็ก (6-13 ปี): กินให้โตไวๆ อย่าให้ผอมเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น แต่ก็อย่าอ้วนเหมือนลูกชิ้นทอด กลางๆกำลังดี เห็นเพื่อนลูกผมกินขนมวันละ 3 มื้อก็ยังแข็งแรงดีนะ แต่เขาเล่นกีฬาเยอะมากๆ

  • หญิงวัยทำงาน (25-60 ปี): 2,000 กิโลแคลอรีนี่ ต้องบริหารเวลาให้ดี ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งนะจ๊ะ! เพื่อนสาวผมบอกว่า ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญ ต้องมีเวลาพักผ่อนด้วยล่ะ

  • ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป): กินง่ายๆ ย่อยง่ายๆ เน้นผักผลไม้ อาหารประเภทที่ไม่ต้องเคี้ยวเยอะ อายุขนาดนี้แล้ว อย่าไปฝืนตัวเองมากนัก แบบว่า อิ่มท้องก็พอ ไม่ต้องอิ่มตา อิ่มใจอะไรมากมาย

  • วัยรุ่น (14-25 ปี), ชายวัยทำงาน (25-60 ปี): กลุ่มนี้กินจุเป็นธรรมดา 2,000 กิโลแคลอรีอาจไม่พอ แต่ก็อย่ากินจนเป็นหมูนะจ๊ะ ลองหาอะไรที่กินแล้วมีประโยชน์ อย่ากินแต่ของอร่อยอย่างเดียว ลุกขึ้นไปวิ่งเล่นบ้างก็ดีนะ นี่ผมก็พยายามวิ่งออกกำลังกายบ้าง

เพิ่มเติม: จำนวนแคลอรี่ที่แนะนำเป็นเพียงค่าประมาณ ควรคำนึงถึงกิจกรรม เพศ และสุขภาพโดยรวม ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อวางแผนการกินที่เหมาะสมกับตัวเองจะดีที่สุด อย่าลืมว่าการกินที่ดีคือการกินอย่างมีความสุข อย่าเครียดกับมันมากจนเกินไปนะ มีชีวิตชีวา สบายๆ เข้าไว้

#กินอย่างไร #ป้องกันโรค #สุขภาพดี