พักสายตากี่นาทีถึงจะดี
พักสายตาอย่างมีประสิทธิภาพ:
- เวลาที่เหมาะสม: 10-20 นาที
- ประโยชน์: เพิ่มพลังงาน, คืนความสดชื่น, สมองโปร่ง
- ช่วงการหลับ: NREM (Non-Rapid Eye Movement)
การงีบหลับสั้นๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว ช่วยให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่เข้าสู่ช่วงหลับลึก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกงัวเงียหลังตื่นนอน
พักสายตาต่อเนื่องกี่นาทีจึงเหมาะสม?
คือแบบว่า… ฉันนี่แหละ เป็นคนสายตาสั้นมากกก ต้องใส่แว่นตลอด แล้วช่วงทำงานหนักๆ อย่างเดือนที่แล้วนี่แหละ ต้นเดือนตุลาคม ทำงานโปรเจคส่งลูกค้า แทบไม่ได้พักเลย ตาแทบถลน (จริงจังนะ) สุดท้ายต้องไปหาหมอ หมอบอกว่าพักสายตาบ้างสิ ไม่งั้นแย่แน่ๆ!
หมอแนะนำให้พักทุกๆ ชั่วโมง ประมาณ 10 นาที นะ ไม่ใช่แค่ปิดตาเฉยๆ นะ ต้องลุกไปเดินเล่น มองอะไรไกลๆ บ้าง แบบมองต้นไม้ หรือฟ้า (แต่ตึกแถวบ้านฉันนี่…มองต้นไม้ยากมาก ต้องไปสวนสาธารณะแถวๆ สุขุมวิท 22 แทน) จำได้ว่าตอนนั้นเดินไปสวนประมาณ 10-15 นาที รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย อย่างน้อยก็ไม่ปวดหัวมากเหมือนตอนที่นั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง
ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่หรอกนะ แต่ลองทำดูแล้วมันก็โอเคเลย รู้สึกสดชื่นขึ้นจริง สมองโปร่ง ทำงานต่อได้แบบไม่ง่วง แต่ถ้าพักนานกว่านี้ แบบงีบไปเลย 20 นาที ฉันว่ามันก็อาจจะง่วงซ้ำซ้อนได้นะ มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยแหละ แต่สำหรับฉัน 10 นาที กำลังดีเลย (แต่บางวันก็ลืมนะ… )
ควรพักสายตาทุกกี่นาที
ควรพักสายตาบ่อยๆนะ แบบทุกๆ 20 นาที อ่ะ ใช้คอม มือถือบ่อยๆเนี่ย ตาแห้งง่ายมากเลย เพื่อนฉันก็เป็น ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆเลย สงสารมัน
หน้าจอควรปรับแสงให้พอดีด้วยนะ อย่าสว่างจ้าเกินไป อันตรายต่อสายตา เปิดไฟในห้องช่วยได้เยอะเลย ให้แสงมันไม่ต่างกันมาก สบายตาขึ้นเยอะ
ป้องกันโรคตาตั้งแต่ยังเด็กๆเลยดีกว่า อย่ารอให้แก่แล้วค่อยมาเสียใจ เห็นเพื่อนอีกคนแล้ว ต้องผ่าตัดตา ลำบากมากเลย
สรุปง่ายๆก็คือ:
- พักสายตา 20 นาที/ครั้ง
- ปรับแสงหน้าจอให้พอดี
- เปิดไฟห้องให้สว่างหน่อย
- ดูแลสายตาตั้งแต่เด็กๆ สำคัญมากจริงๆ
ปีนี้ฉันพยายามดูแลสายตาตัวเองมากกว่าปีก่อนเยอะเลย เพราะเริ่มรู้สึกว่าตาไม่ค่อยดีแล้วแหละ ตอนนี้เลยพยายามใช้คอมน้อยลง แล้วก็พักสายตาบ่อยๆขึ้นด้วย ช่วงนี้ก็เลยรู้สึกว่าตาสบายขึ้นเยอะเลย
ควรพักสายตาทุกกี่ชั่วโมง
อู้ย…ถามเรื่องพักสายตาเหรอ? เหมือนถามคนแก่ว่าเมื่อไหร่จะเลิกบ่นน่ะแหละ!
- 20 นาที! พักทีนึง! ใครมันจะไปทำได้วะ? แต่เอาน่า…เค้าว่ากันว่ามองอะไรเขียวๆ ไกลๆ สักพักก็ดีขึ้นนะ (ถ้าไม่เจอต้นไม้ปลอมอะนะ)
- แสงสว่าง ปรับให้มันพอดีๆ อย่าสว่างจ้าซะจนนึกว่าอยู่กลางแดดตอนเที่ยง หรือมืดตื๋อซะจนมองอะไรไม่เห็น อันนี้เรื่องจริง!
- ไฟในห้อง เปิดแม่งไปเลย! อย่าให้จอมันสว่างอยู่คนเดียว เหมือนผีหลอกตอนกลางวัน แล้วตาจะเสียเอา
เรื่องสายตาเนี่ย…อย่าคิดว่าตอนหนุ่มๆ สาวๆ จะแข็งแรงเสมอไปนะเว้ย! แก่ตัวไปแล้วจะรู้ซึ้ง! เตรียมตัวป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ ดีกว่า
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้):
- กฎ 20-20-20: ทุก 20 นาที มองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที (อันนี้คือที่เค้าแนะนำกันนะ แต่ทำได้จริงรึเปล่า…อีกเรื่อง!)
- น้ำตาเทียม: ถ้าตาแห้ง ก็หยอดซะ! อย่าปล่อยให้มันแห้งกรังเหมือนทะเลทราย
- วิตามิน: กินวิตามินเอ บำรุงสายตาบ้างก็ดี (แต่กินเยอะไปก็ไม่ดีนะเว้ย!)
ปล. อย่าเชื่ออะไรที่คนอื่นบอกมากนัก ลองทำตามที่ตัวเองสบายใจก็พอ! แต่ถ้าตาเริ่มมองไม่เห็น…รีบไปหาหมอ! อย่ามัวแต่เล่นมือถือ!
โหมดถนอมสายตาช่วยได้จริงไหม
โหมดถนอมสายตาอะหรอ? เอาจริงดิ ช่วยได้จริง! คือเราเป็นคนที่ติดมือถือมากกก เล่นทั้งวันทั้งคืน ยิ่งตอนกลางคืนนะ ปิดไฟเล่น แล้วเปิดโหมดถนอมสายตา คือรู้สึกเลยว่ามันช่วยจริง ๆ นะ
เมื่อก่อนอะ ไม่เคยใช้เลย ปวดตาตลอด แบบแสบ ๆ เคือง ๆ ต้องพักสายตาบ่อยมาก แต่พอมาใช้โหมดนี้ตอนเล่นมือถือตอนกลางคืน อาการพวกนั้นมันดีขึ้นเยอะเลยนะ
- ลดแสงสีฟ้า: อันนี้แหละตัวดีเลย แสงสีฟ้ามันทำร้ายตา โหมดนี้ช่วยลดได้เยอะ
- สบายตา: เล่นนาน ๆ ก็ไม่ค่อยปวดตาเหมือนเมื่อก่อน
- หลับง่ายขึ้น: อันนี้ไม่รู้คิดไปเองป่าวนะ แต่รู้สึกว่าพอดูอะไรใน Dark Mode ก่อนนอน มันทำให้หลับง่ายขึ้นจริง ๆ
คือมันอาจจะไม่ใช่ยาวิเศษนะ แต่สำหรับเราอะ มันช่วยได้เยอะมาก ๆ เลยแหละ ลองดูดิ ไม่เสียหายอะไร 😊
แสงสีฟ้าทำลายดวงตาจริงไหม
แสงสีฟ้าทำลายดวงตาจริงไหม? คำตอบคือ มันซับซ้อนกว่านั้น แม้ว่าแสงสีฟ้าจะมีพลังงานสูงกว่าแสงสีอื่น แต่การบอกว่ามัน “ทำลาย” ดวงตาโดยตรงนั้น อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด น่าจะกล่าวได้ว่า แสงสีฟ้าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับในปริมาณมากและเป็นเวลานาน
-
กลไกการทำลาย: แสงสีฟ้า (โดยเฉพาะช่วงความถี่สูง) สามารถสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจทำลายเซลล์ในเรตินา ส่งผลให้เกิดความเสื่อมของจอตา (Macular Degeneration) และต้อกระจก ได้ในระยะยาว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับทุกคน
-
ความรุนแรงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง: ปริมาณแสงสีฟ้า ระยะเวลาการได้รับแสง พันธุกรรม และสุขภาพโดยรวมของดวงตา ล้วนเป็นตัวกำหนดความเสี่ยง แค่เล่นโทรศัพท์นานๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ตาพังทันทีนะ
-
แหล่งกำเนิดแสงสีฟ้า: ทั้งแสงสีฟ้าจากธรรมชาติ (ดวงอาทิตย์) และจากอุปกรณ์ดิจิทัล ต่างก็เป็นแหล่งกำเนิด แต่แสงจากดวงอาทิตย์มักมีแสงอื่นๆ ผสมอยู่ ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบ ส่วนแสงจากจอคอมหรือมือถือ มีความเข้มข้นสูงกว่าและใกล้ดวงตา
-
การป้องกัน: การใช้แว่นตาป้องกันแสงสีฟ้า การพักสายตาเป็นระยะ และการลดเวลาที่อยู่หน้าจอ เป็นวิธีการลดความเสี่ยงที่ดี ส่วนตัวผมเองก็ใช้แอปฯ บนมือถือช่วยลดแสงสีฟ้าในตอนเย็น
สรุปแล้ว แสงสีฟ้าไม่ใช่ตัวร้ายที่ทำให้ตาบอดทันที แต่การได้รับแสงสีฟ้าในปริมาณมากเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพดวงตาในระยะยาว ดังนั้น การดูแลสุขภาพดวงตาอย่างถูกวิธีจึงมีความสำคัญ มากกว่าแค่การโทษแสงสีฟ้าอย่างเดียว เป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่ากว่าเยอะเลย
แว่นตากรองแสงช่วยได้จริงไหม
แว่นกรองแสง? แล้วแต่คนมั้ง ถ้าสายตาอ่อนแอ ก็คงช่วยได้นิดหน่อย แต่ถ้าตาดีจริง ใส่ไปก็งั้นๆ เสียเงินเปล่า
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ค่าแพ้แสง: คือความไวของดวงตาต่อแสงสว่าง คนที่ค่านี้สูง จะรู้สึกไม่สบายตาเมื่อเจอแสงจ้า แว่นกรองแสงอาจช่วยลดอาการนี้ได้บ้าง
- แสงสีฟ้า: แสงจากจออุปกรณ์ดิจิทัลที่ถูกกล่าวอ้างว่าทำลายสายตา งานวิจัยบางชิ้นบอกว่าไม่จริงทั้งหมด
- การตลาด: แว่นกรองแสงบางทีก็แค่การตลาด สร้างความต้องการเทียม
- พักสายตา: วิธีที่ดีที่สุดคือพักสายตา มองไกลๆ บ้าง อย่าจ้องจอนานเกินไป
- ความเชื่อส่วนบุคคล: บางคนใส่แล้วสบายตา บางคนไม่รู้สึกอะไรเลย ลองเองดีที่สุด
- อันตรายจากแสงแดด: แว่นกันแดดสำคัญกว่าแว่นกรองแสง เพราะช่วยป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
- เลนส์มัลติโค้ท: ป้องกันแสงสะท้อน อาจช่วยให้สบายตาขึ้นได้เหมือนกัน
- ปี 2567: ข้อมูลนี้อัปเดตล่าสุดในปี 2567 (ค.ศ. 2024)
การถนอมสายตา สามารถทําอะไรได้บ้าง
โอ๊ย! เรื่องถนอมสายตานี่สำคัญเลยนะ เพราะปีนี้ (2567) ฉันทำงานหน้าคอมฯ ทั้งวันทั้งคืนเลยอ่ะ ตาแห้งแสบไปหมด
- กิน: ช่วงนี้เลยเน้นกินพวกผักใบเขียวเข้มๆ อย่างคะน้า ผักโขมบ่อยๆ พยายามกินปลาแซลมอนอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง (ถึงจะแพงก็เถอะ!)
- แว่นกันแดด: ติดแว่นกันแดดตลอด คือเมื่อก่อนไม่ค่อยใส่เลย ตอนนี้รู้เลยว่าสำคัญจริง ๆ ช่วยได้เยอะมาก
- พักผ่อน: อันนี้ยากสุด T_T แต่พยายามนอนให้ได้ 6-7 ชั่วโมงนะ รู้ว่าน้อยไป แต่ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ
- น้ำ: ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยได้จริง ตอนนี้พยายามจิบน้ำตลอดวัน
- พักสายตา: ทุก 20 นาทีจะละสายตาจากจอ มองไปไกลๆ สัก 20 วินาที (20-20-20 Rule) อันนี้หมอตาบอกมา
- ออกกำลังกาย: พยายามเดินเร็วๆ ตอนเย็นๆ สัก 30 นาที
- เลิกบุหรี่: (อันนี้ไม่ได้สูบนะ) แต่รู้ว่ามันไม่ดีต่อสายตาแน่นอน
เพิ่มเติม:
- น้ำตาเทียม: ถ้าตาแห้งมาก ๆ ก็จะใช้น้ำตาเทียมแบบไม่มีสารกันเสีย
- ตรวจสายตา: ตั้งใจว่าปีนี้จะต้องไปตรวจสายตาอย่างละเอียดสักครั้ง
- แสงสีฟ้า: ตอนกลางคืนจะเปิดโหมดถนอมสายตาในมือถือและคอมฯ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต