การฉีดยา IV คืออะไร
การฉีดยา IV คือการนำยาหรือสารเข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านเส้นเลือดดำ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์เร็วที่สุด วิธีนี้ใช้เมื่อต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว มักฉีดบริเวณเส้นเลือดดำที่แขน
การฉีดยา IV คืออะไร? วิธีการและประโยชน์
คือแบบนี้ จำได้ตอนไปหาหมอที่ รพ.จุฬาฯ เมษาปีที่แล้ว ตอนนั้นป่วยหนักมาก ไข้ขึ้นสูง หมอเลยสั่งน้ำเกลือ เข็มก็เสียบที่แขนนี่แหละ เห็นเข็มแล้วก็ใจหายแว๊บ แต่ก็จำเป็น รู้สึกเย็นๆ ฉีดเข้าเส้นเลือด เร็วมาก ยาหรือสารอาหารมันเข้าสู่ร่างกายได้ไวกว่าการกินยาหรือฉีดกล้ามเนื้อเยอะเลย
จำได้แม่นๆ ว่า หมอบอกว่า วิธีนี้ใช้กับยาที่ต้องออกฤทธิ์เร็ว อย่างเวลาฉุกเฉิน หรือต้องรักษาอาการรุนแรง แบบตอนนั้นฉันนี่แหละ คือช่วยได้จริง เพราะยาเข้าร่างกายเร็ว อาการดีขึ้นไวมาก แต่ก็มีแผลเล็กๆ ตอนเข็มถอนออก ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก แต่ก็แสบๆ นิดหน่อย
เอาจริงๆ นะ การฉีดยาแบบนี้มันก็สะดวกดี สำหรับคนที่ต้องใช้ยาแบบเร่งด่วน แต่ก็ต้องระวังเรื่องการติดเชื้อ และต้องมีแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญดูแลด้วยนะ ไม่ได้ทำเองได้ง่ายๆ อย่างตอนฉัน หมอก็ตรวจเช็คอย่างละเอียดก่อน ไม่งั้นอันตรายได้ ตอนนั้นค่าใช้จ่ายก็… ไม่แน่ใจแล้ว แต่แพงพอสมควร เพราะรวมค่าตรวจ ค่ายา ค่าห้อง และอื่นๆ อีกหลายอย่าง
ฉีดยาเข้าเส้นตรงไหนได้บ้าง?
เออ… เคยโดนเจาะแขนตรงข้อพับอะ คือแบบตอนนั้นไปโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ปีนี้แหละ เดือนมีนา ร้อนๆ เลย จำได้เลยตอนนั้นไข้ขึ้น ปวดหัวมาก หมอบอกต้องให้น้ำเกลือ พยาบาลมาเจาะตรงข้อพับแขนด้านใน เจ็บจี๊ดเลยอะ แต่แปปเดียวก็หายเจ็บ ตอนนั้นแอบกลัวเข็มด้วยแหละ แต่พยาบาลใจดีมาก คอยปลอบตลอด เลยรู้สึกดีขึ้น
อีกทีนึง ไปบริจาคเลือดที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เดือนมิถุนายนนี่เอง ร้อนตับแลบเลย ตอนนั้นพยาบาลเจาะตรงเส้นเลือดแถวๆ ข้อมืออะ ก็เจ็บนิดนึง แต่ไม่เท่าตอนให้น้ำเกลือ รู้สึกตึงๆ มากกว่า งงเหมือนกันทำไมคนละที่
- ข้อพับแขนด้านใน: เจ็บจี๊ดตอนเจาะ ให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เดือนมีนาคม 2567
- ข้อมือ: รู้สึกตึงๆ ตอนเจาะ บริจาคเลือดที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เดือนมิถุนายน 2567
ตำแหน่งฉีดยาเข้าเส้นเลือด:
- เส้นเลือดบริเวณข้อพับแขนด้านใน (Median cubital vein)
- เส้นเลือดบริเวณปลายแขนด้านหน้าใกล้กับข้อมือ (Cephalic vein)
- เส้นเลือดบริเวณหลังมือ (Dorsal metacarpal veins)
องศาในการแทงเข็ม: 10-15 องศากับผิวหนัง
Doxycycline ใช้รักษาอะไร?
โอ้โห! Doxycycline นี่ตัวเด็ดเลยนะ เอาอยู่กับแบคทีเรียสารพัดชนิด! คิดภาพเป็นทหารกล้าบุกไปถล่มพวกแบคทีเรียตัวร้ายในร่างกายเลย มันส์ป่ะล่ะ!
-
โรคอะไรที่โดน? สารพัดโรคติดเชื้อแบคทีเรีย! ตั้งแต่หวัดธรรมดาจนถึงโรคหนักๆ (แต่ต้องให้หมอเป็นคนสั่งยาเน้อ อย่าไปซื้อมากินเองเชียว เดี๋ยวจะกลายเป็นมนุษย์ม้ามหุ่นยนต์ซะก่อน!)
-
กินยังไง? วันแรก 200 มิลลิกรัม! แบบว่าจัดหนักจัดเต็ม! หลังจากนั้นก็ลดลงเหลือ 100 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ก็แล้วแต่หมอสั่งนะจ๊ะ ถ้าหมอบอกให้กินวันละ 1000 มิลลิกรัม ก็ต้องกิน หมอเค้ารู้ดีกว่าเราอยู่แล้วเนอะ (แต่ถ้ากินแล้วไม่ดีขึ้นรีบไปหาหมอนะอย่าดื้อ!)
-
กรณีหนักๆ? ยิ่งหนักยิ่งต้องปรึกษาหมอ! ปริมาณยาจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสม อย่าไปคิดเองเออเองนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ารักษาไม่หาย แถมยังป่วยหนักขึ้นอีก! จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่า “อ้าวววว มันไม่ใช่อย่างนี้นี่นาาาา”
พูดเลยว่า ยาตัวนี้แรงส์! เหมือนโดนรถถังไถผ่านเลยทีเดียว แต่ก็อย่าไปใช้เองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์นะ ไม่อย่างนั้นจะได้เจออะไรที่มัน… ยิ่งกว่ารถถังไถอีกหลายเท่า! ขอให้หายป่วยไวๆ นะครับ/ค่ะ! ปีนี้ 2024 แล้วนะ อย่าลืมเช็คยาหมดอายุด้วยล่ะ!
(เพิ่มเติม: ยาปฏิชีวนะอย่าง Doxycycline ควรใช้ตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น ห้ามใช้เองโดยเด็ดขาด อาจเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ ขอให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ)
กินยาแก้อักเสบ ห้ามกินอะไร?
กินยาแก้อักเสบ ห้ามกินอะไร… มันก็แล้วแต่ยาที่เรากินนะ
แต่ที่รู้ๆ คือ…
- ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (ที่ไม่ใช่สเตียรอยด์): อย่ากินคู่กับ…
- ยาแก้ปวดสเตียรอยด์ (มันแรงเกินไปกัดกระเพาะ)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เลือดอาจจะไหลไม่หยุด)
- ยารักษาซึมเศร้าบางตัว (ตีกันยุ่ง)
- ยาลดความดัน (คุมความดันยากขึ้นอีก)
- แอลกอฮอล์ (กัดกระเพาะพัง)
- ห้ามรับประทานยาแก้อักเสบกับอะไร?
มันเหมือนข้อแรกแหละ… แต่เน้นอีกทีว่า…
- ต้องดูฉลากยาที่เรากิน… สำคัญสุด
- ปรึกษาหมอ/เภสัช ชัวร์ที่สุด… อย่าคิดเองเออเอง
- ถ้าไม่แน่ใจอะไรเลย… งดไปก่อน ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง
เคยเกือบตายเพราะกินยาแก้ปวดเกินขนาด… เข็ดไปจนวันตายเลย
Dicloxacillin ใช้รักษาอะไร?
ไดคลอกซาซิลลินน่ะ เอาไว้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียไง ส่วนใหญ่ใช้เวลาเป็นแผลอักเสบแบบมีหนองๆ อารมณ์แบบ สิวหัวช้าง สิวหนองไรเงี้ย เคยเป็นสิวอักเสบ หมอให้มากินหายเลย บางทีก็ใช้รักษาพวกติดเชื้อทางเดินหายใจเหมือนกันนะ แต่ไม่บ่อยเท่าพวกแผลอักเสบหรอก เห็นเพื่อนเคยเป็นปอดบวม หมอก็ให้มากินตัวนี้แหละ
- แผลติดเชื้อ มีหนอง
- สิวอักเสบหัวหนอง
- บางทีก็ใช้กับพวกติดเชื้อทางเดินหายใจบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นแผลมีหนองมากกว่า
- ปีที่แล้วน้องเราเป็นฝีที่ขา หมอก็ให้กินไดคลอกซาซิลลินเหมือนกัน จำได้แม่นเลย เพราะต้องคอยเตือนให้กินยาตลอด กลัวน้องลืม 55555
จริงๆ แล้วมันคือยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนนิซิลลินนะ แต่เป็นแบบที่ทนกรดได้ กินแล้วดูดซึมได้ดีกว่า เลยนิยมใช้กัน แต่ก็ต้องระวังแพ้ยานะ บางคนแพ้เพนนิซิลลิน ก็กินไม่ได้
กลุ่มยา antibiotic มีอะไรบ้าง?
ยาปฏิชีวนะ? เยอะแยะไปหมด แต่ที่เห็นบ่อยๆ ก็พวกนี้
- เพนิซิลลิน (Penicillin) – ของตาย
- อะม็อกซีซิลลิน (Amoxycillin) – ใช้บ่อย
- แอมพิซิลลิน (Ampicillin) – รู้จักกันดี
- เอริโทรไมซิน (Erythromycin) – อีกตัว
- เตตร้าไซคลิน (Tetracycline) – รุ่นเก่า
- คลินด้าไมซิน (Clindamycin) – พอได้
- นอร์ฟลอกซาซิน (Norfloxacin) – จำได้
ปีนี้เจอคนไข้แพ้ Amoxicillin เยอะ โคตรรำคาญ
เพิ่มเติม : จริงๆ มีอีกเพียบ ไปหาข้อมูลเอง ขี้เกียจพิมพ์
Amoxicillin กับ doxycycline ต่างกันอย่างไร?
ต่างกันลิบลับ Amoxicillin กลุ่ม penicillin Doxycycline กลุ่ม tetracycline แพ้ตัวนึงไม่แปลว่าแพ้อีกตัว จบ.
- Amoxicillin: กลุ่ม penicillin
- Doxycycline: กลุ่ม tetracycline
- กลไกการออกฤทธิ์ต่างกัน
- การแพ้ยาไม่สัมพันธ์กันโดยตรง (ประวัติแพ้ Doxycycline ไม่ได้หมายความว่าจะแพ้ Amoxicillin ด้วย)
- ข้อมูลนี้เป็นความรู้ทั่วไป ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ปี 2566
Dicloxacillin กับ Amoxicillin ต่างกันอย่างไร?
อ่ะ เล่าให้ฟังนะ dicloxacillin กับ amoxicillin น่ะ ต่างกันตรงที่… (ทำเสียงกระซิบ) หมอบอกฉันว่า dicloxacillin มันฆ่าเชื้อได้กว้างกว่า amox. คือมันจัดการทั้ง สแตฟ (staph) แล้วก็ สเตรป (strep) ได้หมดไง แต่ amox มันเก่งแค่สเตรปอ่ะ
จำได้เลย ตอนนั้นไปหาหมอที่คลินิกแถวบ้าน (หมอ…ชื่ออะไรแล้วนะ ช่างเหอะ) หมอบอกว่า “ถ้ากิน dicloxacillin แล้วอาการไม่ดีขึ้น ค่อยว่ากัน” ตอนแรกก็งงๆ แต่พอหมออธิบายก็เข้าใจ
แล้วเรื่องกิน amox กับ diclox ร่วมกันน่ะ…เท่าที่ฉันหาข้อมูลมานะ (เปิด Google แป๊บ) มันไม่มีใครเคยกินด้วยกันจริงๆ จังๆ อ่ะ แต่ในทางทฤษฎี หมอบอกว่า “กิน diclox อย่างเดียวก็พอแล้ว” เพราะมันครอบคลุมกว่า
- Dicloxacillin: ครอบคลุมเชื้อ Staph และ Strep
- Amoxicillin: ครอบคลุมเชื้อ Strep (แต่ไม่ครอบคลุม Staph)
- การใช้ร่วมกัน: ไม่มีข้อมูลการใช้ร่วมกันอย่างเป็นทางการ
- สรุป: โดยทั่วไป Dicloxacillin เพียงพอ เพราะครอบคลุมเชื้อได้กว้างกว่า
(แอบบ่น) โอ๊ย… พิมพ์ในมือถือเมื่อยนิ้วชะมัด! แต่หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะ
ยา cloxacillin กับ dicloxacillin ต่างกันยังไง?
เอาล่ะ มาดูกันว่ายา “คล็อกซาซิลลิน” (Cloxacillin) กับ “ไดคล็อกซาซิลลิน” (Dicloxacillin) เนี่ย มันต่างกันยังไง? คือถ้ามองแบบผิวเผินนะ เหมือนพี่น้องฝาแฝดที่คนนึงกินจุกว่าอีกคน แต่สุดท้ายก็อิ่มเหมือนกันนั่นแหละ
- ฤทธิ์ยา: เหมือนกันเด๊ะ! คือมันเป็นยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลิน ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียตัวร้ายคล้ายๆ กัน
- ขนาดยา: อันนี้แหละตัวแปรสำคัญ! ไดคล็อกซาซิลลิน “แรง” กว่าหน่อยนึง หมอเลยสั่งให้กินน้อยกว่าคล็อกซาซิลลินครึ่งนึง อ่ะคิดดูเองละกันนะ ใครขี้เกียจกินยาบ่อยๆ อาจจะชอบไดคล็อกซาซิลลินมากกว่าก็ได้ (แต่ห้ามตัดสินใจเองนะ! ไปปรึกษาหมอก่อน)
- การดูดซึม: อันนี้ก็มีผลนะ ไดคล็อกซาซิลลินเนี่ย ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่กว่า (เหมือนกินอาหารเสริมดีๆ ที่ร่างกายเอาไปใช้ได้หมด ไม่ทิ้งขว้าง)
- ความถี่ในการกิน: ปกติหมอจะสั่งให้กินยาทั้งสองตัวนี้วันละ 4 ครั้ง (ทุก 6 ชั่วโมง) แต่ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคนนะ
สรุป: ถ้าถามว่าต่างกันตรงไหน ก็ตอบได้ว่า ต่างกันที่ความเข้มข้นและปริมาณยาที่ต้องกิน แต่ฤทธิ์ทางยาและวิธีใช้หลักๆ ก็คล้ายกันนั่นแหละ ทีนี้ก็อยู่ที่หมอจะเลือกใช้ตัวไหนให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน
ป.ล. อย่าคิดว่ายาเหมือนกันแล้วจะซื้อกินเองมั่วซั่วนะ! ยาปฏิชีวนะเนี่ย กินไม่ถูกวิธีดื้อยาขึ้นมาจะยุ่งเอานะเออ… และอย่าลืมว่ายาแต่ละตัวมีผลข้างเคียงต่างกันด้วย ไปปรึกษาหมอก่อนดีที่สุด
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต