ฉี่แล้วมีเศษอะไรไม่รู้ออกมาด้วย

10 การดู

พบสิ่งแปลกปลอมในปัสสาวะหรือ? อาจเป็นคราบโปรตีน, เกลือแร่ตกผลึก, หรือเนื้อเยื่อจากระบบทางเดินปัสสาวะ หากมีอาการผิดปกติร่วมด้วยเช่น ปัสสาวะขุ่น, มีกลิ่นแรง, หรือปวดแสบ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อ “อะไรไม่รู้” ปรากฏในปัสสาวะ: เรื่องที่ควรรู้และต้องใส่ใจ

การสังเกตความผิดปกติของร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะร่างกายมักส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หนึ่งในสัญญาณที่หลายคนอาจเคยเจอคือ “อะไรไม่รู้” ที่ปนเปื้อนมาในปัสสาวะ ซึ่งอาจสร้างความกังวลใจและสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่

“อะไรไม่รู้” ในปัสสาวะ…สัญญาณบอกอะไรได้บ้าง?

จริงอยู่ที่การพบสิ่งแปลกปลอมในปัสสาวะอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจเสมอไป เพราะบางครั้งอาจเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของร่างกาย แต่ในบางกรณีก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับการดูแล

ความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้น:

  • คราบโปรตีน: โปรตีนมักไม่ปรากฏในปัสสาวะของคนสุขภาพดี แต่หากไตทำงานผิดปกติ อาจทำให้โปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะได้ โดยอาจมีลักษณะเป็นตะกอนเล็กๆ หรือฟอง
  • เกลือแร่ตกผลึก: โดยเฉพาะแคลเซียมและฟอสเฟต สามารถตกผลึกและรวมตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ ในปัสสาวะได้ หากดื่มน้ำน้อย หรือมีภาวะบางอย่างที่ส่งผลต่อสมดุลของเกลือแร่
  • เยื่อบุทางเดินปัสสาวะ: เซลล์เยื่อบุที่ตายแล้วสามารถหลุดลอกออกมาและปนเปื้อนในปัสสาวะได้ ซึ่งมักมีปริมาณน้อยและมองเห็นได้ยาก
  • เมือก (Mucus): โดยเฉพาะในผู้หญิง อาจมีเมือกปนเปื้อนออกมาบ้าง โดยเฉพาะในช่วงใกล้มีประจำเดือน หรือในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • ตกตะกอนจากยา: ยาบางชนิดอาจมีการขับออกมาทางปัสสาวะในรูปแบบของผลึก หรือตะกอน
  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) อาจทำให้มีหนอง หรือเม็ดเลือดขาวปนเปื้อนออกมาในปัสสาวะ ซึ่งอาจมีลักษณะขุ่น หรือมีตะกอน
  • นิ่วในทางเดินปัสสาวะ: นิ่วขนาดเล็กอาจหลุดออกมาพร้อมปัสสาวะ ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนมี “อะไรไม่รู้” ออกมาด้วย

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?

หาก “อะไรไม่รู้” ที่ปนเปื้อนในปัสสาวะ มาพร้อมกับอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม:

  • ปัสสาวะขุ่น: ปัสสาวะมีสีขุ่นผิดปกติ
  • ปัสสาวะมีกลิ่นแรง: กลิ่นฉุน หรือมีกลิ่นที่ผิดไปจากเดิม
  • ปัสสาวะเป็นเลือด: เห็นเลือดปนเปื้อนในปัสสาวะ
  • ปวดแสบขณะปัสสาวะ: รู้สึกเจ็บ หรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ
  • ปวดหลัง หรือปวดท้องน้อย: อาการปวดอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ หรือมีนิ่วในไต
  • ปัสสาวะบ่อย: รู้สึกปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
  • ไข้: มีไข้ร่วมด้วย
  • คลื่นไส้ หรืออาเจียน:

สิ่งที่ควรทำเมื่อพบสิ่งผิดปกติในปัสสาวะ:

  1. สังเกต: สังเกตลักษณะของ “อะไรไม่รู้” ที่ออกมา สี กลิ่น และปริมาณ
  2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกได้ดีขึ้น และอาจช่วยลดการตกผลึกของเกลือแร่
  3. บันทึก: จดบันทึกความผิดปกติที่พบ และอาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปปรึกษาแพทย์
  4. ปรึกษาแพทย์: หากมีความกังวล หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอย่างละเอียด

ข้อควรจำ:

การพบสิ่งแปลกปลอมในปัสสาวะอาจเป็นเรื่องปกติ หรืออาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ การสังเกต และการปรึกษาแพทย์เมื่อมีความกังวล จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัย เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นจากการใส่ใจตัวเอง