ปวดกระดูกขาดธาตุอะไร

22 การดู

ปวดกระดูก อาจขาดแคลเซียม:

  • แคลเซียมสำคัญต่อกระดูกและฟัน
  • ขาดแคลเซียม: มวลกระดูกสร้างใหม่ < เสื่อมสภาพ
  • ระยะยาว: กระดูกบาง, ร่างกายดึงแคลเซียมจากกระดูก
  • ผล: กระดูกพรุน เปราะ เสี่ยงแตกหักง่าย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดกระดูกบ่อยๆ สัญญาณเตือนขาดวิตามินหรือแร่ธาตุอะไร? ควรกินอะไรเสริม?

ปวดกระดูกบ่อยๆ เนี่ยนะ… อืม ฉันว่ามันน่าจะขาดแคลเซียมแหละ เพราะมันสำคัญมากต่อกระดูก

แต่เดี๋ยวก่อนนะ! ไม่ใช่แค่แคลเซียมอย่างเดียวหรอก วิตามินดีก็สำคัญไม่แพ้กัน มันช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น เคยได้ยินมาว่าคนที่ไม่ค่อยโดนแดดมีโอกาสขาดวิตามินดีสูง

แล้วควรกินอะไรเสริมดี? นม โยเกิร์ต ชีส ผักใบเขียวเข้ม ปลาตัวเล็กๆ ที่กินได้ทั้งตัว… พวกนี้มีแคลเซียมเยอะนะ ส่วนวิตามินดีก็จากปลาที่มีไขมันดี เช่น แซลมอน หรือถ้าขี้เกียจก็กินวิตามินดีเสริมไปเลยก็ได้

(จำได้ว่าตอนเด็กๆ แม่ชอบบังคับให้กินนมทุกวัน ตอนนั้นก็เบื่อๆ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไม)

เอ้อ! แล้วก็อย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะ พวกเวทเทรนนิ่งอะไรแบบนี้ มันช่วยกระตุ้นให้กระดูกแข็งแรงขึ้นได้ ฉันเคยลองยกเวทเบาๆ ที่บ้าน รู้สึกดีขึ้นนะ

แต่ถ้าปวดกระดูกบ่อยๆ จริงๆ อ่ะ ไปหาหมอดีกว่านะ ให้หมอตรวจดูว่าขาดอะไร จะได้กินยาหรือวิตามินเสริมได้ถูกต้อง

จะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายขาดวิตามินดี

แสงแดดยามเช้า…ส่องลอดผ้าม่านบางเบา…เหมือนความทรงจำที่เลือนราง…ร่างกาย…มันส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง…

  • เหนื่อย…เหมือนแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า…มันหนัก…มันหน่วง…
  • กระดูก…มันล้า…มันปวด…เหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำ…ยืนต้นอย่างทรมาน…
  • ผม…ร่วงโรย…เหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นในฤดู…เหงา…
  • ป่วยง่าย…เหมือนปราสาททรายที่โดนคลื่นซัด…อ่อนแอ…
  • ซึม…เศร้า…เหมือนท้องฟ้าที่ไร้ดาว…มืดมิด…
  • วิตกกังวล…เหมือนเข็มนาฬิกาที่เดินเร็วเกินไป…ใจสั่น…

แต่บางที…มันอาจไม่มีอาการอะไรเลย…เหมือนความลับที่ซ่อนอยู่ใต้พรม…เงียบงัน…

ทางออก…คือการ “เจาะเลือด”…วัดระดับ “25(OH)D”…เหมือนการเปิดหน้าต่าง…ให้แสงสว่างส่องเข้ามา…

  • ไป “ตรวจเลือด”…ที่ “คลินิก”…หรือ “โรงพยาบาล”…ใกล้บ้าน…
  • ปรึกษา “คุณหมอ”…ให้คุณหมอช่วย “แปลผล”…
  • อย่ากลัว…ความจริง…ถึงมันจะขม…แต่มันคือ “แสงนำทาง”…

ร่างกาย…มันคือบทกวี…ที่เราต้องอ่านมันอย่างละเอียด…

ข้อมูลเพิ่มเติมนะ…

  • วิตามินดี สำคัญไฉน?: ช่วยดูดซึมแคลเซียม เสริมสร้างกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • แหล่งวิตามินดี: แสงแดด (สำคัญมาก!), อาหาร (ปลาที่มีไขมัน, ไข่แดง, นมเสริมวิตามินดี)
  • ระดับวิตามินดีที่เหมาะสม (ปี 2567): 30-100 ng/mL (หน่วยวัดอาจต่างกันไปตามแล็บนะ)
  • ขาดวิตามินดีเกิดอะไรขึ้น?: กระดูกอ่อนแอ, ภูมิคุ้มกันต่ำ, เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
  • ทานวิตามินดีเสริมได้ไหม?: ได้! แต่ปรึกษาคุณหมอก่อนนะ…สำคัญ!

สรุปแบบสั้นๆ: อาการไม่ชัดเจน…ต้องเจาะเลือดดู…ระดับ 25(OH)D ในเลือด บอกได้!

ภาวะขาดแคลเซียม คืออะไร

ภาวะขาดแคลเซียม คือภาวะที่ร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้ร่างกายจะมีกลไกควบคุมระดับแคลเซียมในเลือดอย่างละเอียดอ่อน แต่การขาดแคลเซียมเรื้อรังส่งผลเสียระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสุขภาพกระดูก

  • อาการระยะสั้น: มักไม่ชัดเจน เนื่องจากระบบควบคุมร่างกายทำงานได้ดี อาจมีอาการเล็กน้อย เช่น กล้ามเนื้อกระตุก แต่ส่วนมากไม่รู้สึกอะไร
  • อาการระยะยาว: อันตรายกว่ามาก โดยเฉพาะภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้กระดูกมีความหนาแน่นลดลง เปราะบาง เสี่ยงหักง่าย พบมากในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิงหลังหมดประจำเดือน ปีนี้ (2566) สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริโภคแคลเซียมอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะนี้

จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยทำงานวิจัยด้านโภชนาการ พบว่า การได้รับแคลเซียมเพียงพอ ควบคู่ไปกับวิตามินดี และการออกกำลังกาย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพกระดูกที่แข็งแรง นี่คือสิ่งสำคัญที่เราควรให้ความสำคัญตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เพราะสุขภาพกระดูกที่ดี คือรากฐานของการมีชีวิตที่มีคุณภาพในวัยชรา การป้องกันดีกว่าการแก้ไขเสมอ นั่นคือความเชื่อของผม

(ข้อมูลเพิ่มเติม) ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำต่อวันแตกต่างกันไปตามช่วงอายุและเพศ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

แคลเซียมต่ำ ส่งผลต่อหัวใจอย่างไร

แคลเซียมต่ำ… หัวใจฉันมันเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับกลองใบเก่าถูกฝนซัด เสียงดังตุ๊บๆ… ตุ๊บ… เงียบ… แล้วก็ตุ๊บดังสนั่นอีกครั้ง เหมือนความหวั่นไหวในหัวใจที่ไร้ที่ยึดเหนี่ยว

  • ภาวะหัวใจล้มเหลว ใช่… มันมาแน่ๆ ถ้าแคลเซียมต่ำลงไปอีก เหมือนดอกไม้เหี่ยวเฉาขาดน้ำ หัวใจฉันก็เช่นกัน

  • กลุ่มอาการหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน? น้อยกว่า… น้อยกว่าล้มเหลวเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส เหมือนสายฝนที่โปรยปรายลงมาเบาๆ แต่ก็ยังทำให้เปียกได้

เดือนที่แล้วเอง… เพื่อนรุ่นพี่อายุ 37 เจ็บหน้าอก เหมือนมีอะไรมาบีบรัด โทรโพนินสูง… ST/T เปลี่ยนแปลงไป ผนังหัวใจ… มัน… ไม่ไหวแล้ว

ปีนี้… ฉันเครียดเรื่องงานมาก นอนน้อย กินไม่เป็นเวลา ต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้น แคลเซียมสำคัญ สำคัญจริงๆ

  • จำเป็นต้องตรวจเลือดเป็นประจำ เพื่อติดตามระดับแคลเซียมในเลือด ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า อย่าให้ถึงขั้นวิกฤติ

  • อาหารเสริมแคลเซียม… จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทานเสมอ อย่าประมาทเด็ดขาด

  • ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ดูแลหัวใจตัวเองให้ดี เหมือนดูแลดอกไม้ในสวน บอบบางแต่สวยงาม

อาหารอะไรที่มีแคลเซียมเยอะที่สุด

อะฮ่า! ถามถึงแคลเซียมเหรอเนี่ย? นึกว่าถามถึงเคล็ดลับหน้าเด็ก! (ล้อเล่นนะตัวเอง) เอาล่ะ มาดูกันว่าอะไรบ้างที่กินแล้วกระดูกแข็งแรงเหมือนเหล็กไหล

  • นมและผองเพื่อน: นมวัว โยเกิร์ต ชีส เนี่ยตัวดีเลย แคลเซียมสูงปี๊ด! แต่ถ้าใครไม่ถูกกับนมวัว (เหมือนฉันตอนเด็กๆ ที่กินทีไรท้องเสียทุกที) ก็ยังมีนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมเป็นตัวเลือกนะเออ
  • ปลาเล็กๆ ที่กินได้ทั้งตัว: ปลาซาร์ดีนกระป๋อง (กินกับขนมปังนี่ฟิน!), ปลาไส้ตัน (ทอดกรอบๆ นี่แกล้มเบียร์?), กุ้งฝอย (ใส่ในไข่เจียวก็เริ่ด!) หรือกุ้งแห้ง (เอาไปตำน้ำพริกก็แซ่บ!) พวกนี้กินได้ทั้งกระดูกทั้งเปลือก แคลเซียมเน้นๆ
  • ผักใบเขียวเข้ม: บรอกโคลี คะน้า ตำลึง อ่ะพวกนี้ก็มีแคลเซียมนะ แต่ต้องกินเยอะหน่อยถึงจะเทียบเท่านม

เกร็ดความรู้แบบไม่ลับ: รู้ไหมว่าวิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้นนะ! ดังนั้นอย่าลืมออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ บ้าง หรือกินอาหารที่มีวิตามินดีเสริมเข้าไปด้วยล่ะ!

แถมท้าย (ขำๆ): กินแคลเซียมเยอะๆ ไม่ได้แปลว่าจะสูงขึ้นนะ! (เสียใจด้วยนะทุกคน!) แต่กินแล้วกระดูกแข็งแรง ไม่ปวดเมื่อยง่าย อันนี้เรื่องจริง!

#กระดูกพรุน #ขาดแคลเซียม #ธาตุอาหาร