ไข้สูงกี่องศา อันตราย

14 การดู
โดยทั่วไปแล้ว หากอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส (99.5 องศาฟาเรนไฮต์) ถือว่ามีไข้ ไข้สูงที่อันตรายมักจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส (104 องศาฟาเรนไฮต์) ขึ้นไปในผู้ใหญ่ และอาจเป็นอันตรายในเด็กเล็กและทารกที่อุณหภูมิต่ำกว่านั้น การสังเกตอาการร่วมอื่นๆ เช่น ชัก ซึม หรือหายใจลำบาก เป็นสิ่งสำคัญและควรรีบปรึกษาแพทย์
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไข้สูง กี่องศาถึงอันตราย? สัญญาณที่ต้องระวังและแนวทางการดูแล

ไข้ เป็นอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ หรือภาวะผิดปกติบางอย่าง การที่อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของระบบภูมิคุ้มกัน แต่เมื่อไข้สูงเกินไป ก็อาจเป็นอันตรายได้ แล้วไข้สูงแค่ไหนถึงเรียกว่าอันตราย และเราควรสังเกตอาการอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปแล้ว หากอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส (99.5 องศาฟาเรนไฮต์) ถือว่ามีไข้ แต่ระดับความอันตรายของไข้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กและทารก

ระดับไข้ที่ควรสังเกต:

  • ไข้ต่ำ (37.5 – 38.5 องศาเซลเซียส หรือ 99.5 – 101.3 องศาฟาเรนไฮต์): โดยทั่วไปยังไม่ถือว่าอันตรายมากนัก สามารถดูแลเบื้องต้นได้ด้วยการพักผ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเช็ดตัวลดไข้

  • ไข้สูงปานกลาง (38.6 – 39.9 องศาเซลเซียส หรือ 101.4 – 103.9 องศาฟาเรนไฮต์): ควรสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย หากมีอาการปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย หรือเบื่ออาหาร อาจรับประทานยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

  • ไข้สูง (40 องศาเซลเซียส หรือ 104 องศาฟาเรนไฮต์ ขึ้นไป): ถือว่าเป็นไข้สูงที่อันตราย โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ หากมีไข้สูงถึงระดับนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษในเด็กเล็กและทารก:

ในเด็กเล็กและทารก ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้สูงได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ แม้ว่าอุณหภูมิร่างกายจะยังไม่สูงถึง 40 องศาเซลเซียส แต่หากเด็กมีอาการซึม ไม่ดูดนม ชัก หรือหายใจลำบาก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

อาการที่ต้องสังเกตเพิ่มเติม:

นอกเหนือจากระดับอุณหภูมิร่างกายแล้ว การสังเกตอาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกับไข้ก็มีความสำคัญเช่นกัน หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์:

  • ชัก: เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาท

  • ซึม: หมดสติ ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า

  • หายใจลำบาก: หายใจเร็ว หายใจหอบ หรือมีเสียงหวีด

  • ปวดศีรษะรุนแรง: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการคอแข็งร่วมด้วย

  • ผื่นขึ้นตามตัว: อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด

แนวทางการดูแลเบื้องต้นเมื่อมีไข้:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการต่อสู้กับการติดเชื้อ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ไข้สูงอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ

  • เช็ดตัวลดไข้: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามร่างกาย โดยเน้นบริเวณหน้าผาก รักแร้ และขาหนีบ

  • รับประทานยาลดไข้: หากมีอาการปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย หรือเบื่ออาหาร อาจรับประทานยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อควรจำ:

  • การวัดอุณหภูมิร่างกายควรทำอย่างถูกต้อง โดยใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

  • หากไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

  • อย่าปล่อยให้ไข้สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กและทารก

การดูแลรักษาไข้ที่ถูกต้องและทันท่วงที จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง และทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

#อันตราย #เด็กเล็ก #ไข้สูง