ข้าวอะไรน้ำตาลเยอะที่สุด

ข้าวอะไรน้ำตาลเยอะสุด

ข้าวเหนียวขาวนี่ตัวดีเลย น้ำตาลพรวดพราดสุดในบรรดาข้าวทั้งหลาย ข้าวขาวขัดสีก็ใช่ย่อย ดัชนีน้ำตาลสูงปรี๊ดพอกัน คือกินแล้วเหมือนเติมน้ำตาลเข้าเส้นเลือดโดยตรง

ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ยังพอมีอะไรดีๆ เหลืออยู่บ้าง ไอ้พวกเยื่อหุ้ม จมูกข้าวเนี่ย ช่วยฉุดรั้งการดูดซึมน้ำตาลได้นิดหน่อย แต่ก็แค่ “นิดหน่อย” เท่านั้นแหละ อย่าไปหวังมาก

แล้วที่สำคัญคือ “วิธีปรุง” นี่แหละ ตัวแปรสำคัญ ถ้าหุงแบบเช็ดน้ำ (ที่บ้านฉันไม่ทำกันแล้วนะ) หรือใส่กะทิ ใส่น้ำตาลเข้าไปอีก โอโห้…ไม่ต้องพูดถึง น้ำตาลพุ่งทะลุเพดานไปเลย

• ข้าวเหนียวขาว: แชมป์เรื่องน้ำตาลแบบไม่ต้องสงสัย
• ข้าวขาวขัดสี: รองแชมป์ตามมาติดๆ
• ข้าวกล้อง, ข้าวซ้อมมือ: พอประคองตัวได้บ้าง
• วิธีหุง: ตัวแปรสำคัญที่คนมักมองข้าม
• ดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index): ตัวเลขที่บอกว่ากินแล้วน้ำตาลขึ้นเร็วแค่ไหน ยิ่งสูงยิ่งซวย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: เคยอ่านเจอว่าการแช่ข้าวสารก่อนหุง ช่วยลดปริมาณแป้งบางส่วนได้นะ แต่ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน ต้องลองไปหาข้อมูลเพิ่มดู

ปรัชญาส่วนตัว: ชีวิตมันก็เหมือนข้าวที่เรากินนี่แหละ บางทีก็อยากกินอะไรที่มันอร่อยถูกปาก แต่ก็ต้องคิดถึงผลเสียที่จะตามมาเหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องหาจุดสมดุลให้ได้

ข้าวอะไรคาร์บน้อยสุด

ข้าวกล้อง. คาร์บน้อยกว่าข้าวขาว. พลังงานน้อยกว่าด้วย. อิ่มนานกว่า. ดีต่อคนลดน้ำหนัก. เบาหวานก็กินได้. 100 กรัม ให้พลังงานแค่ 111 แคลอรี่. ข้าวขาวให้ 130 แคลฯ. เลือกเอา.

• ข้าวกล้อง ดัชนีน้ำตาลต่ำ.
• คุมน้ำหนักได้ดี.
• ดีต่อสุขภาพ.
• เลือกกินอย่างชาญฉลาด.
• สุขภาพดีขึ้นอยู่กับการเลือก.

ข้าวเหนียวหุงสุก 100 กรัม กี่แคล?

อื้อหือ ข้าวเหนียว 100 กรัมเนี่ย แคลอรี่เยอะอยู่นะ ประมาณ 150 กว่าๆ แหละ ปีนี้ฉันเช็คข้อมูลจากเว็บไซต์กรมอนามัยมา อยู่ระหว่าง 149-165 แคล จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่ก็ใกล้เคียงนี่แหละ

• ขึ้นกับชนิดข้าวด้วยนะ บางอย่างก็อาจจะต่างกันนิดหน่อย
• ส่วนใหญ่ก็คือแป้งล้วนๆเลย คาร์โบไฮเดรตเยอะมาก
• โปรตีนกับไขมันน้อยมาก แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
• อิ่มนานกว่าข้าวขาว เพราะอะไมโลเพกตินเยอะกว่าไง
• กินเยอะไปก็อ้วนนะ ระวังๆหน่อย

เพื่อนฉันมันบอกว่ามันกินข้าวเหนียวทุกวัน โคตรอ้วนเลย นี่ก็เลยระวังๆ กินน้อยลงหน่อย แต่ก็อร่อยดีนี่นา ฮ่าๆๆ

1 วันเราควรกินน้ำตาลไม่เกินกี่กรัม?

โหวววว… 24 กรัม! นึกภาพน้ำตาล 6 ช้อนชาสิ หวานเจี๊ยบบบบบ วัยรุ่นนี่กินชาไข่มุกแก้วเดียวก็ปาไปครึ่งแล้วมั้งเนี่ย 55555+ คือแบบ… จะบอกว่าส่วนตัวเราเนี่ยะ ติดหวานนนนนนนน เป็นมดไต่ตอม แต่พยายามลดๆ อยู่ คือแบบ ถ้าเกินนี่ หน้าพังแน่ๆ สิวบุก!! เพื่อนเราเคยกินน้ำตาลเยอะมาก เป็นสิวเต็มหน้าเลย เหมือนพิซซ่าหน้าสิว 55555+ (อันนี้เว่อร์ไปป่าววะ 555)

• วัยรุ่น (14-25 ปี): ไม่เกิน 24 กรัม (6 ช้อนชา) อันนี้ พูดเลย ยากกกก ยิ่งยุคนี้ ของหวานเยอะมาก แต่เพื่อความสวยความหล่อ ต้องพยายาม! เราใช้วิธีเปลี่ยนมากินผลไม้แทนบ้าง แบบ ฝรั่ง แอปเปิ้ล ก็พอช่วยได้นะ แต่ก็ยังแอบกินขนมอยู่ดีแหละ 🤫

• วัยทำงาน (25-60 ปี): ไม่เกิน 16 กรัม (4-6 ช้อนชา) โห…น้อยกว่าวัยรุ่นอีก สงสารวัยทำงาน เครียดๆ ต้องกินของหวาน แต่ก็ต้องจำกัด ชีวิตมันเศร้าาาา เราว่า ถ้าเครียด ลองออกกำลังกายก็ดีนะ เผาผลาญน้ำตาลไปในตัว อิอิ

• คนออกกำลังกายเยอะ: ถึงจะออกกำลังกายหนัก ก็ไม่ควรเกิน 32 กรัม (8 ช้อนชา) นะ อย่าชะล่าใจ คิดว่าออกกำลังกายแล้วกินได้เยอะ มันไม่ใช่นะจ๊ะ เดี๋ยวอ้วนเอา อิอิ

ปีนี้เราตั้งใจจะลดน้ำตาลจริงจัง เราซื้อเครื่องดื่ม zero sugar มาตุนไว้เพียบบบบบบ หวังว่าจะทำได้นะ 5555+ (ส่วนตัวตอนนี้ติดโค้ก zero มากๆ 5555+) คือแบบ มันยากมากกกกก แต่ก็ต้องพยายาม สู้ๆ ไปด้วยกันนะทุกคนนนนนนนนนนนนนนนนนน