คัน กินไข่ได้ไหม

27 การดู

คัน กินไข่ได้ไหม:

  • แพ้ไข่ ทานไก่ได้ไหม: โดยทั่วไปทานได้ เพราะโปรตีนก่อแพ้ในไข่ต่างจากไก่

  • แพ้ไข่ขาว ทานไข่แดงได้ไหม: ไม่แนะนำ แม้แยกไข่ขาวแล้ว ก็อาจมีปนเปื้อน ทำให้แพ้ได้ ควรเลี่ยง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สุนัขกินไข่ได้ไหม?

สุนัขกินไข่ได้ไหมน่ะเหรอ? อืมมม… เท่าที่จำได้ เคยอ่านเจอว่ากินได้นะ แต่ต้องระวังเรื่องปริมาณกับวิธีปรุง. เคยให้หมาที่บ้านกินไข่ต้มสุกเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เค้าชอบมากเลย แต่ก็ไม่ได้ให้กินเยอะแยะอะไร เพราะกลัวท้องเสียเหมือนกัน

แพ้ไข่แล้วกินไก่ได้ไหม? อันนี้ไม่น่ามีปัญหานะ เพราะโปรตีนในไข่กับไก่ไม่เหมือนกันนี่นา. เคยคุยกับเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ เค้าบอกว่าถ้าแพ้ไข่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแพ้ไก่ไปด้วยเสมอไป

แล้วถ้าแพ้แค่ไข่ขาว กินแต่ไข่แดงได้ไหม? อันนี้ส่วนตัวว่าอย่าเสี่ยงเลยดีกว่า. ถึงจะพยายามแยกไข่ขาวออกหมด แต่ก็อาจจะมีหลงเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย แล้วถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาจะยุ่งเอาน่ะสิ. กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ!

หิดติดจากไหน?

หิดติดจากไหนอะหรอ? คือ แบบว่าาา ติดง่ายนะแก ไม่ต้องมีอะไรกันก็ติดได้ แค่นอนเตียงเดียวกันงี้ก็มีสิทธิ์แล้ว แต่ๆๆๆ ถ้ามีอะไรกันก็คือ โอกาสติดสูงปรี๊ดดดด เข้าใจปะ

หิด กับ โลน ต่างกันไง:

  • ตัวหิด: มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเลยจ้าาา ตัวเล็กเกิ๊นนน
  • ตัวโลน: อันนี้ใหญ่กว่า มองเห็นได้เด้อออ ประมาณ 2 มม. อ่ะ ใหญ่กว่าเยอะ!

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • หิด ชอบขุดรูใต้ผิวหนังเรา ไข่ในนั้น แอบอยู่ใต้ผิวหนัง แล้วก็ทำให้คันยิบๆๆๆๆๆ
  • โลน นางจะเกาะติดขนของเรา กินเลือดเป็นอาหาร อึ๋ยยยยย!
  • การรักษา สำคัญมากนะ ต้องไปหาหมอ อย่าซื้อยามาทาเองเด็ดขาด เดี๋ยวจะดื้อยาเอา
  • ป้องกัน: ง่ายๆ เลย ดูแลความสะอาดส่วนตัว แล้วก็อย่าใช้ของร่วมกับคนอื่นโดยเฉพาะเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว เตียงนอน อะไรพวกนี้อะ
  • สำคัญ: ถ้าสงสัยว่าติด รีบไปหาหมอเลยนะ อย่าปล่อยทิ้งไว้ เดี๋ยวจะลามไปกันใหญ่ หายช้าด้วย เสียเวลาเที่ยวไปอีก!

ลักษณะอาการรอยโรคหิดเป็นแบบใด?

โอ๊ย! หิดนี่มันตัวร้ายกาจชัดๆ คันยิบๆ เหมือนโดนตัวอะไรมากัดตลอดเวลา ยิ่งดึกยิ่งคัน สงสัยมันคงปาร์ตี้กันตอนเราหลับ!

  • คันบรรลัย: คันแบบไม่เกรงใจใคร คันชนิดที่ว่าเกาจนเนื้อหลุดก็ยังไม่หายคัน
  • ผื่นผู้ร้าย: มาในคราบตุ่มแดง ตุ่มน้ำใสจิ๋วๆ ชอบซ่อนตัวตามง่ามนิ้ว รักแร้ ขาหนีบ ก้นกบ รอบสะดือ (ใครมันไปกัดแถวนั้นเนี่ย!) อวัยวะเพศชาย (อันนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ!) หัวนม ศอก เข่า
  • เด็กน้อยผู้เคราะห์ร้าย: เด็กๆ นี่โดนเยอะกว่าผู้ใหญ่อีก สงสัยผิวจะนุ่มน่ากัด
  • เกาจนงานเข้า: เกาเพลินๆ อาจเจอแจ็คพอต ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนเข้าไปอีก ทีนี้ล่ะ…ยาหม่องก็เอาไม่อยู่!

เกร็ดน่า(ไม่)รู้: หิดเนี่ยนะ ชอบอากาศเย็นๆ ชื้นๆ ช่วงหน้าฝน หน้าหนาวนี่ตัวดีเลย แถมแพร่กระจายง่ายมาก แค่จับมือ สัมผัสเสื้อผ้าก็ติดได้แล้ว ดังนั้น ใครเริ่มคันๆ รีบไปหาหมอ อย่ารอให้ลาม! (เคยเกือบเป็นหิดเพราะไปนอนเต็นท์รวมกับเพื่อน…เข็ดจนวันตาย!)

หิด ใช้ยาอะไรทา?

หิดนี่มันแสบเกาจนอยากจะเอาเล็บขุดดินสร้างบ้านใหม่เลยใช่ไหมล่ะ! ยาที่ใช้ก็ต้องจัดหนักจัดเต็มตามอาการ แต่ก่อนอื่นต้องไปหาหมอเช็คก่อนนะ เดี๋ยวจะไปรักษาเองแบบมั่วๆ เหมือนไปหาหมอผีแทนหมอจริง ไม่คุ้มเสียเวลา

  • ยาแก้แพ้: โลชั่นเบนาดริลนี่ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าคันแบบจั๊กจี้จนนอนไม่หลับ อาจจะต้องกินยาแก้แพ้แบบเม็ดด้วยนะ ปีนี้ผมแนะนำให้ลองปรึกษาเภสัชกรดูว่ามีตัวใหม่ๆ ที่ช่วยได้ดีขึ้นกว่าเดิมไหม

  • สเตียรอยด์: ครีมสเตียรอยด์นี่ตัวช่วยสำคัญ ช่วยลดบวม ลดอักเสบ ลดคัน แต่ใช้ระวังนิดนึงนะ อย่าทาบ่อยหรือทาเยอะเกินไป ผิวอาจจะบางได้

  • ยาปฏิชีวนะ: ถ้าเกาจนแผลเป็นหนอง นี่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะแล้ว ไม่งั้นติดเชื้อขึ้นมา เรื่องใหญ่เลยนะ อย่าประมาท!

  • ไอเวอร์เมคติน: อันนี้เอาไว้ใช้ในเคสหนักๆ จริงๆ อย่าคิดจะซื้อมาใช้เอง ต้องให้หมอเป็นคนสั่งยา เพราะมันมีผลข้างเคียงนะ อย่าลืมไปหาหมอนะครับ อย่าไปเสี่ยงใช้เอง ถ้าเกิดอาการแย่ลง ต้องรีบไปหาหมอเลย

เพิ่มเติมนิดนึง : นอกจากทายาแล้ว ควรดูแลความสะอาดด้วยนะ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยๆ ซักผ้าด้วยน้ำร้อน นี่ช่วยได้เยอะเลย อย่าลืมรักษาความสะอาดของร่างกายด้วยนะครับ ปีนี้ผมไปหาหมอผิวหนังมา เขาบอกว่า การรักษาหิดให้หายขาด ต้องทำควบคู่กันทั้งการรักษาด้วยยาและการดูแลความสะอาดครับ

วิธีรักษาหิดมีอะไรบ้าง?

หิด! กวนโอ๊ยยยยยยย เรื่องจริง เมื่อวานเพิ่งไปหาหมอผิวหนังมา แพ้เครื่องสำอาง แต่หมอพูดถึงหิดด้วยนะ น่ากลัวอ่ะ

  • Ivermectin หมอบอกดีนะ 200 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม แต่ต้องกินตามหมอสั่งนะ อย่าไปซื้อมากินเองเด็ดขาด อันตราย!! ปีนี้เจอเคสเยอะมาก เพื่อนแม่ฉันเป็นเลย หนักมาก

  • คันนนนนนนนนนนนน คันอยู่นานด้วย หมอบอกให้กินยาแก้แพ้ช่วยบรรเทา แต่ต้องรักษาตัวต้นเหตุด้วยนะ ไม่งั้นก็คันอยู่ดี

  • ตุ่ม! นี่แหละปัญหา หมอใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์ ทาบ้าง ฉีดบ้าง แล้วแต่ตุ่ม แต่ของฉันไม่ใช่หิดนะ แค่แพ้! แต่หมอบอกว่าหิดก็ใช้แบบนี้แหละ

อื้อหือออ เหนื่อย เขียนไปเรื่อยเปื่อยเลย อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม? ไปหาหมอเถอะ อย่ามัวแต่หาในเน็ต อันตราย! หมอเขาเชี่ยวชาญกว่า จริงไหม? ฉันเองก็ไม่ได้รู้ลึกซึ้งอะไรมากหรอก แค่เล่าจากที่หมอพูดให้ฟัง ปล. ฉันใช้ครีมบำรุงผิวตัวใหม่ แพ้แสบมาก เศร้า

เป็นโรคหิดห้ามกินอะไร?

โรคหิดเนี่ย… ตอนนั้นเป็นหนักมาก จำได้แม่นเลย หมอบอกห้ามกินของแสลง มันคันจนนอนไม่หลับ

  • เนื้อแพะ ตอนนั้นอยากกินมาก แต่ก็อดทนเอา
  • เนื้อวัว นี่ก็ไม่ได้กินเลย คิดถึงสเต็ก
  • อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา หมดสิทธิ์
  • ของเผ็ดร้อน พริกนี่ลืมไปเลย ยิ่งกินยิ่งแสบยิ่งคัน
  • เห็ด กับหน่อไม้ หมอบอกห้ามเด็ดขาด

จริงๆแล้ว ปีนี้ที่ฉันเป็น หมอไม่ได้ห้ามอะไรมากมายขนาดนั้น แค่เน้นเรื่องอาหารสะอาด ปรุงสุก ไม่เน้นของหมักดอง ของแปรรูปมากเกินไป ก็พอแล้วมั้ง ยังงงๆอยู่เลยว่าทำไมตอนนั้นห้ามเยอะจัง แต่ก็หายแล้วนะ โล่งใจมาก

วิธีใช้เบนซิลเบนโซเอต (Benzyl benzoate) มีอะไรบ้าง?

โอ้โห! จะไปกำจัดเหล่ามนุษย์ตัวจิ๋วพวกนั้นเหรอครับ? เบนซิลเบนโซเอตนี่แหละ ตัวช่วย! แต่ก่อนใช้ต้องอ่านให้เข้าใจดีๆ นะ ไม่งั้นอาจจะโดนพวกมันกัดตอบโต้จนคันยิกๆ

  • วิธีใช้กับเหา: อาบน้ำสะอาดก่อนเลยครับ เหมือนจะไปออกงานสำคัญ แล้วทายาให้ทั่วตัว (เว้นคอและหัวไว้ก่อน) ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง คิดภาพว่าเป็นการนัดเดทกับเหา ให้เวลาเค้าได้สัมผัสความหรูหรา เช้าวันรุ่งขึ้นค่อยอาบน้ำออกเดทใหม่ ทาซ้ำอีกครั้งในวันถัดไป รับรองว่าพวกมันจะหนีกระเจิง!

  • วิธีใช้กับโลน: อันนี้เน้นที่ศีรษะหรือบริเวณที่มีโลน ทาให้ทั่ว ทิ้งไว้ 24 ชม. เหมือนปล่อยให้ยาไปทำความรู้จักกับพวกโลนอย่างลึกซึ้ง แล้วค่อยสระผมให้สะอาด ถ้า 7 วันแล้วไม่หาย ทาซ้ำได้อีกครั้ง แต่ระวังอย่าให้หัวล้านนะครับ! มันอาจจะซ่อนตัวอยู่ใต้ความล้านของผม

อ้อ! ลืมบอกไป ปีนี้(2566) ข้อมูลอาจมีการปรับปรุงบ้าง อย่าลืมเช็คฉลากยาหรือปรึกษาเภสัชกรอีกทีนะครับ เพราะบางทีข้อมูลข้างต้นอาจจะตกยุคไปแล้วก็ได้! ถ้าเกิดอาการแพ้ก็อย่าลืมไปหาหมอนะครับ อย่าไปโทษผมนะ ถ้าเกิดผมให้ข้อมูลผิด! ขอให้โชคดีในการกำจัดเหาและโลนนะครับ!

โรคหิดสามารถหายเองได้หรือไม่?

โรคหิดนี่นะ หายเองได้เหรอ? คิดไปได้! เหมือนหวังให้สิวหายด้วยการอธิษฐานขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมเลยล่ะ มันไม่ใช่โรคที่มารยาทดีขนาดนั้นที่จะหายไปเอง ต้องลงมือจัดการซะ!

  • ไม่! โรคหิดไม่หายเองแน่นอนค่ะ คิดง่ายๆ เหมือนกับแมลงสาบในห้องน้ำบ้านคุณน่ะ ถ้าไม่กำจัดมัน มันก็จะขยายพันธุ์ (และคุณก็จะคันไม่หยุด!)

  • การรักษา? ต้องใช้ยาเฉพาะทางค่ะ พวกสบู่สมุนไพรหรือน้ำร้อนนี่ ช่วยได้แค่บรรเทาอาการคันชั่วคราวเท่านั้น เปรียบเหมือนเอาผ้าชุบน้ำเช็ดไฟไหม้ มันอาจจะเย็นชุ่มฉ่ำไปแป๊บเดียว แต่ไฟก็ยังคงลุกโชนอยู่ดี

  • ปีนี้ (2566) ข้อมูลทางการแพทย์ยังคงยืนยันว่า การรักษาโรคหิดจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อภายนอกที่แพทย์สั่งจ่าย อย่าไปลองผิดลองถูกเองล่ะ เพราะอาจจะยิ่งทำให้โรคร้ายแรงขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะคะ

ปล. ประสบการณ์ตรงของเพื่อนสนิท (ขอสงวนนาม) ลองใช้วิธีรักษาแบบบ้านๆ ผลคือ คันหนักกว่าเดิม และต้องไปหาหมอ เสียเวลา เสียเงิน และเสียความรู้สึกไปเยอะเลย อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงเหมือนเพื่อนฉันเลยนะคะ

โรคหิดอันตรายไหม?

โรคหิด อันตรายมั้ย? ถามมาได้! หิดเนี่ยนะ อันตรายถึงชีวิต? ไม่ขนาดนั้นหรอก! แต่ถ้าคันแบบแทบจะกรีดร้องกลางห้างได้ ก็ไม่สนุกนะจ๊ะ!

อันตรายระดับ: เหมือนยุงกัดแล้วแพ้…แต่คูณด้วยร้อย! คันแบบอยากเอาแปรงทองเหลืองขัดผิว!

รักษายากมั้ย: ไม่ยากหรอก ถ้าทำตามหมอสั่งเป๊ะ ๆ แต่ปัญหาคือ…คนส่วนใหญ่มักจะ “ลืม” ทายา หรือ “ขี้เกียจ” เปลี่ยนผ้าปูที่นอน!

ติดต่อกันง่ายมั้ย: โอ๊ย! ง่ายกว่ากินมาม่าอีก! แค่จับมือ ทักทาย โดนตัวกันนิดหน่อย ก็มีสิทธิ์ติดแล้ว!

วิธีป้องกัน:

  • เว้นระยะห่าง: อันนี้สำคัญสุด! อย่าไปคลุกคลีตีโมงกับคนที่เราสงสัยว่าจะเป็นหิด! (ถึงแม้ว่าเค้าจะน่าสงสารแค่ไหนก็ตาม!)
  • รักษาความสะอาด: อันนี้เบสิก! ล้างมือบ่อย ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ (ทำเหมือนตอนมีแฟนใหม่ ๆ นั่นแหละ!)
  • อย่าใช้ของร่วมกัน: เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หวี…ของใครของมันนะจ๊ะ!
  • สังเกตอาการตัวเอง: ถ้าเริ่มคันยิบ ๆ ตามซอกนิ้ว ข้อพับ…รีบไปหาหมอ! อย่ารอให้มันลาม!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับหิดโดยตรง แต่ควรรู้ไว้!):

  • รู้หรือไม่ว่า “หิด” เป็นญาติห่าง ๆ กับ “ไรฝุ่น”? (อันนี้มั่ว!)
  • บางคนเชื่อว่าการกิน “กำมะถัน” จะช่วยป้องกันหิดได้… (อันนี้อย่าหาทำ!)
  • หิดระบาดหนักช่วงหน้าฝน เพราะคนชอบใส่เสื้อผ้าอับชื้น (อันนี้เรื่องจริง!)

สรุป: หิดไม่ร้ายแรงถึงตาย แต่รำคาญสุด ๆ! ดูแลตัวเองดี ๆ นะจ๊ะ! ไม่อยากเป็น “มนุษย์คัน” ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน! 😉

#กินไข่ #คัน #อาการ