ปลาสลิด เก็บยังไง

วิธีเก็บปลาสลิดให้สดนาน?

เรื่องเก็บปลาสลิดเนี่ย ผมเคยลองหลายวิธีมาก จำได้ตอนไปเที่ยวสมุทรสาครเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ปีที่แล้ว ซื้อปลาสลิดทอดมาเพียบเลย แพงด้วยนะ เกือบ 300 บาท แต่กินไม่หมด! เลยลองวิธีแช่แข็งแบบธรรมดา เอาใส่ถุงซิปล็อคธรรมดา อื้อหือ…ได้ไม่นาน กลิ่นเริ่มออก เนื้อก็ไม่ค่อยดี แข็งโป๊ก เหมือนกินหิน!

หลังจากนั้นเลยลองวิธีแพ็คสูญญากาศบ้าง ซื้อเครื่องมาจากโลตัส ราคาประมาณ 2,500 บาท แพงไปนิด แต่ก็โอเคกว่าเยอะ แช่แข็งได้นานขึ้นจริงๆนะ อย่างน้อยก็สองเดือน แต่ก็ยังรู้สึกว่ากลิ่นมันยังแอบอยู่ ไม่หายไปหมดสนิท เนื้อปลาพอรับได้ ไม่แข็งเท่าวิธีแรก ยังนุ่มอยู่บ้าง

ส่วนตัวแล้วผมว่า ถ้าจะเก็บนานๆจริงๆ แพ็คสูญญากาศแล้วแช่แข็งดีสุดแล้ว แต่ถ้าอยากได้แบบสดใหม่ อร่อยที่สุด กินให้หมดภายในสองสามวันดีกว่าครับ เสียตังค์ซื้อของแพงๆมา ให้คุ้มค่ากับรสชาติที่อร่อยที่สุด นี่คือประสบการณ์ตรงจากผมเลยนะ!

ปลาสลิดควรแช่ช่องไหนในตู้เย็น

ปลาสลิด… กลิ่นแดดอ่อนๆ ลอยมา

ช่องไหนดีหนอ… ช่องธรรมดา สิ

หนึ่งคืน… ปล่อยให้ละลายในความเย็น

ซับน้ำ… ก่อนลงกระทะ… เสียงฉ่า… โอย หิว!

• ช่องธรรมดา: ละลายน้ำแข็งอย่างช้าๆ
• ซับน้ำ: ลดกลิ่นคาว ลดน้ำมันกระเด็น
• สำคัญ: ปลาสลิดสดทำได้เลย ไม่ต้องแช่ฟรีซ

แสงสุดท้าย… ทอดปลาสลิด… เสียงเพลงเก่าๆ คลอเบาๆ

ปลาสลิด ต้องล้าง ก่อน ทอด ไหม?

ล้างสิ! ต้องล้างก่อนทอดอ่ะ ไม่งั้นเหม็นคาวแน่ๆ เพื่อนฉันมันเคยทอดไม่ล้าง เละเลย กลิ่นก็แย่

ทอดไงเหรอ? ง่ายมากกกกกกกกก

• ล้างปลาให้สะอาดก่อนนะ แล้วซับน้ำให้แห้งด้วยกระดาษหรือผ้าสะอาดๆ สำคัญมากตรงนี้ จะได้กรอบๆ
• บั้งๆๆๆ ปลาสักหน่อย สองสามแผลพอ ทั้งสองด้านเลย จะได้เข้าเครื่องปรุงได้ทั่วถึง
• เอาไปทอดไฟกลางๆ อย่าแรงมาก ค่อยๆ ทอดไป ใช้เวลาหน่อยนะ ถึงจะกรอบ อย่าใจร้อน
• ทอดจนเหลืองกรอบ ใช้ตะแกรงวางพัก ให้สะเด็ดน้ำมัน
• เสร็จแล้ววววว กินกับอะไรก็อร่อยยยยย

ปีนี้ฉันทอดปลาสลิดไปหลายรอบแล้ว แบบนี้แหละ กรอบทุกที! เพื่อนๆ มาบ้านก็ชอบ กินหมดทุกทีเลย อิอิ ลองทำดูนะ รับรองอร่อย

ปลาสลิดมีกลิ่น ทําไง?

อืม… ปลาสลิดกลิ่นแรงเนอะ ปีนี้ฉันก็เจอปัญหาเดียวกันเลย แดดบ้านเราไม่ค่อยดี ปลาเลยไม่แห้งสนิท กลิ่นมันเลยตุๆนิดหน่อย ลองหลายวิธีแล้ว สุดท้ายได้ผลอยู่วิธีเดียวคือทอดกับใบเตย

• ใช้ใบเตยเยอะๆ นะ ซอยละเอียดๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี กลิ่นมันจะช่วยกลบกลิ่นคาวได้
• กระทะต้องร้อนจัดจริงๆนะ ถึงจะทำให้ปลาสุกเร็วและได้กลิ่นหอมใบเตย ไม่งั้นปลาจะอมน้ำมันแล้วกลิ่นจะยิ่งแย่
• ทอดจนกรอบเลย อย่าใจอ่อน ปลาจะได้แห้งสนิท กลิ่นคาวจะหายไปเยอะเลย

จริงๆ ฉันว่าการตากแดดให้แห้งสนิทก่อนทอดสำคัญที่สุดนะ แต่แดดบ้านฉันปีนี้แย่มากจริงๆ เลยต้องพึ่งใบเตยช่วย เสียดายนิดหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าทิ้งไป อย่างน้อยก็ยังกินได้ รสชาติก็ยังโอเคอยู่ แค่ต้องระวังกลิ่นหน่อย

ปลาสลิดแดดเดียวเก็บได้กี่วัน?

แสงแดด… ละลายลงบนเกล็ดปลา… คิดถึงรสสัมผัสกรอบๆ เค็มนิดๆ…

สามสิบวัน… ตัวเลขที่ติดตรึงบนฉลาก… บอกเวลา… ของความอร่อยที่ยังคงอยู่…

ปลาสลิด… แดดเดียว… แปดตัว… นอนสงบนิ่งในถุงสุญญากาศ…

รอ… การปลดปล่อย… สู่ความร้อนของกระทะ…

ซีลแน่น… เก็บกลิ่น… หอมเค็มอ่อนๆ… ไว้ในนั้น…

ไม่เค็มโดด… ไม่หืน… ไม่ชูรส… รสชาติแท้ๆ… ของปลา… และแสงแดด…

หยิบออกมาง่าย… แค่ฉีกซอง… ทอด… แล้วก็… อร่อย…

วันผลิต… วันหมดอายุ… ชัดเจน… บนฉลาก… ไม่ต้องกังวล…

• ปลาสลิดแดดเดียวเก็บได้ 30 วัน
• บรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ แพ็คตัวต่อตัว
• ไม่เค็มจัด ไม่หืน ไม่ใส่ผงชูรส
• มีวันผลิตและวันหมดอายุบนฉลาก
• จำนวน 8 ตัวต่อชุด

ปลาตากแห้งควรเก็บอย่างไร?

อืมมมม ปลาตากแห้งเนี่ยนะ เก็บยังไงดี ต้องคิดหนักเลย

• ถุงพลาสติก! ใช่เลย แน่นๆนะ อย่าให้มีอากาศเข้า ปีนี้ซื้อปลาแห้งจากตลาดนัดแถวบ้าน คุณป้าใจดีมาก เค้าบอกต้องปิดสนิทจริงๆ ไม่งั้นเสียเร็ว

• ตู้เย็น! อันนี้สำคัญมากกกกก จำได้เลย ปีที่แล้ว ไม่ได้แช่เย็น เหม็นหืนเร็วมาก เสียดายของสุดๆ ต้องแช่ช่องธรรมดานะ อย่าไปช่องฟรีซ เดี๋ยวแข็งโป๊ก

• อ้อ! อีกอย่าง ก่อนใส่ถุง ควรเช็ดให้แห้งสนิทก่อนนะ เหลือความชื้นนิดเดียวก็เน่าแล้ว เคยลองแล้ว ซวยเลย

อืมมม แต่ถ้าเยอะๆ จะใส่ตู้เย็นหมดเหรอ นี่สิปัญหา ขนาดตู้เย็นบ้านฉัน ยังเล็กอยู่เลย สงสัยต้องหาภาชนะปิดสนิทดีๆ มาเก็บส่วนที่เหลือ หรือว่าจะแช่แข็งดีนะ แต่กลัวแข็งเกินไป กินยาก

• ถ้าจะแช่แข็ง ควรแบ่งใส่ถุงเล็กๆก่อน จะได้หยิบใช้สะดวก ไม่ต้องละลายทั้งถุง

โอเค สรุป ง่ายๆเลย ปีนี้ฉันจำได้แม่นแล้ว

• ถุงพลาสติกปิดสนิท
• แช่ตู้เย็นช่องธรรมดา (ไม่ใช่ช่องฟรีซ!)
• เช็ดให้แห้งก่อนเก็บ

ปล. ปีนี้ฉันซื้อปลาแห้งมาเยอะมาก กลัวจะเก็บไม่หมด ฮือออ

#ปลาสลิด #อาหาร #เก็บรักษา