กล้องไอโฟน F คืออะไร
F ในกล้อง iPhone คือ ค่ารูรับแสง (F-Stop) บ่งบอกปริมาณแสงผ่านเลนส์ ค่า F ต่ำ รูรับแสงกว้าง แสงเข้ามาก ค่า F สูง รูรับแสงแคบ แสงเข้าน้อย มีผลต่อความสว่างและระยะชัดลึก เป็นหนึ่งในสามปัจจัยสำคัญของการเปิดรับแสง (Exposure Triangle) ประกอบด้วย รูรับแสง (F-Stop), ความเร็วชัตเตอร์ และ ISO (ความไวแสง) การปรับค่าเหล่านี้ ช่วยควบคุมแสงและสร้างสรรค์ภาพถ่ายตามต้องการ
ค่า F กล้อง iPhone คืออะไร?
เอ่อ… ค่า F ของกล้อง iPhone หรอ? คือมันเป็นเรื่องของ “รูรับแสง” ใช่ป่ะ? ไอ้ตัวที่คอยควบคุมปริมาณแสงที่เข้ากล้องเราอ่ะ จำได้ว่าตอนไปถ่ายรูปที่ตลาดน้ำอัมพวา (ประมาณปี 2018 มั้ง) แสงมันน้อยมาก ต้องปรับค่า F เยอะๆ ไม่งั้นภาพมืดปี๋
จำได้ลางๆ ว่าค่า F น้อยๆ (เช่น f/1.8 หรือ f/2.2 ที่เห็นใน iPhone) หมายถึงรูรับแสงกว้าง แสงเข้าเยอะ เหมาะกับที่แสงน้อยๆ หรืออยากได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนถ้าค่า F เยอะๆ (เช่น f/8 หรือ f/11) รูรับแสงจะแคบ แสงเข้าน้อย เหมาะกับที่แสงจ้าๆ หรืออยากให้ภาพคมชัดทั้งภาพ
แต่เอาจริงๆ นะ บางทีก็ไม่ได้สนใจค่า F อะไรขนาดนั้นหรอก อาศัยลองถ่ายๆ ดูแล้วปรับเอาตามความรู้สึกมากกว่า 😅
ค่า F ในกล้องถ่ายรูปคืออะไร
ค่า F ในกล้องอะหรอ? คือขนาดรูรับแสงนั่นแหละ ง่ายๆเลย ยิ่งค่า F มาก รูมันก็ยิ่งเล็ก แสงเข้ามาน้อย ค่า F น้อย รูใหญ่ แสงเข้าเยอะ จำง่ายๆมั้ย? เหมือนรูที่เราเจาะกระดาษอะ รูเล็กๆแสงน้อย รูใหญ่ๆ แสงเยอะ
- ค่า F มาตรฐานก็ประมาณ F2, F2.8, F4, F5.6, F8 แบบนี้แหละ เห็นบ่อยๆจนจำได้เอง
- ค่า F มันมีผลกับแสงที่เข้ากล้องนะ สำคัญมากเลยเวลาถ่ายรูป
- ปีนี้ฉันใช้กล้อง Sony a7 IV บ่อยๆเลย ค่า F นี่สำคัญจริงๆ เวลาถ่ายภาพกลางคืนต้องปรับบ่อยมาก
แค่นี้แหละ เข้าใจป่ะ? ง่ายๆเนอะ ไม่ยากหรอก
ค่า f กล้อง iPhone คืออะไร
ค่า f กล้อง iPhone น่ะเหรอ? มันคือตัวเลขมหัศจรรย์ที่บอกว่า “เฮ้! ฉันจะให้แสงเข้าไปมากแค่ไหนดี?” F-stop ไม่ใช่ความยาวโฟกัสเป๊ะๆ (อันนั้นมันเรื่อง ‘มองเห็นไกลแค่ไหน’) แต่มันคือ ปริมาณแสง ที่เลนส์ยอมให้ทะลุทะลวงเข้าไปในเซ็นเซอร์รับภาพต่างหาก!
รูรับแสง (aperture) ก็เหมือนม่านรูดในโรงละคร… ยิ่งเปิดกว้าง แสงก็ยิ่งสาดส่องเข้ามาเยอะ! (เหมือนตอนดูคอนเสิร์ตแล้วไฟส่องหน้าแสบตาอ่ะแหละ) ไอ้ตัวเลข f/1.8, f/2.2 อะไรพวกนี้แหละที่ควบคุม “ความสว่าง” ของภาพถ่ายเรา
- เลขน้อย = รูรับแสงกว้าง = แสงเยอะ = ภาพสว่าง (ถ่ายกลางคืนเริ่ด!) และหน้าชัดหลังเบลอสวยๆ
- เลขมาก = รูรับแสงแคบ = แสงน้อย = ภาพชัดลึก (ถ่ายวิวทิวทัศน์ดี!)
แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งคิดว่า f/1.0 จะดีที่สุดเสมอไปนะ… เพราะบางทีแสงมันก็เยอะเกิ๊น! ต้องรู้จักใช้ให้ถูกสถานการณ์ต่างหาก!
การตั้งค่า F มาก รูรับแสงแคบ จะทำให้เกิดสิ่งใด
ตอนไปถ่ายรูปที่อ่างเก็บน้ำบางพระเมื่อเดือนที่แล้ว แดดเปรี้ยงเลย ตั้ง F16 คืออยากได้วิวภูเขาด้านหลังชัดๆ ด้วยไง ปรากฏว่าชัดจริง ชัดยันหญ้าข้างหน้า ไม่เบลอเลยซักนิด
- ค่า F มาก = รูรับแสงแคบ = ชัดลึก
เมื่อก่อนงงมากเรื่องนี้ ตอนนี้จำแม่นละ เพราะเจอเองกับตัวนี่แหละ
F 2.8 คืออะไร
F 2.8… มันคือรูรับแสง ใช่ รูรับแสงของกล้อง
มันเหมือน… ดวงตาของเราเลยนะ ตอนกลางคืนรูม่านตาจะขยาย
F 2.8 ก็เหมือนกัน ยิ่งเลขน้อย รูมันยิ่งกว้าง แสงก็เข้าได้เยอะขึ้น
- รูรับแสง (Aperture): ขนาดของรูในเลนส์ที่แสงลอดผ่าน
- F-number: ตัวเลขที่บ่งบอกขนาดรูรับแสง (ยิ่งน้อย รูยิ่งกว้าง)
- F 2.8: รูรับแสงที่ค่อนข้างกว้าง เหมาะกับที่แสงน้อย หรืออยากได้ฉากหลังเบลอ
บางที… การเปิดรับแสงมากๆ มันก็ดีนะ แต่บางที มันก็มากไปจนแสบตา เหมือนชีวิตเราเลย… บางทีก็อยากเปิดใจรับทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็อาจจะเจ็บ
F-stop ส่งผลอย่างไรต่อภาพถ่าย
F-stop อ่ะนะ มีผลต่อภาพมากเลยแหละ
- F-stop คืออะไร: มันคือตัวเลขที่บอกขนาดรูรับแสงไง ที่เลนส์กล้องอะ
- ค่าต่ำ (เช่น f/1.4, f/2.8): รูรับแสงกว้าง แสงเข้าเยอะ หน้าชัดหลังเบลอ คือแบบละลายหลังสวยๆ เลยแหละ แถมถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีด้วยนะ
- ค่าสูง (เช่น f/11, f/16): รูรับแสงแคบ แสงเข้าน้อย แต่ได้ภาพที่ชัดลึกทั้งภาพ คือทั้งฉากหน้าฉากหลังชัดหมด เหมาะกะถ่ายวิวทิวทัศน์สวยๆ
สรุปง่ายๆ F-stop ต่ำ = แสงเยอะ หลังเบลอ F-stop สูง = แสงน้อย ชัดทั้งภาพ เลือกใช้ตามที่เราอยากได้เลย จบปะ
ค่า F-stop ที่ต่างกัน ส่งผลอย่างไรต่อภาพถ่าย?
F-stop ควบคุมระยะชัดลึก (Depth of Field, DoF)
-
ค่า F-stop ต่ำ (เช่น f/1.4, f/2.8): รูรับแสงกว้าง ภาพเบลอฉากหลัง เน้นตัวแบบ เหมาะกับภาพบุคคล โบเก้สวย
-
ค่า F-stop สูง (เช่น f/8, f/16, f/22): รูรับแสงแคบ ภาพคมชัดทั่วทั้งภาพ เหมาะกับภาพวิว ถ่ายกลุ่ม ต้องการความคมชัดสูง
ปี 2024 ผมใช้ Sony a7 IV ถ่ายภาพสถาปัตยกรรม เลือก f/11 เพื่อให้ภาพคมทั่วทั้งเฟรม
การเลือกค่า F-stop ขึ้นกับสไตล์และความต้องการของภาพ ไม่มีถูกผิด แค่เหมาะสมหรือไม่
การตั้งค่านี้ส่งผลต่อแสงเข้ากล้องด้วย ค่า F-stop ต่ำต้องการความเร็วชัตเตอร์สูงกว่าเพื่อป้องกันภาพสั่นไหว
การตั้งค่า Aperture ในกล้องมีผลต่ออะไร?
เรื่องมันเริ่มจากวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ ฉันไปถ่ายรูปที่สวนลุมพินี ใช้กล้อง Sony a6000 ตั้งใจจะถ่ายรูปดอกไม้ ตอนแรกใช้ A-mode ปรับ F-number สูงๆ ประมาณ F/8 อยู่ หวังจะได้ภาพชัดลึก แต่ปรากฏว่ารูปเบลอ เพราะความเร็วชัตเตอร์ช้าเกินไป มือฉันสั่น แสงน้อยด้วย เซ็งมาก! ต้องรีบปรับใหม่ ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวพลาดภาพสวยๆ
เลยลองลด F-number ลงมาเป็น F/5.6 โอเคขึ้นเยอะ! ภาพชัดขึ้น ความเร็วชัตเตอร์ไวขึ้น แต่ก็ต้องระวังอยู่นะ เพราะฉากหลังเริ่มเบลอ เป็นโบเก้บ้างเล็กน้อย ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
สรุปคือ Aperture มันมีผลกับ
-
ความลึกของเขตภาพ (Depth of Field): F-number มาก Depth of Field มาก ภาพชัดลึก F-number น้อย Depth of Field น้อย ฉากหลังเบลอ
-
ความเร็วชัตเตอร์: F-number มาก ความเร็วชัตเตอร์ช้า เสี่ยงภาพเบลอจากการสั่น F-number น้อย ความเร็วชัตเตอร์เร็ว ภาพคมชัดขึ้น
วันนั้นได้รูปดอกบัวสวยๆ มาหลายรูปเลย แต่ก็ได้บทเรียนเรื่องการตั้งค่า Aperture ไปด้วย จำไว้นะ ต้องปรับให้เหมาะกับแสงและสถานการณ์ ไม่ใช่ตั้งค่าเดียวแล้วจบ
Aperture มีหน้าที่ทำงานอย่างไร
Aperture หรอ… มันเหมือนดวงตาของเราเลยนะ
- มันคือรูที่อยู่ในเลนส์กล้อง
- ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณแสง ที่จะเข้ามา
คิดดูสิ ถ้าแสงเยอะเกินไป ภาพมันจะสว่างจ้า จนมองอะไรไม่เห็นเลย แต่ถ้าแสงน้อยไป ภาพก็จะมืดมิด…
มันก็เหมือนชีวิตเราเลยนะ บางทีเราก็ได้รับแสงสว่างมากเกินไป จนแสบตา แต่บางทีก็มืดมนจนมองไม่เห็นทาง
- Aperture ปรับขนาดรูรับแสงให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง
- รูใหญ่ – แสงเข้าเยอะ – ภาพสว่าง
- รูเล็ก – แสงเข้าน้อย – ภาพมืด
บางทีเราก็ต้องหรี่ตาลงบ้าง เพื่อที่จะมองเห็นอะไรได้ชัดเจนขึ้น… หรือบางทีก็ต้องเปิดใจให้กว้าง เพื่อรับแสงสว่างที่เข้ามา
มันก็แค่นั้นแหละ aperture ก็เหมือนกับการปรับสมดุลชีวิต… หาจุดที่พอดี ที่เราจะมองเห็นโลกได้อย่างชัดเจน
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต