ทำไมคนท้องห้ามกินเค็ม

17 การดู
การกินเค็มจัดระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ โรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ และครรภ์เป็นพิษ ส่งผลเสียต่อทั้งแม่และลูก นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตในอนาคต ควรจำกัดโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน เลือกทานอาหารสดปรุงเอง และปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัย
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เค็ม…ภัยเงียบที่คนท้องต้องระวัง: ผลเสียร้ายแรงและวิธีรับมือ

การตั้งครรภ์ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของผู้หญิง การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์จึงเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ หนึ่งในข้อห้ามที่มักได้ยินกันอยู่เสมอคือ คนท้องห้ามกินเค็ม แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และการกินเค็มจะส่งผลเสียต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงอันตรายของการกินเค็มจัดในระหว่างตั้งครรภ์ พร้อมทั้งแนวทางการรับมือเพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูก

ทำไมต้องจำกัดปริมาณโซเดียม?

โซเดียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายในการควบคุมสมดุลของเหลวและช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ แต่หากร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป ก็จะเกิดผลเสียตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์ การกินเค็มจัดจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ดังนี้

  • ภาวะบวมน้ำ: ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เกิดการกักเก็บน้ำมากขึ้น การได้รับโซเดียมในปริมาณมากจะยิ่งส่งผลให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้นไปอีก ทำให้เกิดอาการบวมตามมือ เท้า และใบหน้า ซึ่งอาจสร้างความไม่สบายตัวและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

  • โรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์: โซเดียมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความดันโลหิต การกินเค็มจัดจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หากความดันโลหิตสูงเกินเกณฑ์ปกติ อาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูก

  • ครรภ์เป็นพิษ: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีความดันโลหิตสูงและมีโปรตีนในปัสสาวะ ภาวะนี้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ชัก ตับวาย ไตวาย และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก

  • ผลเสียต่อไต: การรับประทานโซเดียมในปริมาณมากเกินไปเป็นเวลานาน จะเพิ่มภาระให้กับไตในการขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของไตในระยะยาว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตในอนาคต

ปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมและแนวทางการรับมือ

โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรจำกัดปริมาณโซเดียมที่ได้รับต่อวันไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือประมาณ 1 ช้อนชา เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อย ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้

  • เลือกทานอาหารสดปรุงเอง: อาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป และอาหารนอกบ้านมักมีปริมาณโซเดียมสูง ควรเลือกทานอาหารสดที่ปรุงเอง เพื่อควบคุมปริมาณโซเดียมที่ได้รับ

  • อ่านฉลากโภชนาการ: ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร ควรตรวจสอบฉลากโภชนาการเพื่อดูปริมาณโซเดียมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

  • ลดปริมาณการเติมเครื่องปรุง: หลีกเลี่ยงการเติมน้ำปลา ซีอิ๊ว หรือผงชูรสในปริมาณมากในการปรุงอาหาร

  • ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศ: เพิ่มรสชาติให้กับอาหารด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศต่างๆ แทนการใช้เกลือหรือน้ำปลา

  • ปรึกษาแพทย์: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปริมาณโซเดียมที่เหมาะสม หรือมีอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้อง

การดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ การใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน โดยเฉพาะการจำกัดปริมาณโซเดียม จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ และส่งผลให้คุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ตลอดการตั้งครรภ์