ปลาทูนึ่งแช่แข็งได้ไหม

ปลาทูนึ่งแช่ตู้เย็นอยู่ได้กี่วัน

ปลาทูนึ่งเก็บได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บรักษา หลักๆ คือสองแบบ

• ตู้เย็นช่องธรรมดา (0-4 องศาเซลเซียส): ควรกินภายใน 2-3 วัน หลังจากนั้นรสชาติและคุณภาพอาจลดลง ที่บ้านผมมักจะกินไม่เกิน 2 วัน เพราะกลัวเสีย ความสดใหม่สำคัญนะ ผมเชื่อว่าการรับประทานอาหารสดใหม่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น อย่างน้อยก็ในมุมมองส่วนตัวของผม

• ตู้เย็นช่องฟรีซ (-18 องศาเซลเซียส): เก็บได้นานถึง 2-3 เดือน แต่สำคัญมากที่ต้องห่อหรือบรรจุให้มิดชิด ป้องกัน freezer burn และกลิ่นอื่นๆปนเปื้อน เคยลืมห่อแล้วกลิ่นกระจายไปทั่วตู้เย็น จำได้เลย เป็นประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แย่กว่าปลาเสียอีก

เพิ่มเติมเล็กน้อย: การแช่แข็งเป็นการชะลอการเสื่อมสภาพของอาหาร แต่ไม่ใช่การหยุดยั้ง ดังนั้นแม้จะแช่แข็งแล้ว ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงคุณภาพอยู่บ้าง อย่าลืมตรวจสอบก่อนรับประทานทุกครั้งนะครับ ดูให้แน่ใจว่าปลายังคงมีสภาพดีอยู่ ส่วนตัวผมเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก กินอะไรแล้วไม่สบาย เสียเวลาและเสียเงิน ไม่คุ้มเลย

ทำปลาทูนึ่งแช่น้ำเกลือกี่นาที

ปลาทูนึ่ง? 3 นาทีแช่น้ำเกลือ, 4-5 นาทีในน้ำเดือด. แค่นั้น.

• เกลือ: มากกว่าถนอมอาหาร, คือรสชาติ.
• เวลา: น้อยไปดิบ, มากไปเละ. เส้นบางๆ.
• เข่ง: ไม่ใช่แค่ภาชนะ, คือความทรงจำ. (เคยเห็นยายทำ)
• รักบ้านเกิด: เว็บนั้นก็ดี, แต่ทำเองดีกว่า. (ลองแล้วจะรู้)

เรื่องปลา, เรื่องชีวิต…ก็คล้ายกัน.

ปลาทูนึ่ง ล้างได้ไหม

ปลาทูนึ่งอ่ะ ล้างได้นะ แต่ต้องเร็วๆ อ่ะแก

เอาน้ำเย็นเจี๊ยบๆ เลยนะ ล้างแค่แบบรอบๆ ตัวปลาพอนะเว้ย อย่าแช่นาน เนื้อปลาจะเละ แล้วรสชาติมันจะจืดๆ อ่ะ ไม่แซ่บ

คือที่ล้างอ่ะ หลักๆ ก็เพราะว่ามันอาจจะมีพวกผงๆ ติดมาตอนนึ่งไง พวกเศษๆ อ่ะ แล้วก็พวกเกลือที่เค้าใส่เยอะๆ หรือเครื่องปรุงที่มันติดตัวปลามา

• ทำไมต้องล้าง: เอาจริงๆ คือเรื่องความสะอาดอ่ะแหละ บางทีเราไม่รู้ว่าตอนเค้านึ่งมันมีอะไรติดมาบ้าง
• น้ำเย็นสำคัญ: น้ำเย็นมันช่วยไม่ให้เนื้อปลาเสียรสชาติเร็วนะ
• อย่าแช่นาน: แป๊บเดียวพอจริงๆ เพราะเดี๋ยวเนื้อปลาจะจืด
• ล้างแบบเบามือ: ปลาทูมันบอบบางนะแก ล้างแรงๆ เดี๋ยวมันเละหมด
• กินกับน้ำพริก: ล้างเสร็จกินกับน้ำพริกคือที่สุด!

ปลาแช่แข็งทำยังไงให้ละลายเร็ว?

เอ้า! ปลาแช่แข็งจะละลายไวเนี่ยนะ? ง่ายกว่าที่คิด! อย่าไปเสียเวลาแช่น้ำเย็นเป็นชั่วโมงเหมือนคนโบราณเลย เดี๋ยวนี้มีวิธีลัด!

• วิธีที่ 1: ใช้พลังแห่งไมโครเวฟ! เปิดโหมดละลายน้ำแข็ง เร็วปรู๊ด! แค่นี้ก็ได้ปลาละลายพร้อมทอด (แต่ระวัง! อย่าให้สุกไปด้วยล่ะ เดี๋ยวจะได้ปลาต้มแทนปลาทอด!)

• วิธีที่ 2: เทคนิค “น้ำเย็นจัด+ความเร็วสูง”! แช่ในน้ำเย็นจัด แต่เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เหมือนเปลี่ยนแฟน เร็วกว่าเดิมเป็นเท่าตัว! (อ้อ ลืมบอก เปลี่ยนน้ำทุก 15 นาทีนะ ไม่ใช่ 30 นาทีเหมือนที่บอกมา เพราะผมรู้ว่าคุณขี้เกียจเปลี่ยนน้ำ อิอิ)

• วิธีที่ 3: ขั้นเทพ! ใช้ถุงซิปล็อค แช่ในน้ำเย็น แล้วใช้มือค่อยๆ บีบถุงให้เย็นทั่วถึง เหมือนนวดปลาให้ผ่อนคลาย รับรองละลายเร็วเว่อร์! (วิธีนี้เหมาะสำหรับคนมีเวลาว่างเยอะ และมีความอดทนสูงเท่านั้น)

หมายเหตุ: อย่าละลายด้วยน้ำอุ่นเด็ดขาด! ปลาจะเสียรสชาติ เหมือนความรักที่แปรเปลี่ยนไปเพราะความร้อนแรง อุ๊บส์! พูดไปก็เพ้อเจ้อ เอาเป็นว่า ใช้เทคนิคข้างบนนี่แหละ รับรองได้ปลาละลายอย่างรวดเร็ว! ปีนี้ผมลองวิธีบีบถุงแล้ว เร็วจริง!

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี 2566: ผมลองเทคนิคต่างๆ แล้ว วิธีบีบถุงนี่ดีจริงๆ ประหยัดเวลาและพลังงาน ลองดูนะ! แต่ถ้าขี้เกียจ ก็ไมโครเวฟโลด! ง่ายสุดๆ (แต่ดูแลเรื่องความสุกด้วยนะ เผื่ออยากได้ปลาต้มแทนปลาทอด)

อาหารแช่แข็ง ยังมีสารอาหารไหม?

ยังมี! แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านม่านหน้าต่างห้องครัว กลิ่นกาแฟอุ่นๆ โชยมาปะทะจมูก ฉันหยิบถุงแช่แข็งบรรจุผักโขมขึ้นมา สีเขียวเข้ม เหมือนหยดน้ำค้างยามเช้าบนใบไม้

• วิตามินยังอยู่ครบถ้วน อย่างน้อยก็ส่วนใหญ่ แต่…

ความเย็นเยือกแข็ง ราวกับฤดูหนาวกลางดึก แม้จะรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ แต่บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เหมือนความทรงจำที่เลือนลาง

• อาจลดลงเล็กน้อย ไม่ใช่หายไปหมด

ปีนี้ ฉันลองศึกษาเพิ่มเติม จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า การแช่แข็งที่ถูกวิธี จะช่วยรักษาสารอาหารได้มากถึง 90% ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารด้วยนะ

• ผักผลไม้ คงความสดใหม่ได้ดี ยิ่งแช่แข็งเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น เหมือนเก็บเกี่ยวความสดชื่นเอาไว้

ความจริงแล้ว อาหารแช่แข็ง บางครั้งยังดีกว่าอาหารสดที่เก็บไว้นานๆ เพราะมันถูกล็อคคุณค่าไว้ เหมือนดอกไม้ถูกแช่แข็งในก้อนน้ำแข็ง ความสวยงามยังคงอยู่ แม้เวลาจะผ่านไป

• วิธีการแช่แข็งสำคัญมาก ต้องรวดเร็ว ป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่ทำลายเซลล์อาหาร

ฉันจินตนาการถึงอาหารแช่แข็ง เป็นเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า แม้จะอยู่ไกล แต่แสงสว่างยังคงส่องถึง ยังคงมอบพลังและสารอาหารให้เรา