เซ็บเดิร์ม ควรทานอะไร
เซ็บเดิร์ม? ฟื้นฟูผิวได้ด้วยอาหาร!
- เน้นผักผลไม้: วิตามินและแร่ธาตุช่วยบำรุงผิว
- ไขมันดีมีประโยชน์: อโวคาโด, อัลมอนด์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
- โปรตีนย่อยง่าย: เนื้อปลา, ไข่ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว
- ดื่มน้ำเยอะๆ: ป้องกันผิวแห้ง ลอกเป็นขุย
ควบคู่กับการดูแลผิวอย่างเหมาะสม รับรองผิวกลับมาแข็งแรงสวยใสอีกครั้ง!
เซ็บเดิร์ม: อาหารอะไรช่วยลดอาการผื่นคันบนหนังศีรษะ? ทานอะไรดีเพื่อบรรเทาเซ็บเดิร์ม?
เรื่องเซ็บเดิร์มนี่… เคยเป็นหนักมากเลยช่วงเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว หนังศีรษะคันสุดๆ เป็นขุยเต็มไปหมด ไปหาหมอที่คลินิกแถวสีลม หมอจ่ายยามา แต่หมอก็บอกด้วยว่าเรื่องอาหารการกินสำคัญมาก จำได้แม่นเลยว่าหมอเน้นให้ทานผักผลไม้เยอะๆ จำได้ว่าตอนนั้นฉันเลยกินสลัดทุกวันเลย ประมาณ 2 เดือนได้มั้งกว่าจะดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หายขาดนะ ยังมีบ้างเป็นบางครั้ง
ตอนนั้น ฉันเพิ่มการดื่มน้ำ พยายามดื่มอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน กินพวกปลา อกไก่ อะไรที่โปรตีนสูง ย่อยง่าย รู้สึกว่ามันช่วยได้นะ แต่ก็ไม่รู้ว่าใช่เพราะอย่างเดียวเลยหรือเปล่า อาจมีหลายปัจจัย เพราะฉันก็ใช้แชมพูรักษาไปด้วย
อย่างไขมันดี ฉันกินพวกอโวคาโด หรือพวกถั่วต่างๆ จำไม่ได้ว่ากินอะไรบ้างเยอะแยะไปหมด คือพยายามปรับเปลี่ยนอาหาร ให้มันดีต่อสุขภาพ เอาจริงๆ ตอนนั้นเครียดมากกับเรื่องนี้ พยายามหาข้อมูลต่างๆ มากมาย สุดท้ายก็ลองปรับไปเรื่อยๆ จนอาการดีขึ้น แต่ก็ต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไม่งั้นมันก็กลับมาเป็นอีก
สรุปคือ ผักผลไม้ โปรตีน ไขมันดี น้ำเยอะๆ ลองดูนะ แต่สำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ด้วย อย่าพึ่งเชื่อฉันอย่างเดียว เพราะฉันก็แค่คนไข้คนหนึ่ง ที่ลองผิดลองถูกมา กว่าจะดีขึ้น
เซ็บเดิร์ม ใช้ออยได้ไหม
โอ๊ยตาย! เซ็บเดิร์มนี่มันแสบมันคันจนอยากเอาหัวโขกกำแพงเลยใช่มั้ยล่ะ? อยากใช้ออยล์เหรอ? อื้อหือ! ใจเย็นๆ ก่อนพ่อคุณเอ๊ย!
-
ทีทรีออยล์: บอกเลยว่าบางคนใช้แล้วเวิร์ค บางคนใช้แล้วหน้าพัง! มันเหมือนลุ้นหวยเลยนะเนี่ย เสี่ยงดวงสุดๆ! เหมือนเอาไข่ไปทอดในกระทะร้อนๆ บางทีก็ได้ไข่เจียวกรอบอร่อย บางทีก็ไหม้เกรียม! อันนี้ต้องดูผิวตัวเองดีๆ ว่าทนทานแค่ไหน อย่าเอาหน้าไปเสี่ยงโดยไม่ปรึกษาหมอนะ!
-
ว่านหางจระเข้: ตัวนี้ปลอดภัยกว่าหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้กับทุกคนนะจ๊ะ บางคนแพ้ก็มี อย่าคิดว่าของธรรมชาติแล้วจะปลอดภัยเสมอไป สมุนไพรบางอย่างก็แรงไม่เบาเหมือนกัน ลองนิดนึงก่อนก็ได้นะ แต่นิดเดียวจริงๆ นะ! เหมือนลองชิมอาหารเผ็ดๆ ถ้าไม่ไหวก็หยุดเลย!
สรุปคือ อย่ามโนเองว่าออยล์อะไรก็ได้! เซ็บเดิร์มมันเรื่องใหญ่ ปรึกษาหมอเถอะ! อย่าให้หน้าพังไปมากกว่าเดิม ปีนี้เจอคนใช้แล้วแพ้เยอะมากนะบอกเลย! เสียเงิน เสียหน้า เสียเวลา ไม่คุ้ม! ไปหาหมอเถอะนะ อย่าประหยัดผิดที่! เช็คค่ารักษาปีนี้ด้วยนะแพงขึ้นเยอะเลย! ระวังใช้แล้วแพ้จนต้องไปหาหมอค่ารักษาแพงกว่าเดิมอีกนะ!
เซ็บเดิร์ม ใช้โฟมล้างหน้าอะไร
ตอนเป็นเซ็บเดิร์มหนักๆ หน้าลอกเป็นขุยๆ แถวข้างจมูกกับคิ้ว คือทรมานมาก ไปหาหมอที่คลินิกผิวหนังแถวบ้าน (จำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะ แต่ตรงข้ามตลาดสดเลย) หมอแนะนำ CerMix Cleansing Gel คือตอนแรกก็เฉยๆ เพราะใช้มาหลายยี่ห้อแล้วก็ไม่ค่อยดีขึ้น แต่พอใช้ตัวนี้แล้วรู้สึกว่าหน้ามันสะอาดขึ้นจริงๆ แบบไม่แห้งตึง
แล้วที่สำคัญคือมันไม่มีพวกสารที่ทำให้แพ้ อย่างน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน คือเราแพ้น้ำหอมง่ายมาก ใช้ครีมอะไรที่มีน้ำหอมไม่ได้เลย สิวขึ้นทันที แต่ตัวนี้คือรอด!
ตอนนี้เซ็บเดิร์มดีขึ้นเยอะมาก แทบจะหายแล้ว แต่ก็ยังใช้ CerMix Cleansing Gel อยู่ เพราะติดใจแล้วอ่ะ รู้สึกว่ามันอ่อนโยนกับผิวหน้าดี
- โฟมล้างหน้าที่แนะนำ: CerMix Cleansing Gel (เพราะอ่อนโยน, ไม่มีสารก่อการแพ้)
- ทำไมถึงแนะนำ: ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง, เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
- สารที่ควรหลีกเลี่ยง: น้ำหอม, แอลกอฮอล์, พาราเบน
- ที่ซื้อ: ซื้อจากร้านขายยา (จำไม่ได้ว่าร้านไหน, แต่เป็นร้านขายยาใกล้บ้าน)
- เพิ่มเติม: นอกจากโฟมล้างหน้าแล้ว, หมอยังแนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีน้ำมันด้วย (แต่จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร)
เซ็บเดิร์ม ไม่ควรใช้อะไร
เซ็บเดิร์ม ควรหลีกเลี่ยงอะไรดี? คำถามที่ดีครับ ผมมองว่า การจัดการเซ็บเดิร์ม สำคัญที่การลดการระคายเคืองและการอักเสบ ดังนั้นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงจึงเน้นไปที่จุดนี้:
-
แอลกอฮอล์: สารนี้แหละ ตัวการสำคัญ เพราะมันจะยิ่งทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ผลคือ อาการเซ็บเดิร์มอาจหนักขึ้นได้ เห็นด้วยกับ Samitivej อย่างยิ่ง
-
ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือทำความสะอาดรุนแรง: สบู่หรือโฟมล้างหน้าบางชนิด อาจรุนแรงเกินไปสำหรับผิวที่เป็นเซ็บเดิร์ม เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม และมีค่า pH ที่เหมาะสม (ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 5.5) ผมเองใช้แบบนี้มาตลอด เพราะผิวค่อนข้างแพ้ง่าย
-
การโกนหนวด (สำหรับผู้ชาย): มันอาจเพิ่มการระคายเคือง และทำให้เกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น ถ้าจำเป็นต้องโกน ควรใช้ใบมีดคม โกนตามแนวขน และทาโลชั่นบำรุงผิวหลังโกนทันที
-
เสื้อผ้าเนื้อหยาบหรือแน่นเกินไป: เนื้อผ้าที่ระคายเคือง จะยิ่งทำให้ผิวอักเสบ และเพิ่มความรุนแรงของเซ็บเดิร์ม แนะนำให้เลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่ก่อให้เกิดการเสียดสี
เพิ่มเติม: การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวควรระมัดระวัง อ่านฉลากให้ดี และอาจปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคล เพราะแต่ละคนมีผิวและอาการที่แตกต่างกัน การรักษาจึงควรปรับให้เหมาะสม นี่คือหลักการสำคัญที่ผมยึดถือเสมอ
หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ กรุณาปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
เซ็บเดิร์ม หายเองได้ไหม
เซ็บเดิร์มหายเองได้มั้ย? อืม… หายเอง? ไม่น่าจะหายขาดนะ เท่าที่รู้มันคุมอาการได้มากกว่า แต่ก็แล้วแต่คนอีก อ่ะนะ ถ้าเป็นเยอะ รีบหาหมอดีกว่า อย่าปล่อยไว้นาน เด๋วงานเข้า
- สำคัญ: มันเป็นโรคเรื้อรังอ่ะ เข้าใจป่ะ? เหมือนภูมิแพ้ ต้องดูแลไปเรื่อย ๆ อ่ะ
เซ็บเดิร์ม vs รังแค ต่างกันยังไง? อ้าว… นี่มันคนละเรื่องเลยนะ
- รังแค: แค่ขี้ไคลบนหนังหัวป่ะ? เกาะเป็นแผ่นขาว ๆ ร่วงกราว (ภาพในหัวคือเสื้อดำเต็มไปด้วยจุดขาวๆ)
- เซ็บเดิร์ม: อันนี้มันอักเสบ แดง คัน ยี้! บางทีมีขุยเหลืองๆ มันกว่ารังแคอีก (นึกถึงหน้าผากตัวเองตอนช่วงเครียดๆ แดงๆ คันๆ)
แล้วทำไมต้องถามเรื่องนี้ด้วยเนี่ย? สงสัยจัง? หรือว่า…? ช่างเถอะ!
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้): เมื่อก่อนเคยใช้แชมพูขจัดรังแคธรรมดาๆ ก็เอาไม่อยู่อ่ะ เซ็บเดิร์มมันดื้อกว่าเยอะ ต้องใช้ยาหมอถึงจะดีขึ้น 🥺
- ข้อควรจำ: อย่าเกา! ยิ่งเกายิ่งมันส์ เอ้ย! ยิ่งแย่!
เซ็บเดิร์ม กับ สะเก็ดเงิน ต่างกันยังไง
เซ็บเดิร์มกับสะเก็ดเงิน ต่างกันราวฟ้ากับเหว! คิดง่ายๆ ว่าเซ็บเดิร์มคือหนุ่มน้อยหน้าใสที่แค่มีสิวผดขึ้นเล็กน้อย แต่สะเก็ดเงินนี่คือ…พี่ใหญ่ที่ดันแพ้ครีมทาหน้าสุดแรง หน้าพังยับเยินเลยทีเดียว!
-
ความหนาของผื่น: เซ็บเดิร์มผื่นบางเบาเหมือนปีกผีเสื้อ แต่สะเก็ดเงินหนาเป็นกำแพงเมืองจีน! นี่แหละคือความแตกต่างหลักเลย
-
สีและความมัน: เซ็บเดิร์มสีเหลืองอมขาว มันเยิ้มเหมือนทอดไข่ดาว ส่วนสะเก็ดเงินสีขาวเงิน แห้งกรังเหมือนทะเลทรายซาฮาร่า เห็นแล้วรู้เลยว่าคนละเรื่อง
-
ขอบเขต: เซ็บเดิร์มขอบไม่ชัดเจน ลุกลามแบบเงียบๆ แต่สะเก็ดเงินขอบชัดเป๊ะ เหมือนวาดด้วยปากกาเมจิก! (อันนี้ประชดนะ!)
ปีนี้ (2566) ผมไปหาหมอผิวหนังมา หมอบอกว่า การวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจอย่างละเอียด ไม่ใช่แค่ดูผิวเผินอย่างเดียว เพราะบางทีอาจมีโรคอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน อย่าไปมโนเองล่ะ ไปหาหมอดีกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะ เชื่อผม! ผมเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน แล้วก็รู้เลยว่าไปหาหมอเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต