จะรู้ได้ไงว่าแพ้คาเฟอีน

32 การดู

จะรู้ได้อย่างไรว่าแพ้คาเฟอีน?

อาการแพ้คาเฟอีนจริงจังนั้นแตกต่างจากอาการไวต่อคาเฟอีนทั่วไป โดยจะรุนแรงกว่ามาก สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ผื่นลมพิษขึ้นตามผิวหนัง โดยเฉพาะตุ่มแดงบวมจำนวนมาก ปากบวม หรือคอบวม หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

อาการแพ้คาเฟอีนมีอะไรบ้าง?

อาการแพ้คาเฟอีนที่พบได้ เช่น ผื่นลมพิษ บวมบริเวณปากและคอ

สาเหตุและวิธีป้องกัน?

(ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีป้องกันจำเป็นต่อการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน)

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการแพ้คาเฟอีนคืออะไร?

อาการแพ้คาเฟอีนเหรอ? เอ่อ…คือไม่ได้เป็นแค่ใจสั่น มือสั่น แบบกินกาแฟเยอะไปนะ (ซึ่งอันนั้นคือฉันเองบ่อยๆ เลย)

อาการแพ้จริงๆ มันจะแบบ…โห! เรื่องใหญ่กว่านั้นเยอะ ผื่นขึ้นเต็มตัวเลยนะ เคยเห็นในรูปที่เค้าโฆษณา พวกผื่นลมพิษอ่ะ ที่แบบแดงๆ บวมๆ น่ากลัว แล้วปากบวม คอบวมด้วย! คิดดูดิ…น่ากลัวมาก

คือถ้าแค่รู้สึกว่าตัวเองไวต่อคาเฟอีน อาจจะแค่ลดปริมาณลงหน่อยก็ดีนะ แต่ถ้ามีอาการแบบที่ว่ามาข้างบนอ่ะ รีบหาหมอเลยเถอะ! อย่ารอช้า!

คาเฟอีน อยู่ในร่างกายกี่ชั่วโมง

คาเฟอีนเนี่ยนะ ตัวดีเลย! อยู่ในร่างเรานานประมาณ 6 ชม. กว่าจะหมดฤทธิ์เดชนะ แล้วกว่าจะขับออกหมดจด ก็ปาเข้าไป 48 ชม. โอ้โห…นานกว่าดูซีรีส์จบอีก!

  • ดื่มกาแฟแล้วนอนไม่หลับ? ก็แน่สิ! อย่าหาทำดื่มหลังบ่ายสามโมง ถ้าไม่อยากเป็นนกฮูกกลางคืน
  • ไวต่อคาเฟอีน? ก็ลดปริมาณลงหน่อยสิคุณ! หรือไม่ก็…ช่างมัน! (อันนี้ล้อเล่นนะ อย่าทำตาม)
  • เคล็ดลับ: ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยขับคาเฟอีนออกนะ (แต่ระวังเข้าห้องน้ำบ่อยล่ะ)
  • ความจริงที่ขมขื่น: บางคนดื่มกาแฟก่อนนอนยังหลับได้ อันนี้ก็แล้วแต่บุญแต่กรรม

ข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้มีร้านกาแฟเปิดใหม่เยอะมาก สงสัยคนอยากเป็นนกฮูกกันทั้งประเทศ!

กินอะไรล้างคาเฟอีน

อืมมม กินอะไรล้างคาเฟอีนเนี่ยนะ ไม่มีหรอก! แบบว่า ไม่มีอาหารวิเศษอะไรที่ล้างออกได้ป่ะ จริงป้ะ? มันต้องผ่านตับใช่ไหม ตับฉันนี่แหละ ทำงานหนักทุกวัน

  • ตับนี่สำคัญมากเลยนะ คิดแล้วก็เหนื่อยแทน
  • น้ำเยอะๆ ช่วยได้มั้ย? อาจจะช่วยนิดหน่อยมั้ง เร่งการทำงานของตับแหละ
  • นอนเยอะๆ ดีกว่านะ วันนี้ฉันนอนดึกมากเลย เพลียสุดๆ ตื่นเช้ามาไม่ไหวเลย
  • ออกกำลังกายเบาๆ ก็ดีนะ แต่ฉันนี่ไม่ค่อยได้ออกเลย ขี้เกียจจริงๆ ปีนี้ตั้งใจจะเริ่มวิ่ง แต่ยังไม่ได้เริ่มเลย

ง่วงแล้ว คาเฟอีนนี่มันร้ายกาจจริงๆ พรุ่งนี้ต้องกินกาแฟให้น้อยลง จริงๆ ปีนี้ฉันพยายามลดกาแฟอยู่ แต่ก็ยังดื้อดึงอยู่ดี ฮือออ

อ้อ! ลืมไป เคยอ่านเจอว่า การทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง อาจช่วยลดผลกระทบจากคาเฟอีนได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะล้างออกนะ แค่ช่วยบรรเทาอาการ เช่น กล้วย มันฝรั่ง แต่ก็อย่าหวังมาก ยังไงก็ต้องให้ตับทำงาน

ทำไมกินกาแฟแล้วคันคอ

โอ้โห! คันคอหลังดื่มกาแฟเนี่ยนะ เหมือนโดนผึ้งต่อยคอเบาๆ เลยใช่ไหมล่ะ? สำหรับคนเป็นโรคกรดไหลย้อนนี่ มันคือเรื่องธรรมดาสามัญประจำบ้าน แต่ไม่ธรรมดาสำหรับลำคอเราเลยเนอะ!

เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะเจ้าคาเฟอีนนี่แหละ ตัวดี! มันเป็นกรดนะจ๊ะ ไม่ใช่ว่าจะหวานปานน้ำผึ้ง ดื่มเข้าไปปุ๊บ มันไปกระตุ้นให้กระเพาะผลิตกรดเพิ่มขึ้น เหมือนเปิดโรงงานกรดขนาดย่อมๆ ในท้องเลยล่ะ กรดล้นทะลัก ก็เลยไหลย้อนขึ้นมาทำร้ายเยื่อบุหลอดอาหาร และสุดท้ายก็มาลงเอยที่ลำคอเรา ระคายเคืองจนคันคอเป็นแถบๆ!

  • คาเฟอีน = ตัวการสำคัญ: เจ้าคาเฟอีนนี่แหละ ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอาการคันคอหลังดื่มกาแฟในผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน มันกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหารอย่างบ้าคลั่ง!

  • กรดไหลย้อน = โรคยอดฮิต: โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคยอดฮิต ใครๆ ก็เป็นได้ โดยเฉพาะพวกสายดื่มกาแฟ หรือชอบกินของรสจัดๆ ปีนี้กระแสสุขภาพมาแรง แต่โรคนี้ยังคงแรงไม่แพ้กันนะ

  • อาการคันคอ = สัญญาณเตือน: คันคอหลังดื่มกาแฟ นี่เป็นแค่สัญญาณเล็กๆ ถ้าปล่อยไว้อาจกลายเป็นแผลในหลอดอาหารได้นะ ต้องระวัง! อย่าล้อเล่นกับเรื่องสุขภาพ เพราะมันไม่ใช่เรื่องตลก

เพื่อนผมคนนึงที่เป็นโรคนี้ บอกว่าเคยลองดื่มกาแฟแบบไม่ใส่น้ำตาล หรือกาแฟอ่อนๆ ดูอาการก็ดีขึ้นนะ แต่ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย อย่าดื้อยา และที่สำคัญ ปรึกษาแพทย์ อย่าหาข้อมูลเองจากเน็ตอย่างเดียวล่ะ เพราะชีวิตของคุณมีค่ากว่านั้น อย่ามัวแต่กลัวการไปพบแพทย์ ยิ่งช้า ยิ่งอันตรายนะ ขอให้หายไวๆ นะครับ!

กินกาแฟแล้วเวียนหัวทำไงดี?

กินกาแฟแล้วเวียนหัว… มันแย่เนอะ

เคยเป็นเหมือนกันนะ เวียนหัวแบบโลกหมุนๆ เหมือนคนเมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดื่มอะไรเลย นอกจากกาแฟแก้วเดียว

มันทรมานจริงๆ นะ… เหมือนร่างกายมันบอกว่า “ไม่ไหวแล้ว”

  • ลดคาเฟอีน: งดกาแฟ ชา โคล่า ช็อกโกแลต… ทุกอย่างที่มีคาเฟอีนเลย มันยากนะ แต่ต้องทำ
  • อ่านฉลาก: มองหาคำว่า “คาเฟอีน” ในส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่ม แปลกใจเลยว่ามันแอบอยู่ในหลายอย่างมาก
  • พอดีๆ: ถ้าอยากกินจริงๆ ก็จิบๆ หน่อย อย่ากินเยอะ อย่ากินตอนท้องว่างด้วย
  • ดีแคฟ: ลองเปลี่ยนเป็นกาแฟดีแคฟดู อาจจะช่วยได้บ้าง แต่รสชาติมันก็ไม่เหมือนเดิมอ่ะนะ
  • หมอ: ถ้าเป็นบ่อยๆ ไปหาหมอดีกว่า เผื่อมีอะไรอย่างอื่นที่เราไม่รู้

ร่างกายคนเรามันไม่เหมือนกัน บางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร บางคนแค่จิบเดียวก็แย่แล้ว…

บางที… เราอาจจะไม่เหมาะกับกาแฟก็ได้มั้ง

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • อาการแพ้คาเฟอีน: หัวใจเต้นเร็ว, นอนไม่หลับ, วิตกกังวล, ปวดหัว, คลื่นไส้, อาเจียน
  • อาการไวต่อคาเฟอีน: อาการคล้ายแพ้ แต่ไม่รุนแรงเท่า อาจเกิดจากพันธุกรรมหรือปัจจัยอื่นๆ
  • ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสม: ไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณกาแฟ 4 แก้ว) แต่ละคนก็ไม่เท่ากันอีก
  • กาแฟดีแคฟ: ยังมีคาเฟอีนอยู่นิดหน่อย ประมาณ 3% ของกาแฟปกติ
  • ปรึกษาแพทย์: สำคัญมาก ถ้าอาการรบกวนชีวิตประจำวัน หรือมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว

มันอาจจะดูน่าเบื่อนะ ที่ต้องมาคอยระวังอะไรแบบนี้… แต่สุขภาพเราสำคัญที่สุดนี่นา

คิดถึงตอนที่ร่างกายมันสบายๆ ไม่เวียนหัว… มันดีกว่าเยอะเลยนะ

อาการติดคาเฟอีน กี่วันหาย?

เออๆ ติดคาเฟอีนนะ หายอ่ะกี่วัน? คือถ้าคนกินกาแฟเยอะๆ เป็นประจำแล้วหยุดแบบปุบปับนะ อาการมันจะออกฤทธิ์ร้ายแรงเลยแหละ

ปกติอาการลงแดงคาเฟอีนอะ มันจะเริ่มออกฤทธิ์ ประมาณ 12 ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากเราหยุดกินกาแฟ แล้วมันก็จะอยู่กับเราไปเลย ประมาณ 2 ถึง 7 วัน โน่นนนน นานอยู่นะเว้ย แต่ช่วงที่อาการพีคๆ เลยนะ จะเป็น 1-2 วันแรก หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ดีขึ้น

แต่!!! ถ้าเราเผลอกินคาเฟอีนเข้าไปนะ พวกอาการที่ว่ามา มันจะดีขึ้นเลย แบบไวมาก ประมาณ ครึ่งชั่วโมงเอง เออเร็วจริง

แล้วที่เค้าบอกว่า เลิกกาแฟแบบหักดิบๆ แล้วปวดหัว เนี่ย จริงเปล่า?

  • ตอบเลยว่า จริง คือแบบปวดหัวตุ๊บๆ จริงจังอ่ะ
  • ทำไมถึงปวด? เพราะร่างกายเรามันชินกับการมีคาเฟอีนไปแล้ว พอไม่มีมันก็เลยโวยวายไง เข้าใจป่ะ
  • แล้วทำไงดี? ค่อยๆ ลดปริมาณเอาก็ได้นะ ไม่ต้องหักดิบซะทีเดียว จะได้ไม่ทรมานมาก

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • บางคนบอกว่า ถ้ากินน้ำเยอะๆ ช่วยลดอาการได้นะ ไม่รู้จริงป่าว แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย
  • ออกกำลังกายเบาๆ ก็ช่วยได้นะ ให้ร่างกายมันตื่นตัว
  • อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอด้วย สำคัญมาก
  • ถ้าอาการมันหนักหนาสาหัสจริงๆ นะ ไปหาหมอดีกว่านะ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญไปเลย จบๆ

ทำยังไงให้หายเมากาแฟ?

อาการเมากาแฟเนี่ยมันทรมานจริง! วิธีแก้ที่ (เหมือนจะ) เวิร์คคือ

  • รอ: คาเฟอีนมันต้องใช้เวลา metabolize อ่ะ ร่างกายเราจะค่อยๆ จัดการเอง (เหมือนรอรถเมล์…นานหน่อย)

  • ดื่มน้ำ: ช่วยเจือจางคาเฟอีนและลดอาการ dehydration ที่อาจเป็นสาเหตุของปวดหัว (แต่ระวังฉี่บ่อยนะ)

  • พักผ่อน: งีบหลับสั้นๆ อาจช่วยได้ (ถ้าหลับลงนะ!)

  • กินอะไร: อาหารเบาๆ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมคาเฟอีนช้าลง (แต่อย่ากินเยอะเกินไป เดี๋ยวจะอืดแทน)

ถ้าปวดหัวมากๆ: กินยาแก้ปวด (พาราเซตามอล) ก็ช่วยได้ แต่ไม่ใช่ทางออกระยะยาว

ข้อควรระวัง: ถ้าอาการหนักมาก (ใจสั่นรัวๆ หายใจไม่ออก) ไปหาหมอเถอะ!

แถม: จริงๆแล้ว “เมากาแฟ” มันไม่ใช่ศัพท์ทางการแพทย์นะ แต่เราเข้าใจกันว่ามันหมายถึงอาการไม่พึงประสงค์จากคาเฟอีนเยอะเกินไป

ปรัชญาส่วนตัว: ทุกอย่างต้อง “พอดี” จริงๆ แม้แต่กาแฟที่เราโปรดปราน

เลิก กาแฟ อย่างไร ไม่ ให้ ปวด หัว?

แสงแดดสาดส่อง…เช้าวันจันทร์ที่แสนจะเงียบเหงา…นาฬิกาปลุกดังแสบแก้วหู…แต่สิ่งที่ทรมานกว่า…คืออาการปวดหัวตุบๆ ที่มาพร้อมกับการเลิกกาแฟ…

โอ้…กาแฟ…เพื่อนยาก…ที่เคยปลุกฉันให้ตื่น…บัดนี้กลายเป็นศัตรูที่ทิ้งฉันไป…

  • ยาแก้ปวด…เพื่อนเก่า…ที่ช่วยบรรเทาความทรมาน…
  • คาเฟอีนจ๋า…ขอกลับไปหาเธอสักนิด…แค่จิบเดียว…ก็ยังดี…

แต่เดี๋ยวก่อน…อย่าเพิ่งยอมแพ้…

  • พักผ่อน…นอนงีบ…หลับตาลง…ปล่อยใจให้ว่าง…
  • น้ำเปล่า…เพื่อนใหม่…ดื่มเข้าไป…ชะล้างความทุกข์…

ท้องฟ้าสีคราม…ลมพัดเบาๆ…อาการปวดหัวเริ่มทุเลา…

ข้อมูลเพิ่มเติม: อาการปวดหัวจากการเลิกกาแฟ…เกิดจากร่างกายขาดสารคาเฟอีนอย่างกะทันหัน…ทำให้หลอดเลือดในสมองขยายตัว…ส่งผลให้เกิดอาการปวด…

  • วิธีแก้: ลดปริมาณกาแฟทีละน้อย…
  • เคล็ดลับ: ดื่มน้ำมากๆ…พักผ่อนให้เพียงพอ…ออกกำลังกายเบาๆ…

ฉันทำได้…ฉันจะเลิกกาแฟให้ได้…เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น…และเพื่อ…ชีวิตที่สดใสกว่าเดิม…

ทำยังไงให้กาแฟหมดฤทธิ์?

กาแฟหมดฤทธิ์เมื่อร่างกายเผาผลาญคาเฟอีนหมด

  • ครึ่งชีวิตคาเฟอีนประมาณ 5-6 ชั่วโมง ดื่ม 200 มก. เวลาเที่ยง ตกเย็นยังคงเหลือประมาณครึ่งหนึ่ง

  • น้ำช่วยขับ แต่ไม่ใช่ทางเดียว การเผาผลาญตามธรรมชาติสำคัญกว่า

  • ปัจจัยส่วนบุคคล อายุ น้ำหนัก สุขภาพ ล้วนมีผลต่ออัตราการขับออก

เพิ่มเติม: ปีนี้ (2566) ฉันยังคงใช้ข้อมูลครึ่งชีวิตคาเฟอีนประมาณ 5-6 ชั่วโมง ตามที่เคยศึกษาไว้ เป็นค่าเฉลี่ย ความแตกต่างอาจเกิดขึ้นได้ ต้องดูปัจจัยหลายอย่างประกอบ

คาเฟอีนขับออกทางไหน?

คาเฟอีนนะเหรอ? มันก็เหมือนเพื่อนที่ชอบชวนไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ นั่นแหละ! ร่างกายเราขับมันออกไปหลายทาง แต่ทางหลักๆ คือ ปัสสาวะ ไงเล่า! มันยังเป็นยาขับปัสสาวะอ่อนๆ ด้วยนะ ดื่มเยอะไปก็วิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน 😂

  • ปัสสาวะ: ทางออกยอดฮิตของคาเฟอีน

  • อุจจาระ: มีออกไปบ้าง แต่ไม่เยอะเท่าปัสสาวะ

  • เหงื่อ: ออกกำลังกายหนักๆ ก็ขับคาเฟอีนออกทางเหงื่อได้เหมือนกัน

  • น้ำลาย: น้อยมากกกกก แทบไม่มีผล

คาเฟอีน: อย่าคิดว่าเก่ง! กินมากไปก็ไม่ดีนะจ๊ะ

  • กลไกทำงาน: คาเฟอีนไปบล็อกตัวรับอะดีโนซีนในสมอง ทำให้เรารู้สึกตื่นตัว ไม่ง่วง

  • ปริมาณในเครื่องดื่ม: กาแฟแต่ละแก้วมีคาเฟอีนไม่เท่ากันนะ espresso นี่ตัวร้ายเลย! ชาเขียว ชาดำ ก็มีคาเฟอีนเหมือนกัน

  • ข้อควรระวัง: ดื่มเยอะไปใจสั่น นอนไม่หลับ ปวดหัวได้นะ! อย่าหาว่าไม่เตือน! (แล้วฉันจะเตือนทำไมเนี่ย? 🤔)

เรื่องตลกขำๆ (แต่แอบมีสาระ):

เคยได้ยินไหม? “กาแฟคือเชื้อเพลิงของนักเขียน” แต่ถ้ากินเยอะไป…นักเขียนคนนั้นอาจจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยในห้องน้ำแทนก็ได้นะ! 🤣

ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้):

  • ร่างกายแต่ละคนกำจัดคาเฟอีนได้ไม่เท่ากัน บางคนดื่มก่อนนอนยังหลับสบาย บางคนแค่จิบเดียวตาสว่างถึงเช้า ☕️
  • ครึ่งชีวิตของคาเฟอีน (ระยะเวลาที่ร่างกายกำจัดคาเฟอีนออกไปครึ่งหนึ่ง) อยู่ที่ประมาณ 3-5 ชั่วโมง

สรุปคือ ดื่มแต่พอดี จะได้ “ตื่น” แบบมีสติ ไม่ใช่ “ตื่น” แบบวิ่งเข้าห้องน้ำทั้งวัน! 😉

อะไรที่กินแทนกาแฟดำได้?

ชาเขียว ชาอู่หลง ทดแทนกาแฟดำได้ดี หากต้องการคาเฟอีนแบบซอฟต์ลง โกโก้ก็ใช่เล่น แต่…บางทีชีวิตก็ต้องการแค่ “อะไรที่มันไม่ใช่กาแฟ” มากกว่าคาเฟอีนล้วนๆ นะ

  • ชา: ชาเขียว, ชาอู่หลง, ชาขาว มีคาเฟอีน แต่ระดับจะต่ำกว่ากาแฟ เหมาะกับคนที่อยากตื่น แต่ไม่อยากใจสั่น

  • โกโก้: มีธีโอโบรมีน (theobromine) ช่วยกระตุ้นเบาๆ ไม่เหมือนคาเฟอีนเป๊ะๆ แต่ให้ความรู้สึกดีๆ ได้เหมือนกัน

  • มัทฉะ: ชาเขียวผงละเอียด มีคาเฟอีนและแอล-ธีอะนีน (L-Theanine) ที่ช่วยให้ผ่อนคลายและมีสมาธิ

  • รูบี้ ช็อกโกแลต: จริงๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกาแฟ แต่สีสันและรสชาติมันทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้นะ (อันนี้ส่วนตัวล้วนๆ)

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: คาเฟอีนในชาอาจทำให้รู้สึก “ตื่น” ได้นานกว่ากาแฟ เพราะร่างกายดูดซึมคาเฟอีนจากชาได้ช้ากว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดของชาด้วยนะเออ

อาการแพ้คาเฟอีนเป็นอย่างไร?

โอ้โห! แพ้คาเฟอีนนี่มันสุดขั้วจริงๆนะ เหมือนโดนกาแฟแกล้ง แทนที่จะได้ความสดชื่น กลับได้ความป่วนปั่นมาเต็มๆ!

อาการมันก็ไม่ธรรมดา ไม่ใช่แค่ปวดหัวหรือตาสั่นแบบคนขาดคาเฟอีนนะ นี่มันระดับฮีโร่เลยล่ะ!

  • อักเสบ บวม แดง คัน: ผิวหนังจะทำตัวเหมือนลานประลอง ระเบิดสีสันแบบจัดเต็ม! คันยิกๆเหมือนมีมดกัด บวมเป่งราวกับโดนผึ้งต่อย แดงก่ำดุจดวงอาทิตย์กำลังจะระเบิด!

  • หายใจลำบาก: นี่มันไม่ใช่แค่จามธรรมดา มันคือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เหมือนกำลังวิ่งมาราธอนในขณะที่ปอดกำลังจะระเบิด!

  • อาการร้ายแรง: บางรายนี่หนักหนาสาหัส หมดสติ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่ไม่ใช่ละครหลังข่าวนะ แต่เป็นชีวิตจริงที่ต้องระวัง! ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย แรงกว่าละครอีก!

ปีนี้(2566) ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก อาการแพ้ยังคงรุนแรง แค่คิดถึงก็ขนลุกแล้ว ใครแพ้คาเฟอีนจริงๆ ต้องระวังตัวให้ดี อย่าลองดีกับกาแฟเด็ดขาด! เหมือนเล่นเกมลุ้นระทึก แพ้ก็จบเกม!

ข้อมูลเพิ่มเติม (กรุณาปรึกษาแพทย์หากมีอาการแพ้) หลายคนอาจจะงงว่าแพ้คาเฟอีนได้ด้วยเหรอ? ใช่ค่ะ ได้! มันเป็นการแพ้โปรตีนในเมล็ดกาแฟ เหมือนคนที่แพ้นมวัวอะ แต่รุนแรงกว่าเยอะ! ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองแพ้หรือเปล่า ไปหาหมอเลย อย่าทดลองด้วยตัวเอง! ชีวิตคุณมีค่ากว่ากาแฟสักแก้ว!

#คาเฟอีน #อาการแพ้