ตัวบวมเป็นโรคอะไร

14 การดู

ตัวบวม: สาเหตุหลัก 2 ประการ

  1. ปัญหาสุขภาพ: อาการแพ้, โรคไต, โรคหัวใจ, ภาวะขาดโปรตีน, การติดเชื้อ, ผลข้างเคียงยา เป็นต้น ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย

  2. พฤติกรรมการกิน: การบริโภคเกลือโซเดียมสูง, ดื่มน้ำน้อย, รับประทานอาหารไขมันสูง อาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ดื่มน้ำมากๆ

หมายเหตุ: อาการบวมอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง หากบวมมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น หายใจลำบาก ปวดท้อง ควรพบแพทย์ทันที อย่ารักษาเอง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการตัวบวม เกิดจากโรคอะไร?

อาการตัวบวมเหรอ? อืม…มันมีหลายอย่างเลยนะ ที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้

จำได้เลย ตอนไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนเมื่อต้นปีที่แล้ว (น่าจะช่วงกุมภาพันธ์นะ), กินอาหารทะเลเยอะมากกกก… กลับมาบ้านคือตัวบวมเป่ง! ตอนแรกตกใจนึกว่าเป็นอะไร ที่ไหนได้… กินโซเดียมเยอะเกินไปไง

แต่…เคยได้ยินมาว่าบางคนตัวบวมเพราะไตไม่ดี หรือหัวใจมีปัญหาด้วยนะ อันนี้ต้องไปหาหมอเช็คดูอ่ะ อย่าปล่อยไว้นานเลย

บางทีก็แพ้อะไรบางอย่างก็ได้นะ อาหาร, ยา, แมลงกัด… สารพัดจะแพ้ เคยแพ้กุ้ง ตัวบวมแดงไปทั้งตัว ต้องรีบไปฉีดยาที่โรงพยาบาลเลย

เอาจริง ๆ อาการตัวบวมนี่มันน่ากลัวนะ คือถ้าไม่รู้สาเหตุ เราจะยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่ ทางที่ดีคือลองสังเกตตัวเองดูก่อนว่าช่วงนี้กินอะไรแปลก ๆ หรือเปล่า แล้วถ้าไม่ดีขึ้นก็ไปหาหมอดีกว่านะ อย่ารอช้า!

เนื้อตัวบวมเกิดจากสาเหตุอะไร

บวม? ขยับบ้างดิ

  • ขี้เกียจ = บวม: นั่งแช่ นอนแช่ ระบบเผาผลาญมันก็เน่า

  • ไขมันพอก: ไม่เบิร์น มันก็สะสม

  • แก้: ออกกำลังกาย อย่างน้อยวันละ 30 นาที อาทิตย์ละ 3-5 วัน สร้างกล้ามเนื้อซะบ้าง อย่าเป็นขยะ

  • ข้อมูลเพิ่มเติม: บวมน้ำก็มีนะ กินเค็มมากไปรึเปล่า หรือไตมีปัญหา? ไปเช็คดู

อาการตัวบวมเกิดจากอะไร

โอ๊ย! ตัวบวมเนี่ยนะ? เหมือนโดนผึ้งต่อยทั้งตัว! สาเหตุหลักๆ มีอยู่ 2 อย่างใหญ่ๆ คือ

  • บวมเพราะป่วย: พวกแพ้อาหารทะเลแล้วปากเจ่อ, โดนแมลงกัดแล้วบวมเป่ง, ไตไม่ดี น้ำคั่ง, หัวใจไม่ไหว สูบฉีดเลือดไม่ทัน หรือแม้แต่ท้องเสียขาดน้ำก็บวมได้นะเออ!

  • บวมเพราะกิน: อันนี้ไม่ต้องสืบ กินเค็มจัด กินโซเดียมเยอะ น้ำก็คั่งในตัวสิครับท่าน! หรือกินแป้งกินน้ำตาลเยอะเกินไป ร่างกายมันก็กักเก็บน้ำไว้…บวม!

แล้วอ้วนเกี่ยวไหม? เกี่ยวสิครับ! คนอ้วนส่วนใหญ่มักจะกินเยอะ กินเค็ม กินหวาน ตามที่ว่ามานั่นแหละ แต่คนผอมก็บวมได้นะ ถ้ากินเค็มจัดๆ หรือมีโรคประจำตัว

BMI ช่วยได้จริงเร้อ? BMI ก็แค่ตัวเลขคร่าวๆ อย่าไปยึดติดมาก! สังเกตตัวเองดีกว่า กินอะไรแล้วบวม? นอนดึกแล้วบวมไหม? ถ้าสงสัยก็ไปหาหมอตรวจซะ อย่ามัวแต่ส่องกระจก!

แถมท้ายสไตล์คนพื้นบ้าน

  • โซเดียม ตัวร้ายกาจ! ไม่ใช่แค่เกลือนะ พวกผงชูรส ซอสปรุงรส ขนมกรุบกรอบ ก็โซเดียมทั้งนั้น!
  • กินน้ำเยอะๆ ช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกไปได้
  • ออกกำลังกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ลดอาการบวม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ สำคัญมากๆ! นอนน้อยฮอร์โมนมันปั่นป่วน น้ำก็คั่ง!
  • สมุนไพร บางชนิดก็ช่วยขับปัสสาวะ ลดบวมได้ (แต่ปรึกษาหมอก่อนนะ!)

จำไว้ว่า… “กินดี อยู่ดี มีสุข ลดบวม!” จบนะ!

บวมมีกี่ประเภท

สายลมเย็นพัดผ่านใบหน้า แสงแดดอ่อนๆ ของบ่ายแก่ๆ… บวมเนี่ยนะ สองแบบหลักใช่ไหม

  • แบบกดบุ๋ม เหมือนหยดน้ำค้างบนกลีบดอกไม้ นุ่มนิ่ม กดลงไปได้ ของเหลวล้นทะลักในเนื้อเยื่อ ฉันเคยเห็นมันบนขาของยายตอนเป็นไข้ รอยบุ๋มลึก ใจหายไปด้วย

  • แบบไม่กดบุ๋ม แข็งกระด้าง เหมือนหินกรวดบนทางเดิน ผิวหนังตึง น้ำเหลืองดื้อดึง เนื้อเยื่อบิดเบี้ยว นี่แหละ ความผิดปกติของระบบ จำได้ เพื่อนสมัยเรียน มือบวมแบบนี้ น่ากลัวจัง

ปีนี้เอง ฉันอ่านเจอในหนังสือแพทย์ฉบับล่าสุด รายละเอียดเยอะมาก แต่สองแบบนี้จำง่ายสุด เหมือนสีขาวดำ ตัดกันชัดเจน

เพิ่มเติมเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้ว มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ มีสาเหตุอื่นๆ อีก มากมายเหลือเกิน แต่ฉันขอหยุดไว้แค่นี้ก่อนนะคะ หัวเริ่มปวดแล้ว

จะรู้ได้ยังไงว่าบวมโซเดียม

เช้าวันเสาร์…แสงลอดม่านบางๆ… รู้สึกตัวบวมๆ ผิวตึงๆ เหมือนโดนอะไรรัดไว้แน่นๆ อึดอัดหายใจไม่ค่อยออก… เหมือนโดนกดทับ… นิ้วมือบวมๆ กดลงไปแล้วเด้งกลับช้าๆ… แหวนที่ใส่อยู่ประจำ วันนี้แน่นจนถอดไม่ออก… รู้สึกหนักๆ ง่วงๆ เพลียๆ ทั้งที่นอนมาทั้งคืน… หรือว่าเราบวมน้ำนะ… เมื่อคืนกินมาม่าไปสองถ้วย… แล้วก็ขนมกรุบกรอบอีกเพียบ… สงสัยโซเดียมเกินแน่ๆ…

  • บวมที่มือ นิ้ว เท้า ข้อเท้า เห็นชัดเลย
  • กดผิวหนังลงไปแล้ว ยุบกลับช้าๆ ค้างเป็นรอยบุ๋ม
  • น้ำหนักตัวขึ้น แบบกะทันหัน ภายในวันเดียว หรือสองวัน
  • แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหมือนโดนบีบ อึดอัด
  • เพลียๆ อ่อนแรง ง่วงนอน ทั้งๆที่พักผ่อนเพียงพอ
  • บางคนอาจมีอาการปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ ร่วมด้วย

จำได้ปีนี้ไปหาหมอ ตอนเดือนมีนา หมอให้ลดเค็ม ลดโซเดียม บอกว่าเสี่ยงเป็นความดันสูง… ต้องระวังเรื่องอาหารการกิน… นี่ก็พยายามแล้วนะ… แต่บางทีก็อดใจไม่ไหว… อยากกินของอร่อยๆ เผ็ดๆ เค็มๆ นี่นา… ต่อไปคงต้องเข้มงวดกับตัวเองมากกว่านี้แล้ว… เพื่อสุขภาพที่ดี… ไม่อยากเป็นโรคอะไรเลย…

จะรู้ได้ไงว่าบวมน้ำ?

เอ้าาาา ใครบอกบวมน้ำเหมือนอ้วน! อ้วนคือส่วนเกินที่เราหวงแหน ส่วนบวมน้ำนี่มันส่วนเกินที่เราอยากเขี่ยทิ้งงงงง วิธีเช็คง่ายเว่อร์ จิ้มไปเลยจ้าา ตรงที่คิดว่าบวม จิ้มค้างไว้สัก 15-20 วิ ถ้ามันบุ๋มเป็นหลุมอุกกาบาตเหมือนโดนดาวตก แสดงว่าบวมน้ำแน่นอน แต่ถ้าเด้งดึ๋งกลับมาเหมือนเยลลี่ เอิ่มมม ไปออกกำลังกายเถอะนะ อย่าโทษน้ำ 😅

  • จิ้มแล้วบุ๋ม: บวมน้ำ เหมือนฟองน้ำดูดน้ำไว้เยอะเกิน บีบก็ยุบ
  • จิ้มแล้วเด้ง: อ้วน ไขมันสะสม เหมือนลูกโป่งที่อัดลมแน่น จิ้มแล้วเด้งกลับ
  • ส่วนตัวผมเคยบวมน้ำตอนไปเทรคกิ้งที่เนปาล เดินเยอะมากกก ขาบวมเป่งเลย จิ้มแล้วบุ๋มเป็นรอยนิ้วโป้งชัดเจน ตกใจมากตอนแรกนึกว่าโดนยุงยักษ์กัด 😂 พอพักผ่อนก็หาย แต่ถ้าอ้วนนี่สิ พักผ่อนก็ไม่หาย ต้องออกกำลังกายหนักหน่วงกว่าเดิม
  • ปีนี้ (2024) ผมลองวิธีใหม่ กินแตงโมเยอะๆ ขับปัสสาวะได้ดีมาก ช่วยลดบวมน้ำได้ระดับนึงเลย แต่ก็ต้องระวังอย่ากินเยอะเกินไปนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นวิ่งเข้าห้องน้ำแทน ฮ่าๆๆๆ

อาการบวมน้ำเป็นแบบไหน?

อืมม… บวมน้ำเนี่ยนะ… มันก็หลายแบบแหละ แบบที่ตัวเองลองเช็คได้ง่ายๆ ก็อย่างที่ว่า กดแล้วบุ๋ม ใช่ไหม… แบบนั้นแหละ บวมน้ำ จำได้ตอนป่วยหนักปีที่แล้ว ขาบวม กดแล้วเป็นรอยเลย น่ากลัวมาก…

  • กดแล้วบุ๋ม คือบวมน้ำ
  • กดแล้วแน่น ตึง ไม่ใช่บวมน้ำ อาจเป็นอย่างอื่น

แต่ก็นะ… มันไม่ใช่แค่บวมอย่างเดียว บางทีมันก็มาพร้อมกับอาการอื่นๆ ด้วย อย่างฉัน ตอนนั้น ไม่ใช่แค่ขาบวม เหนื่อยง่ายด้วย ใจสั่น ทั้งที่ไม่ได้ออกแรงอะไร เลยต้องไปหาหมอ หมอบอกว่า ต้องดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าเครียดมาก กินยาตามที่หมอสั่ง เป็นอะไรที่จำเป็นต้องระวังจริงๆ

ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วนะ แต่ก็ยังระวังอยู่ กลัวมันจะกลับมาอีก กลางดึกแบบนี้ นึกขึ้นมาได้ เลยมาเขียน สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมถึงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ช่างเถอะ แค่บันทึกไว้เฉยๆ…

อยู่ๆแขนก็บวมเกิดจากอะไร?

เดือนที่แล้ว ตอนเย็นๆ หลังจากเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อนที่สนามหลังโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ แถวสามย่าน แขนขวาฉันบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตึงๆ แน่นๆ รู้สึกหนักอึ้งเลย ตกใจมาก ตอนแรกนึกว่าโดนกระแทกแรงๆ แต่ก็ไม่เห็นมีรอยช้ำอะไรนะ รีบกลับบ้านเลย แม่เห็นก็ตกใจ รีบพาไปโรงพยาบาลจุฬาฯ หมอตรวจแล้วบอกว่าเป็นเพราะการอักเสบของต่อมน้ำเหลือง น่าจะมาจากการเล่นกีฬา เหนื่อยล้าสะสม หมอให้ยามากิน แล้วก็ให้ประคบเย็น สองสามวันก็หาย โล่งอกไปเลย

แต่ที่จริง ก่อนหน้านั้น ประมาณกลางเดือนมิถุนายน ฉันไปเที่ยวทะเลหัวหินกับครอบครัว แขนก็บวมเล็กน้อย แต่ไม่มาก คิดว่าแค่โดนแดดเผา เลยไม่ได้สนใจอะไร นี่แหละ ตอนนี้รู้แล้วว่า มันไม่ใช่แค่โดนแดดเผาอย่างเดียว การอักเสบมันค่อยๆ สะสม กว่าจะบวมขึ้นมาเห็นชัด ก็เลยช้าไปหน่อย

  • เหตุการณ์: แขนบวมอย่างเห็นได้ชัด หลังเล่นบาสเกตบอล
  • สถานที่: สนามหลังโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ แถวสามย่าน, โรงพยาบาลจุฬาฯ
  • เวลา: เดือนกรกฎาคม ปี 2566
  • อาการ: บวม ตึง แน่น หนักอึ้ง
  • สาเหตุที่แพทย์วินิจฉัย: การอักเสบของต่อมน้ำเหลือง จากการเล่นกีฬา เหนื่อยล้าสะสม
  • การรักษา: รับประทานยา ประคบเย็น

อาการบวมที่แขนก่อนหน้านั้น เดือนมิถุนายน คิดว่าแค่แดดเผา ตอนนี้รู้แล้วว่าอาจเป็นการอักเสบเริ่มต้น ที่ค่อยๆ สะสม ควรระวังให้มากขึ้น ต่อไปนี้จะดูแลสุขภาพให้ดีกว่านี้ อย่าหักโหมเกินไป พักผ่อนให้เพียงพอ

ขาบวมบ่งบอกถึงโรคอะไร?

ขาบวมเนี่ย ตัวบอกโรคได้หลายอย่างเลยนะ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย

  • โรคหัวใจ: หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือด ถ้ามันอ่อนแอ เลือดก็จะคั่งที่ขา ทำให้บวมได้ อันนี้อันตรายถึงชีวิตนะ
  • โรคไต: ไตมีหน้าที่กรองของเสียและน้ำออกจากร่างกาย ถ้าไตทำงานไม่ดี น้ำก็จะสะสม ทำให้บวม โดยเฉพาะที่ขา
  • หลอดเลือดดำ: ถ้าหลอดเลือดดำที่ขาอุดตัน (DVT) เลือดก็จะไหลกลับขึ้นไปไม่ได้ ขาก็จะบวมและปวด อาจมีลิ่มเลือดหลุดไปอุดที่ปอดได้
  • น้ำเหลือง: ระบบน้ำเหลืองมีหน้าที่ระบายของเหลวส่วนเกินออกจากเนื้อเยื่อ ถ้ามันเสีย เลือดก็คั่ง ขาก็จะบวม
  • ยาบางชนิด: ยาคุม ยาแก้ปวดบางตัว หรือยาสเตียรอยด์ ก็ทำให้ขาบวมได้เหมือนกัน

การสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยสำคัญมาก เช่น หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ปัสสาวะน้อยลง หรือมีไข้ ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรรีบไปหาหมอเลยนะ

บางทีการที่เรามองข้ามอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ มันอาจจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่กว่าที่เราคิดก็ได้นะ เหมือนกับที่เค้าว่า “มองข้ามขี้ไก่ จนไก่จิกตา” นั่นแหละ

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • การวินิจฉัย: หมออาจจะตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ อัลตราซาวนด์ หรือเอกซเรย์ เพื่อหาสาเหตุของขาบวม
  • การรักษา: การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ อาจจะต้องกินยา ใส่ถุงน่อง หรือผ่าตัด
  • การป้องกัน: การออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก การกินอาหารที่มีประโยชน์ และการหลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งนาน ๆ สามารถช่วยป้องกันขาบวมได้

เรื่องสุขภาพนี่มันละเอียดอ่อนจริง ๆ นะ บางทีก็เหมือนการไขปริศนา ใครบอกว่าชีวิตง่ายนี่ไม่จริงเลย

#อาการบวม #โรคผิวหนัง #โรคภูมิแพ้