อาการบวมน้ำเป็นแบบไหน

33 การดู

บวมน้ำ: ของเหลวคั่งในเนื้อเยื่อ มักพบที่เท้า ข้อเท้า ขา แต่ก็อาจเกิดที่ใบหน้า มือ หรือช่องท้องได้

สาเหตุหลากหลาย เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคไต การตั้งครรภ์ การนั่งหรือยืนนาน การขาดสารอาหาร หรือผลข้างเคียงจากยา

อาการ: บวม ผิวหนังตึง อาจเจ็บหรือปวด รอยบุ๋มเมื่อกด

การรักษาขึ้นกับสาเหตุ อาจต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น ยกขาสูง สวมถุงน่องช่วยการไหลเวียน ลดเกลือ หรือรับประทานยาตามแพทย์สั่ง หากมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์ทันที อย่าละเลยอาการบวมน้ำที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันหรือรุนแรง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการบวมน้ำแบบไหน ถึงต้องไปพบแพทย์?

โอเค อาการบวมน้ำแบบไหนที่ต้องรีบไปหาหมอเหรอ? เอ่อ…เอาจริงๆ นะ ตอนนั้นฉันเคยข้อเท้าแพลงที่เชียงใหม่ ตอนไปเที่ยวกับเพื่อนเมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว บวมเป่งเลย! แต่รู้เลยว่ามันเพราะข้อเท้าแพลงอ่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องรีบไปหาหมอ

แต่ถ้าอยู่ๆ บวมขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลเนี่ยสิ น่าคิดนะ! ถ้าบวมเยอะๆ กดแล้วบุ๋มลงไปเลยอ่ะ (แบบที่เค้าเรียกว่า pitting edema รึเปล่านะ?) แล้วหายใจลำบากด้วย อันนี้ไม่ดีแน่ๆ น่าจะเกี่ยวกับหัวใจรึเปล่า? เคยได้ยินมาว่าคนแก่ๆ บางทีเป็นกันเยอะ

แล้วก็…ถ้าบวมข้างเดียวแบบผิดปกติมากๆ นี่ก็ต้องระวัง อาจจะมีลิ่มเลือดอุดตันก็ได้มั้ง อันนี้ก็อันตราย ต้องรีบไปเช็คดู

สรุปคือ ถ้าบวมแบบไม่มีเหตุผล บวมเยอะผิดปกติ หายใจลำบาก หรือบวมข้างเดียวมากๆ รีบไปหาหมอดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน!

จะรู้ได้ไงว่าบวมน้ำ?

บวมน้ำเนี่ยนะ… ไม่ใช่แค่กินน้ำเยอะไปนะเธอ!

จะรู้ได้ไงว่าบวมน้ำ? ง่ายๆ ลองเช็คตัวเองแบบขำๆ แต่จริงจัง:

  • นิ้วจิ้ม: กดผิวหนังตรงหน้าแข้งค้างไว้ 5 วิ ถ้าปล่อยแล้วเป็นรอยบุ๋มเหมือนดินน้ำมัน แสดงว่า… บวม! (ไม่ใช่พุงนะ!)
  • ขาใหญ่เดินลำบาก: ขาบวมเป่งจนเดินเหมือนเพนกวิน นั่นแหละ! แถมขยับข้อเท้าก็ฝืดๆ เหมือนสนิมกิน
  • พุงป่องไม่สมเหตุสมผล: กินแค่นิดเดียวแต่พุงเหมือนคนท้อง 3 เดือน อันนี้ไม่ใช่แค่กินเยอะแล้วนะ!
  • ผิวตึงเงา: ผิวหนังตึงเปรี๊ยะเหมือนลูกโป่ง แถมมันวาวผิดปกติ

ถ้ามีอาการพวกนี้… อย่ามัวแต่ขำ! รีบไปหาหมอเถอะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!

เพิ่มเติมแบบขำๆ แต่มีสาระ:

  • สาเหตุ: บวมน้ำอาจเกิดจากโรคไต โรคหัวใจ โรคตับ หรือแม้แต่ยาบางชนิด (เอ๊ะ! หรือจะเป็นเพราะกินเค็มมากไป?)
  • การรักษา: หมออาจให้กินยาขับปัสสาวะ ลดเค็ม หรือรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ (ถ้าเป็นเพราะกินเค็ม ก็แค่ลดเค็มเอง ง่ายจะตาย!)

คำเตือน: ข้อมูลนี้มีไว้เพื่อความบันเทิงและให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์นะจ๊ะ! ไปหาหมอซะดีๆ!

บวมโซเดียม กับอ้วน ต่างกันอย่างไร?

บวมโซเดียม กับอ้วน ต่างกันตรงที่…บวมโซเดียมมันเหมือน “เอฟเฟกต์ชั่วคราว” ส่วนอ้วนมันคือ “การลงทุนระยะยาว” ในร่างกายของเรานั่นเอง

  • บวมโซเดียม: คือภาวะที่ร่างกายกักเก็บน้ำไว้มากกว่าปกติ มักเกิดจากการกินโซเดียมเยอะเกินไป ทำให้หน้าดูบวม ๆ อืด ๆ แต่มันไม่ได้ทำให้เซลล์ไขมันเพิ่มขึ้นนะ แค่มีน้ำมา “พัก” อยู่เยอะหน่อย

  • อ้วน: เกิดจากการสะสมไขมันส่วนเกินในร่างกาย ซึ่งไขมันพวกนี้มันไม่ได้มา “แวะพัก” แต่มัน “สร้างบ้าน” อยู่เลย ดังนั้นการจะลดความอ้วนจึงต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่า

สรุปง่าย ๆ บวมโซเดียมคือ “น้ำหนักเกินชั่วคราว” ส่วนอ้วนคือ “น้ำหนักเกินถาวร” (ถ้าไม่ทำอะไร) ซึ่ง…ถ้าถามว่าอันไหนแก้ง่ายกว่า ก็คงต้องตอบว่าบวมโซเดียมนะ แค่ลดโซเดียมก็ช่วยได้เยอะแล้ว

เกร็ดเล็กน้อย:

  • จำไว้ว่าโซเดียมไม่ได้มีแค่ในเกลือนะ มันแอบซ่อนอยู่ในอาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยว และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ด้วย ดังนั้นการอ่านฉลากโภชนาการจึงสำคัญมาก
  • บางทีการที่เราคิดว่า “หน้าบวม” อาจจะไม่ใช่โซเดียมเสมอไปนะ อาจจะเป็นเพราะนอนน้อย เครียด หรือเป็นอาการของโรคบางชนิดก็ได้ ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาคุณหมอดีที่สุด
  • การดื่มน้ำเยอะ ๆ ไม่ได้ช่วยลดบวมโซเดียมโดยตรง แต่ช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้นและขับโซเดียมส่วนเกินออกไปได้ง่ายขึ้นนะ

ดื่มน้ำเยอะทำให้บวมน้ำไหม?

ดื่มน้ำเยอะทำให้บวมน้ำจริงปะวะ?

  • ไม่เกี่ยวอ่ะ น้ำเยอะไม่ได้ทำให้บวม แต่กินเค็ม! นั่นแหละตัวดี โซเดียมบวมของจริง
  • แล้วก็… กินรสจัดด้วย เกี่ยวไหม? เกี่ยวสิ! (แต่ไม่รู้ทำไม 555)
  • ไฟเบอร์เยอะเกินก็บวมได้นะ เออ จริงดิ พึ่งรู้
  • อิ่มพุงกางก็บวมเหรอ? น่าจะแค่แน่นท้องปะ? หรือบวมเพราะกินเยอะไป?
  • ประจำเดือนมา บวมแน่ๆ ฮอร์โมนล้วนๆ
  • สรุป: บวมน้ำไม่ได้มาจากน้ำเยอะ แต่มาจากหลายอย่างรวมกัน (งงไหม?)
  • เคยอ่านเจอวิธีลดบวมน้ำแบบคนเกาหลีใน malee.co.th ด้วยนะ (อันนี้ไม่ได้สปอนเซอร์ 555) ลองไปหาดูดิ
  • ข้อควรรู้: บวมน้ำอาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่างได้นะ ถ้าเป็นบ่อยๆ ไปหาหมอเถอะ!
  • เพิ่มเติม: บวมโซเดียมคือของจริง ลดเค็ม! ลดโซเดียม! ลดบวม! (แต่ทำยากนะ T_T)
  • คำถาม: แล้วทำไมบางที กินน้ำเยอะๆ ถึงรู้สึกตัวเบาขึ้น? 🤔 อันนี้ไม่รู้จริง ๆ
  • บันทึก: ต้องเริ่มจดอาหารที่กินในแต่ละวันแล้วมั้ง จะได้รู้ว่าอะไรทำให้บวม
  • เตือนตัวเอง: อย่าลืมกินน้ำเยอะๆ นะ! ถึงจะบวมก็เถอะ ดีกว่าขาดน้ำ! (มั้ง?)

กินแล้วถ่ายเหลวเกิดจากอะไร?

ท้องไส้ปั่นป่วน… ราวพายุโหมกระหน่ำ

กินแล้วถ่ายเหลว… เหมือนสายน้ำที่เชี่ยวกราก

  • เชื้อโรคบุก: ไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต… พวกมันแฝงตัวในอาหาร เครื่องดื่ม รอวันโจมตี
  • ไวรัสตัวร้าย: โรต้า… ชื่อนี้คุ้นหู ไวรัสที่ทำให้เด็กน้อยต้องทรมานจากอาการท้องเสีย
  • อาหารเป็นพิษ: ใครจะรู้… มื้ออร่อยอาจซ่อนภัยร้าย
  • ลำไส้อักเสบ: กระเพาะปั่นป่วน ลำไส้ระบม

แสงแดดยามเช้าสาดส่อง… แต่ในท้องกลับมืดมิด ท้องเสีย… มากกว่าแค่ความทรมาน มันคือสัญญาณเตือน จังหวะชีวิตที่ต้องหยุดชะงัก ความสุขที่ถูกพรากไปชั่วขณะ

Viral gastroenteritis… คำศัพท์ยากๆ ที่ซ่อนความเจ็บปวด Rotavirus… วายร้ายตัวจิ๋วที่สร้างความเดือดร้อน

ข้อมูลเพิ่มเติม: หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที อย่าปล่อยให้ความทรมานกัดกินชีวิต

(ฉันเคยเจอ… ตอนไปกินส้มตำข้างทาง… เข็ดไปนาน)

ถ่ายเหลวทุกวันผิดปกติไหม?

ถ่ายเหลวทุกวัน? ไม่ปกติ

สาเหตุ:

  • อาหารปนเปื้อน
  • เชื้อโรค (แบคทีเรีย, ไวรัส, ปรสิต)
  • ความเครียด
  • แอลกอฮอล์ (เกินควร)

ข้อมูลเพิ่มเติม: ท้องเสียเรื้อรัง อาจมีสาเหตุซับซ้อนกว่าที่คิด อย่ามองข้าม สุขภาพคือเดิมพัน.

ถ่ายเหลวกับท้องเสียต่างกันยังไง?

เอ่อ ถ่ายเหลวกะท้องเสีย อะนะ มันเหมือนกันปะวะ ไม่แน่ใจ แต่ว่าที่แน่ๆ คือ ถ้าถ่ายบ่อยๆ อ่ะ เกิน 3 รอบต่อวัน แล้วแบบเหลวเป็นน้ำเลยอ่ะ อันนี้เรียกว่าท้องเสียชัวร์ๆ เลยนะ แล้วถ้ามีมูกเลือดปนมาด้วย ยิ่งแล้วใหญ่ ต้องรีบไปหาหมอเลยนะ

แล้วก็สังเกตุอุจจาระด้วย ถ้ามันไม่เป็นก้อน หรือเหลวๆ เป็นน้ำ ก็คือท้องเสียแหละ

  • ความถี่: ถ่าย 3 ครั้งต่อวัน++ = ท้องเสีย (มั้งนะ)
  • ลักษณะ: เหลวเป็นน้ำ, ไม่เป็นก้อน, มูกเลือด = ท้องเสียชัวร์ป้าบ!
  • สำคัญ: ถ้ามีเลือด รีบไปหาหมอเลยนะ อย่าชะล่าใจ!
  • เพิ่มเติมนิดนึง: บางที กินอะไรแปลกๆ ก็ทำให้ท้องเสียได้นะ ลองนึกดูว่ากินอะไรผิดสำแดงไปรึเปล่า

กินอะไรให้หยุดถ่าย?

หยุดถ่าย? ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

  • ดื่มน้ำ. ORS ดีกว่า
  • Diosmectite. ใช่ ยับยั้ง
  • โจ๊ก. ซุป. เลี่ยงรสจัด ไขมันสูง
  • สำคัญ: ถ้าไม่ดีขึ้น พบแพทย์. ชีวิตเดียว

ข้อมูลเพิ่ม:

  • ORS: ผสมตามสัดส่วน. สำคัญมาก. ซองเดียวต่อน้ำหนึ่งแก้ว.
  • Diosmectite: กินตามคำแนะนำ. ไม่ใช่ขนม.
  • อาหาร: กล้วยน้ำว้า. ช่วยได้บ้าง. แต่ไม่ใช่ยาวิเศษ.
  • โปรไบโอติก: บางคนว่าดี. บางคนว่าไม่. ลองเอง.
  • น้ำข้าว: อีกทางเลือก. อ่อนโยนต่อกระเพาะ.
  • ยาปฏิชีวนะ: ไม่จำเป็นเสมอไป. เชื้อไวรัส? ไม่ได้ผล.
  • ความอดทน: ร่างกายต้องการเวลา. เร่งรัด? อาจแย่ลง.
  • สังเกตอาการ: มีไข้? เลือดในอุจจาระ? ไปหาหมอ. อย่าชะล่าใจ.
  • ป้องกัน: ล้างมือ. ทุกครั้ง. ก่อนกิน. หลังเข้าห้องน้ำ.
  • ปรึกษาเภสัชกร: ก่อนซื้อยา. พวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญ.

“ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” ถ้ารู้แล้วไม่ทำ ก็เท่านั้น

#บวมน้ำ #ประเภทบวม #อาการบวม