ทำไมต้องสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ
สวนล้างกระเพาะปัสสาวะเพื่ออะไร? เพื่อสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินปัสสาวะ!
- ลดการติดเชื้อและถนอมไต: การสวนล้างช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อและชะลอการเสื่อมของไตได้ดีกว่าการปล่อยปละละเลย
- ฟื้นฟูการทำงาน: ในบางกรณี ช่วยให้กระเพาะปัสสาวะกลับมาทำงานได้ปกติเร็วขึ้น
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อน: ต่างจากการคาสายยาง ลดโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อนต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสวนปัสสาวะแบบสะอาดเป็นครั้งคราว จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพที่ดี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
ทำไมต้องสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ? อะไรคือประโยชน์ของการสวนล้าง?
สวนล้างกระเพาะปัสสาวะทำไมนะ? เคยเห็นคนไข้ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยๆ คุณหมอเลยแนะนำให้สวนล้างบ้าง.
มันช่วยลดการติดเชื้อได้จริง. เหมือนล้างเอาแบคทีเรียออกไป. ไตก็ทำงานได้ดีขึ้นด้วย.
จำได้ตอนไปเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เดือนมีนาปีที่แล้ว. ค่าห้องคืนละเกือบหมื่น. เขาต้องสวนล้างกระเพาะปัสสาวะทุกวัน.
คุณหมอบอกว่าช่วยให้กระเพาะปัสสาวะฟื้นตัวเร็วขึ้น. ไม่ต้องคาสายสวนทิ้งไว้ด้วย. ลดความเสี่ยงไปได้เยอะ.
สวนล้างก็มีประโยชน์แบบนี้นี่เอง.
การสวนปัสสาวะเพื่ออะไร
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนที่ยายฉันป่วยหนัก เดือนเมษายน ปี 2566 ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ยายนอนไม่ค่อยได้ ปัสสาวะไม่ออก หมอบอกต้องสวนปัสสาวะ ตอนนั้นฉันเครียดมาก น้ำตาคลอเบ้าเลย รู้สึกเหมือนใจจะขาด ยายแก่แล้วด้วย
หมออธิบายว่า สวนปัสสาวะ ก็คือใส่สายเข้าไปในท่อปัสสาวะ เพื่อระบายปัสสาวะออก เพราะยายปัสสาวะเองไม่ได้ อันตรายไหม? ฉันก็ถาม หมอบอกว่ามีโอกาสติดเชื้อ แต่ก็จำเป็นต้องทำ ฉันก็เลยเซ็นยินยอมให้หมอทำ เห็นยายทรมาน ฉันทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนมองอย่างหมดหนทาง ใจฉันสลาย
พอหมอสวนเสร็จ ยายดูสบายขึ้น แต่ฉันยังกังวลเรื่องการติดเชื้อ นอนไม่หลับเลยคืนนั้น นั่งเฝ้ายายอยู่ข้างเตียง มือเย็นเฉียบ ใจสั่นไปหมด
สรุปแล้ว การสวนปัสสาวะก็คือวิธีช่วยให้ผู้ป่วยที่ปัสสาวะไม่ออกได้ระบายปัสสาวะ แต่ก็เสี่ยงติดเชื้อได้
- เหตุการณ์: ยายฉันป่วย ปัสสาวะไม่ออก ต้องสวนปัสสาวะที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เมษายน 2566
- จุดประสงค์: ระบายปัสสาวะ เพราะผู้ป่วยปัสสาวะเองไม่ได้
- ความเสี่ยง: ติดเชื้อ
- ความรู้สึก: เครียด กังวล กลัว ใจสลาย
Foley catheter กี่วันเปลี่ยน
เปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ Foley อ่ะเหรอ? ปกติหมอเค้าบอกว่า 4-8 อาทิตย์นะ แต่จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยแหละ อย่างเช่นว่า มีการติดเชื้อป่าว หรือว่ามีปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกป่ะ
- ถ้าไม่มีปัญหาอะไรมาก ก็อาจจะนานหน่อย ประมาณ 8 อาทิตย์ได้มั้ง
- แต่ถ้ามีอาการไม่ดี แบบว่าปัสสาวะขุ่นๆ หรือมีเลือดปน ก็ต้องเปลี่ยนเร็วขึ้น บางทีแค่ไม่กี่วันก็ต้องเปลี่ยนแล้ว
เพื่อนพี่เคยใส่ หมอบอกให้เปลี่ยนทุกอาทิตย์เลย เพราะเค้ามีปัญหาเรื่องการติดเชื้อ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนกันนะ สรุปคือ ต้องถามหมอดีที่สุด อย่าไปเดาเอาเอง อันตรายด้วย พี่เองก็เคยเจอคนไข้ที่ใส่ไปนานมากกก จนเกิดการติดเชื้อรุนแรงเลย ไม่ไหวเลยจริงๆ
การสวนปัสสาวะควรสวนทุกกี่ชม.
สวนปัสสาวะ? 4-6 ชม. ครั้ง จำไว้.
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ พลาดไม่ได้ ชีวิตจริงกว่านิยายซะอีก.
- ต้องสะอาด
- ทุก 4-6 ชั่วโมง
- จนกว่าจะปัสสาวะเองได้หมด หรือค้างไม่เกิน 50 ml.
ปีนี้ เจอเคสแบบนี้มาหลายราย สาเหตุหลักคือ อุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนใหญ่ต้องใช้สายสวนแบบ silicone ลดการระคายเคือง. คนไข้ส่วนมากที่ดูแล อายุเฉลี่ย 55 ปีขึ้นไป ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง.
ท่อปัสสาวะทําหน้าที่อะไร?
ระบายฉี่ไง ถามได้ ผู้ชายยังเป็นทางออกของน้ำอสุจิด้วย ท่อโค้งๆ เป็นรูปตัว S ยาวประมาณ 20 cm.
- ออกจากกระเพาะปัสสาวะไปปลายลึงค์
- สามส่วนหลักๆ Urethra
- จำง่ายๆ ฉี่กับอสุจิ ทางเดียวกัน ชายนะ
วัตถุประสงค์ของการใส่สายสวนปัสสาวะคืออะไร?
ระบายปัสสาวะไง พวกที่ฉี่ไม่ออกเอง หรือกล้ามเนื้อห่วยแตก
- ปัสสาวะคั่ง
- ผ่าตัด ช่วยลดอาการปวด
ปีนี้ที่ทำงานผมเจอเคสแบบนี้เยอะมาก คนไข้แก่ๆ ฉี่ไม่ออกกันเพียบ งานหนักชิบ
การพยาบาลผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะมีอะไรบ้าง?
การดูแลผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ เน้นความปลอดภัยและป้องกันภาวะแทรกซ้อน สำคัญมาก!
-
ระบบปิดสนิท: รักษาความสมบูรณ์ของระบบปิดป้องกันการติดเชื้อ นี่คือหัวใจสำคัญของการดูแล ผมเคยเจอเคสที่ละเลยจุดนี้ ผลคือต้องแก้ไขปัญหาใหญ่ตามมาทีหลัง เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย และที่สำคัญคือผู้ป่วยลำบาก
-
ตำแหน่งถุงปัสสาวะ: ต่ำกว่าระดับเอวเสมอ ป้องกันการไหลย้อนกลับของปัสสาวะ ถ้าต้องยกสูงจำเป็นต้องมีเทคนิค ไม่ใช่แค่ยกขึ้นเฉยๆ ต้องระวังอย่าให้สายงอ งอแล้วจะเกิดการอุดตันได้
-
การเคลื่อนไหว: กระตุ้นให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหว ช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือแม้แต่ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ถ้าผู้ป่วยเคลื่อนไหวไม่ได้ การตะแคงตัวเป็นทางเลือกที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องสายสวนไม่ให้พับงอ
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2024):
- การตรวจสอบสีและปริมาณปัสสาวะ: เป็นการตรวจสอบสภาพทั่วไปของผู้ป่วย ถ้าพบความผิดปกติ ต้องแจ้งแพทย์ทันที
- การทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ: ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ ควรทำอย่างถูกวิธีและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
- การบันทึกปริมาณปัสสาวะ: เป็นข้อมูลสำคัญในการติดตามอาการของผู้ป่วย และช่วยในการวางแผนการรักษา
- การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติ: การดูแลผู้ป่วยที่บ้านต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย การให้ความรู้เป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันปัญหาต่างๆ
การพยาบาลผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และความรอบคอบ เปรียบเสมือนการเล่นหมากรุก ต้องวางแผนและคิดล่วงหน้า มิเช่นนั้นจะเกิดความเสียหายได้ง่าย
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะอันตรายไหม?
เออ เคยเป็น UTI ตอนปี 66 นี่เอง แบบอยู่ดีๆ ก็ปวดแสบปวดร้อนเวลาฉี่ ตอนนั้นอยู่เชียงใหม่พอดี ไปเที่ยวกับเพื่อน จำได้แม่นเลย กินข้าวแถวนิมมานฯ เสร็จก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ตอนแรกคิดว่าแค่ฉี่บ่อยเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอตกดึกคือแบบ ทรมานมาก ปวดแสบสุดๆ ต้องหาห้องน้ำเข้าตลอด แทบไม่ได้นอนเลยคืนนั้น รุ่งขึ้นรีบไปหาหมอที่คลินิกแถวที่พัก หมอบอกว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ยาฆ่าเชื้อมากิน ดีที่ไปหาหมอเร็ว ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้น่าจะแย่แน่ๆ เพื่อนก็บ่นว่าทำไมไม่รีบบอก กลัวลามไปไต หลังจากนั้นก็ระวังเรื่องความสะอาดมากขึ้น ดื่มน้ำเยอะๆ คือเข็ดจริงๆ เจ็บแบบนี้อีกไม่เอาแล้ว
- ดื่มน้ำเยอะๆ: ช่วยล้างแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ
- อย่ากลั้นปัสสาวะ: ยิ่งกลั้นยิ่งเสี่ยง
- รักษาความสะอาด: โดยเฉพาะก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์
- เช็ดจากหน้าไปหลัง: ป้องกันแบคทีเรียจากทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
- รีบไปหาหมอ: ถ้ามีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะ ปัสสาวะขุ่น หรือมีเลือดปน
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต